ธปท.จี้ลูกหนี้เข้า ‘คุณสู้เราช่วย’ ชี้อุปสรรคสำคัญ ‘ตามตัวไม่เจอ-ติดต่อไม่ได้’
ธปท.อัพเดต “คุณสู้ เราช่วย” ลูกหนี้ลงทะเบียนแล้ว 1.7 ล้านราย จำนวน 2.2 ล้านบัญชี ชี้เข้าข่ายผ่านเกณฑ์ 20% หรือราว 7.4 แสนราย จี้แบงก์เร่งกวาดลูกค้าเข้าโครงการ ยันปิดลงทะเบียนสิ้น ก.ย.นี้ ไม่ขยายต่อแล้ว ขณะที่แบงก์-น็อนแบงก์ ชี้ลูกหนี้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อบ้าน-เช่าซื้อ ระบุอุปสรรคสำคัญ “ติดต่อไม่ได้-ตามตัวไม่เจอ”
นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 1 และเฟส 2 ที่เปิดให้ลงทะเบียนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2568 นี้ เมื่อครบกำหนดแล้ว รอบนี้จะไม่มีการขยายออกไปอีก โดยขณะนี้ ธปท.พยายามให้สถาบันการเงินต้อนลูกหนี้มาเข้าโครงการให้ได้มากที่สุด แต่ยอมรับว่าตัวเลขยังค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเกิดจากธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้
ทั้งนี้ ความคืบหน้าโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 1 และเฟส 2 ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2567-18 ส.ค. 2568 มีลูกหนี้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด 1.7 ล้านราย จำนวน 2.2 ล้านบัญชี จากจำนวนลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 3.7 ล้านราย ยอดหนี้ 1.2 ล้านล้านบาท
ขณะที่ลูกหนี้ลงทะเบียนที่เข้าข่าย สำรวจ ณ เดือน ก.ค. 2568 อยู่ที่จำนวน 7.4 แสนราย คิดเป็น 20% ของจำนวนลูกหนี้ที่เข้าข่ายทั้งหมด 3.7 ล้านราย และยอดหนี้ 5.3 แสนล้านบาท คิดเป็น 44% ของยอดหนี้ 1.2 ล้านล้านบาท
“ลูกหนี้ที่เข้าข่าย ประมาณ 85% จะเข้ามาตรการ ‘จ่ายตรง คงทรัพย์’ ตกราว 6.3 แสนล้านบาท เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย”
สำหรับมาตรการ “จ่าย ตัด ต้น” หรือ “ลดผ่อน ลดดอก” ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมเข้ามาในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟสที่ 2 พบว่า มีลูกหนี้เข้าร่วม 1.3 หมื่นราย มูลหนี้ราว 1,000 ล้านบาท โดยส่วนนี้จะเป็นลูกหนี้ที่มีหนี้เสียของสินเชื่อไม่มีหลักประกัน เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เป็นต้น จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีเงื่อนไขผ่อนชำระคืนเป็นงวด (Term Loan) แบบผ่อนปรน ผ่อนชำระ 2% ของเงินต้นคงค้างก่อนเข้ามาตรการ และค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดต้นทั้งหมด พร้อมพักดอกเบี้ยไว้ 3 ปี และจะยกเว้นให้ หากลูกหนี้ทำตามเงื่อนไขได้
“มาตรการจ่าย ตัด ต้น จะเห็นว่ายอดหนี้ไม่เยอะ เพราะว่าเราแคปเพดานหนี้ไว้ 5 หมื่นบาท และเป็นมาตรการใหม่ เราก็กำลังให้แบงก์กวาดลูกหนี้ที่ไม่สามารถเข้าเฟส 1 ได้ สามารถมาเข้าเฟส 2 ได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี ในจำนวนลูกหนี้เข้าข่าย 7.4 แสนราย ลูกหนี้จะต้องเข้ามาทำเงื่อนไขสัญญา เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือได้จริง”
นายจเร เจียรธนะกานนท์ ประธานกลุ่ม บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) กล่าวว่า “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 1 จะเห็นว่าลูกค้าที่ให้ความสนใจเข้าร่วมส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งคาดว่าเฟส 2 ที่ให้ลงทะเบียนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2568 ลูกหนี้อาจจะไม่ได้เข้าร่วมมาก เมื่อเทียบกับเฟส 1
สำหรับมาตรการ “จ่าย ตัด ต้น” จะเห็นลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลเข้าร่วมพอสมควร แต่ในแง่เม็ดเงินไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับเม็ดเงินของสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเช่าซื้อ ทั้งนี้ ทีทีบีช่วยเหลือลูกหนี้เข้าโครงการแล้วกว่า 4.4 หมื่นบัญชี ยอดสินเชื่อราว 2.4 หมื่นล้านบาท
“เราน่าจะกวาดลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือหรือที่ต้องการเข้าร่วมโครงการมาค่อนข้างเยอะแล้วในเฟส 1 คิดว่าเฟส 2 น่าจะเป็นรอบเก็บตก และจำนวนคงไม่ได้สูงเท่าเฟสแรก เพราะมูลหนี้ไม่ได้สูงมาก แต่จำนวนรายอาจจะเยอะ”
นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า เฟส 2 ยังมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการค่อนข้างดี โดยเฉพาะมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ซึ่งเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย มีคนให้ความสนใจเข้าโครงการ 70% ส่วนมาตรการ “จ่าย ปิด จบ” และ “จ่าย ตัด ต้น” ที่เป็นบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ลูกค้ากลุ่มนี้ธนาคารไม่สามารถติดต่อได้ และตัดหนี้สูญ (Write Off) ไปแล้ว
“ลูกค้าบ้านจะให้การตอบรับที่ดีมาก เพราะเป็นมาตรการโดนใจกว่า และลูกค้าเห็นประโยชน์ของการลดค่าผ่อนลง และดอกเบี้ย 0% ลดภาระเยอะเลย ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เราก็จะมีลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าเราจะเน้นกลุ่มระดับกลางและบน โดยเราก็ออฟเฟอร์การช่วยเหลือให้ลูกค้าตามโปรดักต์ที่มี”
นายอธิศ รุจิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย (TBA) กล่าวว่า กรุงศรีคอนซูมเมอร์มีลูกหนี้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 3.4 หมื่นบัญชี และเมื่อพิจารณาคุณสมบัติของลูกหนี้ พบว่า ณ ข้อมูลเดือน ก.ค. 2568 ลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วม 2,000 บัญชี คิดเป็นยอดหนี้ 140 ล้านบาท โดยลูกหนี้ยังสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC กล่าวว่า ลูกค้าของ MTC เข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อยู่ที่ราว 1 หมื่นราย จำนวนเงินต่ำกว่า 1% ของพอร์ตสินเชื่อรวมที่อยู่ราว 1.75 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ วงเงินเฉลี่ย 2-3 หมื่นบาทต่อราย
“เราได้ซอฟต์โลนจากธนาคารออมสินมาราว 1,000 ล้านบาท และกำหนดจะต้องเบิกใช้วงเงินภายในสิ้นปี 2568 ดังนั้น ลูกค้าที่ลงทะเบียนจะต้องเข้ามาทำสัญญาก่อน”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ธปท.จี้ลูกหนี้เข้า ‘คุณสู้เราช่วย’ ชี้อุปสรรคสำคัญ ‘ตามตัวไม่เจอ-ติดต่อไม่ได้’
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net