สกัดจับกระบะต้องสงสัย พร้อมของกลางกว่าหมื่นชิ้น รวมมูลค่า 4.6 ล้าน
วันที่ 4 ก.ค. 68 เวลา 21.00 น. พ.ต.อ.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล ผกก.ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14, พ.ต.ท.ณรงฤทธิ์ แก้วนวล สวญ.สภ.ยี่สาร, ร.ต.ต.ญาณกฤช อิศรเมธางกูร รอง สว.(ป) ส.ทล 1 กก.2 พร้อมชุดจับกุมร่วมแถลงผลการจับกุม นายเนติพงษ์ อายุ 27 ปี ชาว ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี และ น.ส.วรรณนิภา อายุ 27 ปี ชาว ต.หนองสนม อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 11,520 ชิ้น มูลค่าตามท้องตลาด 4,608,000 บาท และรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน (ตู้ทึบ) หลังจากตำรวจตระเวนชายแดน สนธิกำลัง ตำรวจ สภ.ยี่สาร และตำรวจทางหลวง สกัดจับได้บนถนนพระราม 2 กม.80 ขาเข้ากรุงเทพฯ พื้นที่ ม.5 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
พ.ต.อ.อัคราวัส กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตำรวจตระเวนชายแดน ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผบก.ตำรวจตระเวนชายแดน (ผบก.ตชด.) ภาค 1 มอบให้ตนสืบสวนจนทราบว่ามีการลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าจากภาคใต้เดินทางเข้าสู่ภาคกลาง จึงสนธิกำลังตำรวจ สภ.ยี่สาร และตำรวจทางหลวง ไล่ล่าติดตามสกัดจับได้ผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว
พ.ต.ท.วริทธิ์ธร ชูนาค ผู้บังคับกองร้อย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 กล่าวว่า นายเนติพงษ์ ให้การว่า นายบี ได้ติดต่อกับนายเอ เจ้าของบุหรี่ไฟฟ้าทางภาคใต้ เพื่อจะให้มาส่งในพื้นที่ภาคกลาง นายเอจึงว่าจ้างนายโบอี้ ดำเนินการขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าจากภาคใต้ มาให้นายบีที่ภาคกลาง ดังนั้นนายโบอี้จึงว่าจ้างนายเนติพงษ์ ให้ลำเลียงบุหรี่ไฟฟ้าให้นายบี ที่ภาคกลาง ด้วยการให้นายเนติพงษ์ ขับรถมาจอดทิ้งไว้ เพื่อให้คนของนายโบอี้ขับรถไปขนบุหรี่ไฟฟ้าที่คลังประมาณ 2 ชม. แล้วขับรถกลับมาที่เดิม เพื่อให้นายเนติพงษ์ขับรถมาให้นายบีที่ภาคกลาง
ต่อมาตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 สืบทราบพฤติการณ์ดังกล่าว จึงบูรณาการร่วมกับ ตำรวจ สภ.ยี่สาร และ ตำรวจทางหลวง สกัดจับบนถนนพระราม 2 กม.80 ขาล่องใต้ ม.5 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเนติพงษ์ รับสารภาพว่ามีอาชีพขับรถส่งของตู้ทึบ ที่ผ่านมารับจ้างขับรถส่งบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดได้รับค่าจ้าง 27,000 บาท กระทั่งมาถูกจับกุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันกระทำความผิดฐาน ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพา เอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิด ตามมาตรา 246 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 และจะสืบสวนขยายผลต่อไป