ตามรอยพระราชปณิธาน ณ “ลำปาง” ศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ ศูนย์อนุรักษ์ช้าง
ครั้งนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำให้กับราษฎรในพื้นที่ ทั้งการก่อสร้างฝายทดน้ำทุ่งสาแลแทนของเดิมที่ชำรุด ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่หอม อ่างเก็บน้ำห้วยแม่เลียงหลวง และอ่างเก็บน้ำแม่ผึ้ง ขณะที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ พระพันปีหลวง มีรับสั่งให้นำโครงการศิลปาชีพพิเศษ มาช่วยเหลือราษฎรบ้านแม่ต๋ำ เพื่อเป็นการเสริมรายได้และมีอาชีพที่สุจริต เนื่องจากทรงเห็นว่าราษฎรบ้านแม่ต๋ำ ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก มีฐานะยากจน ไม่มีอาชีพที่แน่นอน อีกทั้งลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขามีที่ทำกินน้อย ราษฎรดำรงชีพด้วยการรับจ้างตัดไม้ เลื่อยไม้ ล่าสัตว์ และหาของป่าออกขายซึ่งเป็นสาเหตุให้ป่าไม้และสัตว์ป่าถูกทำลาย
การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชุมชนบ้านต๋ำที่ไม่อยู่ในหมายกำหนดการเมื่อ 17 มกราคม 2527 นำมาสู่ “โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำ” ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2531 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำขึ้น เพราะทรงเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพในการรังสรรค์งานฝีมือแม้ว่าเขาหรือเธอเหล่านั้นจะเป็นเพียงชาวไร่ชาวนา กิจกรรมภายในศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำจึงมีทั้งการทอผ้า การทำเครื่องปั้นดินเผา (เซรามิก) การแกะสลัก งานจักสานไม้ไผ่ เลยถึงแปลงสาธิตการเกษตร ปศุสัตว์โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำ ทั้งหมดก็เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพและสร้างงานให้กับสมาชิกในชุมชน ทำให้มีรายได้เข้ามาในครัวเรือนเพื่อยังชีพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ครูตี๋-ประดิษฐ์ ฉัตรชัยสิทธิกุล หนึ่งในครูของศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ เล่าว่า ชิ้นงานทั้งแกะสลัก ทอผ้า เครื่องปั้นดินเผา งานจักรสาน ล้วนเป็นผลงานของชาวบ้านในพื้นที่ที่เข้ามาฝึกอาชีพ บางคนอาจไม่เชื่อว่างานแกะสลักที่เพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับเศษไม้ซึ่งจำหน่ายอยู่ที่ศูนย์ศิลปาชีพ เป็นผลงานของชาวไร่ชาวนา สมเด็จฯพระพันปีหลวงทรงให้ทุกคนมาฝึกอาชีพและจ่ายค่าแรงให้เป็นรายวัน กว่างานแต่ละชิ้นจะเสร็จสมบูรณ์เช่นงานแกะสลักบางชิ้นอาจใช้เวลามากกว่า 1 เดือน หากมีโอกาสได้มาเห็นแล้วจะรู้เลยว่างานแต่ละชิ้นของศูนย์ศิลปาชีพที่จำหน่ายอยู่นั้น ไม่ได้แพงเลย เพราะพระองค์ทรงให้การสนับสนุนชาวบ้านมากกว่าราคาขายที่ตั้งไว้
การมาเยี่ยมเยือนศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ บางวันจึงอาจจะได้พบช่างแกะสลักนั่งทำงานกันอยู่มากมาย บางวันอาจจะมีเพียงผลงานวางไว้ให้ดูต่างหน้า เพราะช่างฝีมือเหล่านั้นอาจจะกำลังทำไร่ทำนาที่เป็นอีกอาชีพอยู่ เช่นเดียวกับช่างปั้นและเขียนลายเครื่องปั้นดินเผา ที่ต่างค่อย ๆ บรรจงปั้นด้วยสองมือเพื่อให้ได้ชิ้นงานแบบที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวในแต่ละแบบ หรือลวดลายและสีสันที่ช่างวาดรังสรรค์ขึ้นจากจินตนการของตัวเอง และแน่นอนว่าหากมาแล้วอยากจะลองลงมือปั้นเครื่องปั้นดินเผาชิ้นเดียวในโลกของตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน ขณะที่บางคนไม่ชอบลงมือแต่พร้อมจะเลือกซื้อก็มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อยู่ภายในโครงการ
ไม่ไกลกันนั้นคือพื้นที่ของ “งานฟาร์มตัวอย่าง” ซึ่งมีแปลงสาธิการปลูกผักและไม้ผลชนิดต่าง ๆ รวมถึงแบบจำลองการพัฒนาแหล่งน้ำและพื้นที่ทำกินตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นตัวอย่างให้ราษฎรนำไปพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ทำกิน
ทวี มานะ วิทยากรศิลปาชีพแม่ต๋ำ เล่าว่า วันนี้ภารกิจที่แทบจะเป็นหลักก็คือ การเพาะพันธุ์กล้าผักจำหน่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เพราะเมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่าง ๆ ที่มักจำหน่ายในปริมาณมากและราคาค่อนข้างสูง ทำให้เกษตรกรไม่สามารถลงทุนได้ อีกทั้งการปลูกด้วยเมล็ดโดยตรงอาจจะทำให้มีอัตรารอดต่ำกว่า ไม่เพียงเท่านั้นการเพาะต้นกล้าก็มีรายละเอียดมากมายซึ่งส่งผลต่ออัตราการรอด ขณะที่ต้นกล้าของโครงการนั้นมีอัตราการรอดสูง ที่นี่จึงทำหน้าที่เพาะพันธุ์กล้าเพื่อให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อจำหน่ายต่อไป
นอกจากการเพาะต้นกล้าแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ฟาร์ตัวอย่างยังนำต้นทุเรียนมาทดลองปลูกด้วย และน่าจะให้ผลผลิตได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ไม่เพียงห่วงใยราษฎรในพื้นที่จังหวัดลำปางเท่านั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ทั้งการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ และการพระราชทานทรัพย์เพื่อสนับสนุนกิจการของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
“ช้างมีความสำคัญมาแต่ครั้งประวัติศาสตร์ เคยช่วยรักษาบ้านเมือง กู้บ้านกู้เมือง ดังนั้นขอให้ช่วยกันดูแล มิให้ช้างถูกฆ่าอย่างทารุณเยี่ยงนี้ เพื่อจะได้ไม่ผิดพระราชประสงค์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระทัย ที่จะให้มีการอนุรักษ์ช้าง ให้เป็นสัตว์คู่แผ่นดินสืบไป” พระราชดำรัสในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555 ณ พระตำหนักจิตรลดา
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกของโลก องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ณ บ้านปางหละ ตำบลบ้านหวด อำเภองาว และทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยอีกหลายครั้ง พร้อมพระราชทานเงินให้แก่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เพื่อไว้ใช้ในการดำเนินกิจการของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย พร้อมทั้งติดตามโครงการปล่อยช้างคืนสู่ป่าธรรมชาติ รวมถึงใช้ดำเนินการบริบาลช้างของโรงพยาบาลช้างลำปาง ทั้งยังทรงปล่อยช้างจำนวน 3 เชือกได้แก่ พังมาลัย พังบุญมี และพังบัวลอย
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ อยู่ในความดูแลของอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ แต่เดิมเป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่ง และมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า หลังนโยบายปิดป่าให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 ออป. ได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นและจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ได้แก่ การแสดงช้าง การอาบน้ำช้าง การขี่ช้างชมธรรมชาติ การชมวิถีชีวิตช้างโขลง การฝึกควาญช้าง รวมไปถึงการพักโฮมสเตย์เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตช้าง
การแสดงช้างถือเป็นไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาเยี่ยมชม มีการสาธิตการทำไม้ด้วยช้าง การแสดงความสามารถของควาญช้างในการสื่อสารกับช้าง อาทิเช่น การใช้ภาษาพูด ซึ่งมี มากกว่า 35-40 คำ และการใช้การเคลื่อนไหวของร่างกาย รวมถึงด้านศิลปะอย่างการแสดงการวาดภาพ นักท่องเที่ยวที่ถูกใจสามารถซื้อภาพวาดช้างเป็นของที่ระลึกได้ การแสดงมีวันละ 2 ครั้ง ในเวลา 11.00 น. และ 13.30 น. ทุกวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมชมช้างอาบน้ำ จิบชาชมช้าง การนั่งช้าง และชมช้างโขลง
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ตามที่ ททท. ดำเนินโครงการ “รอยยิ้มของแผ่นดิน” (Smile of the Land : Great Smile Grand Moment) เพื่อถ่ายทอดพระเกียรติคุณอันทรงคุณค่าและพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมุ่งเผยแพร่พระราชปณิธานในการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมชุมชน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมซาบซึ้งในพระเมตตา และภาคภูมิใจในมรดกแห่งรอยยิ้มอันงดงาม ทั้งจากผืนป่า ภูเขา และหัวใจของผู้คนใต้ร่มพระบารมี ซึ่งศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ และศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง เป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยว ที่จะสานต่อพระราชปณิธาน พร้อมส่งต่อเรื่องราวแห่งความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมไทยให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยิ่งขึ้น
ผู้สนใจสามารถติดตามเนื้อหาประชาสัมพันธ์ของโครงการ “รอยยิ้มของแผ่นดิน” ได้ทาง Facebook : Amazing Thailand, 1672 Travel Buddy ข่าวสารท่องเที่ยว ททท. และ อนุสาร อ.ส.ท. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1672 Travel Buddy