โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ณัฐพงษ์-วิโรจน์” ลงชายแดน “บุรีรัมย์” ฟังปัญหาหลังเหตุปะทะ ชาวบ้านฟ้อง “เขมร” คุยไม่รู้เรื่อง

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

“ณัฐพงษ์-วิโรจน์” ลงชายแดน “บุรีรัมย์” ฟังปัญหาหลังเหตุปะทะ ชาวบ้านฟ้อง “เขมร” คุยไม่รู้เรื่อง เสนอทางแก้ทำรั้วตลอดชายแดน จะได้ไม่เป็นภาระลูกหลาน ฝาก “รัฐบาล” ไม่ต้องไปสงสารมัน

วันที่ 18 ส.ค. 68 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำคณะ สส. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบ ภายหลังเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศาลากลางบ้านสายโท 10 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ โดยมีหน่วยราชการและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาร่วมเสนอปัญหาในพื้นที่

โดยนายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด กล่าวรายงานว่า ช่วงที่เกิดการปะทะกันมีระเบิดมาตกลงในหมู่บ้าน 226 ลูก แต่พอมาตรวจหลังเหตุการณ์แล้ว 628 จุด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้มอบหมายให้ร่วมกับผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอพยพ โชคดีที่ได้มีการอพยพตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.ค. อย่างทันท่วงที

“วันที่ 24 ก.ค. มีเหตุที่ปราสาทตาเมือน ช่วงเวลาตั้งแต่ 08.00 น. มีลูกระเบิดตกข้างหลังท่าน มีการใช้หลุมบังเกอร์หลุมจริง หลบจริงตรงนี้ บริเวณโดยรอบของเช้าวันที่ 24 ก.ค. บ้านกรวดมีทั้งหมด 3,000 คนที่เฝ้าทรัพย์สินโดยใช้ชีวิตอยู่ในบังเกอร์นี้” นายอำเภอบ้านกรวด กล่าว

จากนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ มีหน้าที่หนึ่งที่สำคัญคือ การรับฟัง และส่งเสียงสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อประสานงานให้ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า วันนี้คนที่ลำบากที่สุดไม่ใช่ตน แต่คือประชาชน คนที่เหนื่อยที่สุดไม่ใช่ตน แต่คือเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างาน

โดยวันนี้สถานการณ์เริ่มเข้าสู่อีกเฟสแล้ว จากเดิมตอนแรกเป็นตำบลกระสุนตก 100 กว่าลูก จนต้องมีการอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง ตนในฐานะสส.ก็ประสานงานรับสิ่งของบริจาค ทั่วทั้งประเทศที่ไม่ได้อยู่ตามแนวชายแดนมาช่วยสนับสนุนที่ศูนย์พักพิง

ขณะเดียวกันทางฝั่งรัฐบาล ได้มีการอนุมัติเงินฉุกเฉิน ให้กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เพื่อช่วยเหลือตามพักพิงและตอนนี้ประชาชนกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว จำเป็นต้องมีมาตรการในการชดเชยเยียวยา ซึ่งทราบมาว่า คณะรัฐมนตรีมีการอนุมัติมาตรการเยียวยาหลายอย่างเช่น การลดค่าน้ำ ค่าไฟ เงินทดแทนการสูญเสียรายได้ มาตรการการลดหย่อนภาษี เงินสำหรับการซ่อมบ้าน ซ่อมรถ และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำมาประกอบอาชีพและซ่อมแซมบ้านเรือน โดยทุกมาตรการเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อุปสรรคปัญหาหน้างาน

วันนี้สิ่งที่ตนอยากได้ยินไม่ใช่เรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หน่วยงานทำไม่ดีอย่างไร หรือรัฐบาลทำไม่ดีอย่างไร แต่เชื่อว่า ทุกคนนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในการแก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ โดยสิ่งที่ตนอยากฟังคือ ปัญหาหน้างาน หรืออุปสรรค เช่น ขั้นตอนการขอรับเงินเยียวยาที่จะต้องมีขั้นตอน และแบบฟอร์มที่บางครั้งอาจจะหาไม่ได้ จะลดขั้นตอนปรากฏระเบียบอย่างไรให้ได้รับเงินอย่างทันท่วงที และเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น เพื่อจะส่งข้อเสนอต่อรัฐบาลในการปรับปรุงระยะเร่งด่วนต่อไป แลละจะผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนจะไปเสนอความเห็นตามกลไกของสภาฯ เพื่อเร่งรัดขั้นตอนในการเบิกจ่ายงบประมาณเยียวยา ที่อาจกำลังล่าช้า มองว่าชาวบ้านยังมีผลกระทบของดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ประชาชนต้องชำระ ตนทราบดีว่าขณะนี้มีการก่อกวนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นโดรนพานิชย์ หรือโดรนส่วนบุคคล แต่ตนมองว่าประชาชนไม่ควรได้รับความหวาดระแวง จนกลายเป็นความปกติใหม่ที่เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งอาจจะมีการหารือกับกองทัพ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดในการจัดการปัญหาดังกล่าว

นายวิโรจน์กล่าวถึงการศึกษาสวัสดิการของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และ กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ว่าควรได้รับระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ และสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะดำเนินการศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย

จากนั้นเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในพื้นที่เล่าถึงปัญหา โดยนายคัมภีร์ หนองน้ำ กำนัน ต.สายตะกู กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ มีเรื่องเงินเยียวยา ยังไม่ชัดเจนว่าจะให้กลุ่มเปราะบางหรือใครบ้าง

“ผมอยากให้มีรั้วการตามแนวเขต เพราะหลังไปรุ่นลูกรุ่นหลานก็จะไม่มีปัญหา เพราะมีเขตชายแดนแล้วกั้นไว้ ผมอยากให้ผู้นำฝ่ายค้านนำเสนอเกี่ยวกับกระสุนปืนเขมรยิงมา อยากให้มีอาวุธที่ทำลาย ยิงทำลายอาวุธก่อนที่จะตกพื้นที่ เพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องชายแดน” นายคัมภีร์ กล่าว (จังหวะนี้ชาวบ้านปรบมือให้)

ส่วน น.ส.บุปผา มีหนองหว้า กำนัน ต.จันทบเพชร กล่าวว่า ตนมาเป็นกำนันใหม่ ก็เจอสถานการณ์ความไม่สงบเลย ซึ่งตนอยากนำเสนอเรื่องโดรน ตอนนี้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัย อยากจะให้มีเครื่องแอนตี้โดรน เพราะเราไม่สามารถเห็นได้ตลอด โดรนมีหลายลำ เป็น 20-30 ลำ ในแต่ละคืน นอกจากนี้ อยากจะให้มีการสนับสนุนเครื่องกระสุน เสื้อ อุปกรณ์ และค่าตอบแทนให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาจนถึงวันนี้

ด้านนายสมชาย ทนัดรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านสายตะกู หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน เล่าปัญหาว่า บ้านตนติดตะเข็บชายแดน ทุกครั้งที่มีลูกปืนตก ตนบ้านตนทุกครั้ง ต้องเจอเหตุการณ์จริง ทำให้รู้ว่าร้ายแรงขนาดไหน ต้นไม้ขาด นับประสาอะไรกับคนอยู่แล้วเหตุการณ์ค่อนข้างไม่แน่นอน เพราะเขมรพูดอย่างปฏิบัติอย่าง พูดจากันไม่ค่อยรู้เรื่อง ณ เวลานี้ตนเลยคิดว่าไม่แน่ไม่นอน

“วันนั้นกระสุนปืนข้ามหัวทั้งคืน ผมเองออกไปไหนมาไหนก็ยากลำบาก ก็สะท้อนปัญหาความต้องการในพื้นที่ตะเข็บชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ดังนั้น อยากจะได้เสื้อเกราะ หมู่บ้านละ 2-3 ตัวพอที่จะออกค่าเวร ดูเหตุการณ์ เพราะเราจะลงพื้นที่ไม่ได้ บางทีบางครั้ง ชรบ. ก็ไปดูวัวควายในคอกอันนี้เรื่องจริง และอยากให้ทางรัฐบาลมีนโยบายปิดชายแดนตลอดแนว ไม่ต้องไปสงสารมัน เพราะมันก็ไม่คุยกันไม่รู้เรื่อง คุยกับเขมรไม่รู้เรื่องเลย พูดอย่างปฏิบัติอย่าง สถานการณ์ก็อย่าเพิ่งไว้วางใจ เพราะดูแล้ว ผมเองก็ว่าไม่แน่ไม่นอนอะไร จะเกิดมันก็ต้องเกิด ยิงสักครั้งหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ให้มันจบไป มันรำคาญ มันไม่จบ ผมจำเป็นต้องอยู่เฝ้าทรัพย์สินของพี่น้องที่ออกไป ผมเองก็ค่อนข้างจะเป็นห่วงเพราะเขมรก็เนอะ” นายสมชาย กล่าว

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้าน 2-3 คนต่อมา เสนอว่าอยากให้ทบทวนมาตรการเยียวยา เราทำมาหากินไม่ได้ ชาวสวนยางระเบิดลง เขาห้ามเข้าไปทำงานกรีดยาง แต่เมื่ออาชีพของเราเป็นการทำมาหากินด้วยการสร้างรายได้จากการกรีดยาง เราก็ทำไม่ได้แล้ว กลางวันกินไม่ได้ กินข้าวไม่อร่อย เสียงฟ้าร้อง เสียงปิดประตูดัง ก็ตกใจ หนึ่งอย่างที่อยากให้ฟังคือสภาพเศรษฐกิจแย่ลงทุกวัน นอกจากนี้ระบบลงทะเบียนเยียวยายังมีความซับซ้อน ต้องเสียเงินเอกสารในการเขียนคำร้องขอรับเงินเยียวยาอีกด้วย มองว่าต้องเสียเงิน เพิ่มขึ้นยิบย่อย ทำไมไม่ให้ทุกคนเท่าเทียมกัน

จากนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การสะท้อนปัญหาในวันนี้ ช่วยให้เรารู้ 3 เรื่อง คือ คน , พื้นที่ และสถานการณ์ อย่างน้อยได้มาเจอ มารับฟัง พี่น้องประชาชนสะท้อนให้ฟังด้วยน้ำเสียงอัดอั้น ถ้าวันนี้ตนและเพื่อนๆ ไม่ได้มานั่งฟังด้วยตัวเองก็จะไม่ได้รู้ถึงความรู้สึกจริงๆ ตนเคยลงพื้นที่มาแล้วที่สุรินทร์ ตอนนั้นตนก็นอนไม่หลับ พร้อมอธิบายการเขียนคำร้องขอรับเงินเยียวยาว่า แบบฟอร์มนี้เป็นของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทำให้ได้รับเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ซึ่งตนมองว่าการแก้ปัญหาต้องไม่ใช่เป็นแบบการสงเคราะห์ ทุกคนไม่มีใครไม่เดือดร้อน สิ่งนี้ต้องปรับ คนที่มีอำนาจก็คือรัฐบาล คนชายแดนควรได้รับเงินเยียวยาถ้วนหน้า เพราะทุกคนเดือดร้อน ตนเชื่อว่ารัฐบาลมีเครื่องไม้เครื่องมืออยู่แล้ว ถ้าออกแบบระบบดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ตนจะนำกลับไปสะท้อนเสียงให้รัฐบาลฟัง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE ROOM 44 CHANNEL

"ภูมิธรรม" มอบ กต.-สมช.-กห. หารือข้อกฎหมายระหว่างประเทศฟ้องกัมพูชา

39 นาทีที่แล้ว

ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญ กห.เร่งดำเนินการคาดเรียบร้อย ก.ย.

57 นาทีที่แล้ว

ไข่เจียว 4 พัน โดนแล้วไง! สคบ.ย์ สั่งปรับ 'ร้านเจ๊ไฝ' 2,000 บาท หลังไม่ติดป้ายบอกราคา เมนูไข่เจียวปูพิเศษ

59 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

“บิ๊กเล็ก” ส่งคลิป “กัมพูชา” วางทุ่นระเบิดฟ้องนานาชาติ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

พปชร.ขอบคุณ ‘ไชยชนก’ ผลักดันยกเลิก MOU2543 และ MOU2544 ย้ำ ‘ประโยชน์ชาติ’ ต้องมาก่อน

สยามรัฐ

"ภูมิธรรม" แจงเรื่อง "อดิศร" ว่าไปตามกฎหมาย หลังไม่ไปฟังคำพิพากษาคดี นปช. ก่อความไม่สงบปี 52

สยามรัฐ

‘ภูมิธรรม’ ชี้อุณหภูมิการเมือง ‘ไม่รู้สึกร้อน’ พรุ่งนี้แพทองธารจะไปศาลรัฐธรรมนูญ

ไทยโพสต์

พปชร. ไม่แปลกใจกัมพูชาปฏิเสธทุกเรื่อง ชี้คลิปมือถือหลักฐานชัดวางทุ่นระเบิดจริง ผลักดันดำเนินคดี

THE ROOM 44 CHANNEL

‘เครือข่าย ปชช.เข้มแข็ง’ ร้อง กมธ.ฯ เรียก ปลัด สธ. แจงปมสอบวินัยร้ายแรง ‘นพ.สุภัทร’ กรณีจัดซื้อ ATK

เดลินิวส์

เครือข่ายประชาชน ยื่นชงกมธ.ป.ป.ช. เชิญปลัดสธ.แจงผลสอบหมอสุภัทร คลายข้อกังขาสังคม

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม