นิรโทษกรรมเด็ก 112 ตกสภา – เพื่อไทยอันตราย?
นอกเหนือเรื่องร้อนการเมืองทั้งศึกในศึกนอกประเทศไทยทั้งชายแดนและปม”ภาษีทรัมป์” ที่รุม “รัฐบาลอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร”และ “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อของเธอที่ต่างต้อง “ชนักคดี” สุ่มเสี่ยงว่าจะรอดไม่รอดในเดือนนี้เดือนหน้าและอาจพาให้ “รัฐบาล”โดยเฉพาะ “พรรคแกนนำ” อย่าง “เพื่อไทย” ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
อย่างที่ “นิด้าโพล”สำรวจความนิยมทั้ง “นายกอิ๊งค์” และ”พรรคเพื่อไทย”ร่วงดิ่งแบบอันตรายจากปม “คลิปลับฮุนเซน” แล้ว อีกปมประเด็นที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน (16ก.ค.)กรณี สภาฯ มีมติ “ไม่รับหลักการ” 2 ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ภาคประชาชน และ พรรคประชาชน สมัยเป็นพรรคก้าวไกล เสนอ ที่มีปมคดีการเมืองจากคดี ม.112 ที่เคยทำให้พรรคก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญสอยยุบพรรค ถูกจับตาเป็น “สัญญาน”ที่จะนำไปสู่สถานการณ์อันตรายทางการเมือง ในระดับโครงสร้างความขัดแย้งหลังจากนี้
โดยเฉพาะ การที่ สภาฯมีมติ “รับหลักการ” ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุขรวม 3 ฉบับ ที่เสนอโดย สส.รวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) สส.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ที่ต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม และ สส.พรรคภูมิใจไทย ที่ กำหนดตรงกันว่าไม่ให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 แต่คดีที่มีอัตราโทษสูงกว่าอย่างคดีกบฏ ตามมาตรา 113 เข้าข่ายนิรโทษกรรมตามกฎหมายนี้
ในขณะที่ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ที่ประชาชนร่วมกันลงชื่อเสนอเข้าสู่สภา มี สส. ที่ลงมติเห็นด้วย 149 เสียง ไม่เห็นด้วย 306 เสียง และงดออกเสียง 20 เสียง
โดยเสียงไม่เห็นด้วยมาจาก พรรคร่วมรัฐบาล-ภูมิใจไทย มีเพียง 6 เสียงในเพื่อไทยที่เห็นด้วยคือ
1) ก่อแก้ว พิกุลทอง
2) จาตุรนต์ ฉายแสง
3) เชิดชัย ตันติศิรินทร์
4) ทศพร เสรีรักษ์
5) สุธรรม แสงประทุม
6) อดิศร เพียงเกษ
โดยทั้งหมดเคยได้รับการนิรโทษกรรม ตั้งแต่สมัยเหตุการณ์ 6 ต.ค.2516 และ ครั้งคำสั่งนายก66/23 ที่ผ่อนปรน “นักศึกษา”ที่เข้าป่ากับพรรคคอมมิวนิสต์
ที่ปรากฎหลังมติสภาเมื่อวาน(16ก.ค.)นอกจากเสียงไม่พอใจจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้ที่ต้องการ ให้เกิดแนว “ปรองดอง”และมองว่ามีผู้แทนที่มาจากประชาชนจะพิจารณากฎหมายจากประชาชน ที่สามารถคลี่คลายปมคาใจความขัดแย้งจนเลือดตกยางออกของกลุ่มชุมนุมการเมืองทุกสีในอดีต หรือแม้กระทั่งการชุมนุมของ “ม็อบเด็ก”ที่เกิดขึ้นในยุค “รัฐบาลลุงตู่”ที่มีเยาวชนถูกดำเนินคดี ม.112 จำนวนมาก โดยพรรคเพื่อไทยเคยถูกคาดหวังเรื่องนี้เพราะคนเสื้อแดงก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
อย่างที่ “หัวหน้าเท้ง -ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มองการที่ พรรคเพื่อไทยอ้างว่าไม่ทิ้งเด็กเยาวชนที่โดนคดี ม.112 ยืนยันว่ามีทางออก แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ว่า ความจริงมีวิธีในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความชัดเจน กับคนที่ได้รับผลกระทบคดีทางการเมืองต่างๆ แต่ก็ไม่ทราบเหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่สามารถสื่อสารได้ โดยเฉพาะการ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล ที่ให้เหตุผลในการโหวตไม่รับร่างเป็นเพราะมติของพรรคร่วมรัฐบาล เกรงใจพรรคร่วมรัฐบาล และอาจกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาลที่ถือว่าไม่มีน้ำหนักในข้ออ้าง
เช่นเดียวกับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่โพสต์FB ว่า เหตุที่บรรดานักการเมือง และพรรคการเมืองจำนวนมากตั้งข้อรังเกียจกับการนิรโทษกรรมในความผิดการแสดงออกทางการเมือง โดยรวมความผิดตามมาตรา 112 ไปด้วยนั้น ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากยังไม่มี “ใบอนุญาต” ให้ทำจึงเกรงว่า หากทำลงไปแล้วจะถูกยึด “ใบอนุญาต” ที่ให้เป็นรัฐบาล หรือตัดโอกาสการได้ “ใบอนุญาต” ให้เป็นรัฐบาลตกลงแล้ว สภาของผู้ที่รวมตัวกันแล้วอ้างเป็นผู้แทนของราษฎร เป็นผู้แทนของใครกันแน่ นักการเมืองและพรรคการเมืองไทยในยุคนี้ ขี้ขลาดขี้กลัวกว่านักการเมืองและพรรคการเมืองไทยในอดีตมาก
ขณะที่ “วิพล กิติทัศนาสรชัย” จากสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้เคยเป็น 1 ในคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” เป็นประธาน โพสFB Vipon Kititasnasorchai ว่า
ตนอายุ 60 ข้าราชการกฎหมายสายอนุรักษ์ แต่เห็นว่าควรนิรโทษ 112 เพราะไม่อยากเหลือให้เป็นแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ยังคาใจคนเรือนล้าน มีโอกาสเข้าไปเป็นอนุกรรมาธิการศึกษาแนวทางนิรโทษ ผู้ใหญ่ในองค์กรบอกมือถือมาว่าให้ไปได้ แต่อย่ารวมนิรโทษ 112 นะ พอถึงเวลาต้องส่ง ตนยังมองไม่เห็นเหตุผลทางกฎหมายใด ๆ ที่จะยกเว้นเหตุผลทางการเมือง ตนมีความรู้น้อย แค่รู้ว่า แล้วพวกคุณจะปล่อยให้เหลือแค่เรื่องนี้แหลมทิ่มใจผู้คนในสังคมต่อไปทำไมกัน
พวกคุณอ้างว่ารักสถาบัน แต่เหมือนพวกคุณไม่เคยได้ยินคำว่า “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” กันหรือ พวกคุณบอกถ้านิรโทษ 112 คนจำนวนมากจะไม่พอใจ ความขัดแย้งจะเกิด แต่จริงๆ แล้ว ภาวะนี้จะเกิดทั้งขึ้นทั้งล่องแหละ มันอยู่ที่ว่าภูมิปัญญา และจิตใจของท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย จะทุ่มเทจริงใจกับการสร้างความเข้าใจกับฐานเสียงของตนให้มองกว้าง มองไกล กันมากขึ้นหรือไม่ ต่อจากนี้ไป ถนนจะเหลือสายเดียว ส่วนปลายทางก็รู้กันอยู่แก่ใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews