เผยคนญี่ปุ่นมีพาสปอร์ตแค่ 17% ต่ำสุดรอบหลายสิบปี สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจย่ำแย่
เผยตัวเลขสุดน่ากังวล คนญี่ปุ่นมีพาสปอร์ตแค่ 17% ต่ำสุดในรอบหลายสิบปี สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจ ทำคนไม่อยากเที่ยวต่างประเทศ
คนญี่ปุ่นแห่ถอดใจ ไม่เที่ยวต่างประเทศ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลว่า อัตราการถือหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต (Passport) ต่ำสุดในในรอบหลายสิบปี ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่น (Inbound) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปต่างประเทศ (Outbound) กลับลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน
“ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปต่างประเทศลดลงเหลือไม่ถึง 70% เมื่อเทียบกับปี 2019 และที่น่าเป็นห่วงคือ อัตราการถือครองหนังสือเดินทางก็อยู่ที่ประมาณ 17% ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ” ทาคาฮาชิ ฮิโรยูกิ ประธานสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (JATA) กล่าว
จากข้อมูลของสมาคมฯ ที่รวบรวมจากกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ณ สิ้นปี 2024 หนังสือเดินทางที่ยังมีอายุใช้งานอยู่มีประมาณ 20.77 ล้านเล่ม หรือคิดเป็นอัตราการถือครองที่ 17.3% ซึ่งต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ที่มีอัตราสูงถึง 50-80% อย่างเห็นได้ชัด สถิติสูงสุดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 27.7% ในปี 2005 ซึ่งถือว่าน้อยอยู่แล้ว แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถานการณ์กลับยิ่งแย่ลงไปอีก
คุณทาคาฮาชิชี้ว่า สาเหตุหลักมาจากสามปัจจัยสำคัญ คือ
- วิกฤตโควิด-19: ทำให้ผู้คนไม่สามารถเดินทางได้ และความอยากไปเที่ยวต่างประเทศยังไม่กลับมา
- ค่าเงินเยนอ่อน: ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางแพงขึ้น
- ค่าครองชีพสูง: ทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงขึ้นตาม
นอกจากนี้ การที่จำนวนร้านบริษัททัวร์ลดลงอย่างมากในช่วงโควิด-19 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ช่องทางการปรึกษาการเดินทางลดลง
คุณทาคาฮาชิเชื่อว่า การที่ชาวญี่ปุ่นไม่เดินทางออกนอกประเทศนั้น สร้างผลกระทบเชิงลบอย่างมาก เพราะการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศควรเป็นแบบสองทาง และหากไม่มีชาวญี่ปุ่นเดินทางออกไป ก็จะส่งผลต่อการเพิ่มเที่ยวบิน ซึ่งกระทบต่อการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะยาวได้
จากผลสำรวจของ AERA ผู้คนมีหลากหลายความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ ตัวอย่างเช่น
- หญิงวัย 41 ปีจากจังหวัดคานางาวะ: “ไม่รู้มาก่อนเลยว่าอัตราการถือพาสปอร์ตจะต่ำขนาดนี้! รู้สึกว่าคนรุ่นใหม่ความใฝ่ฝันที่จะไปต่างประเทศลดลง เพราะเงินเยนอ่อนค่าทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น”
- หญิงวัย 41 ปีจากเกียวโต: “หลังจากโควิด-19 ฉันพบว่าพาสปอร์ตหมดอายุแล้ว แต่ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องต่ออายุ เพราะเงินเยนอ่อนค่ามาก ไปเที่ยวแล้วต้องมานั่งกังวลเรื่องราคา สู้ใช้เงินในประเทศให้คุ้มค่ากว่า”
- ชายวัย 39 ปีจากโอซาก้า ที่ไม่เคยมีพาสปอร์ต: “ผมไม่สามารถลาพักร้อนยาวๆ ได้ต่อเนื่องพอที่จะไปเที่ยวต่างประเทศได้ วันหยุดยาวอย่างปีใหม่หรือโกลเด้นวีค ค่าเดินทางจากญี่ปุ่นก็แพงมากอยู่แล้ว”
- หญิงวัย 49 ปีจากนากาโนะ: “ตอนฉันยังสาว ฉันอยากออกไปเห็นโลก แต่ตอนนี้คนรุ่นใหม่ดูเหมือนจะหาข้อมูลได้จากสมาร์ทโฟนแทน ทำให้พวกเขาไม่อยากออกไปสัมผัสโลกจริง ฉันกังวลว่าสิ่งนี้จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นอ่อนแอลงในอนาคต”
ประธาน JATA ยังแสดงความกังวลว่า “โอกาสในการศึกษาและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศของเยาวชนญี่ปุ่นกำลังลดลงอย่างมาก สถานการณ์นี้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของญี่ปุ่นในอนาคต”
เขากล่าวเสริมว่า แม้จะมีรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งที่เริ่มส่งเสริมการเดินทางไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ แต่ก็มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้ยังทำได้เพียงในวงจำกัด
อ้างอิง : news.yahoo.co.jp
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง