มหาชัย ตรวจเช็คความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการพัฒนาบาดาลน้ำลึก 1,000 เมตร ใช้งบ 98.5 ล้าน
มหาชัย ตรวจเช็คความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการพัฒนาบาดาลน้ำลึก 1,000 เมตร ใช้งบ 98.5 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณฝั่งตรงข้าม “วัดสหกรณ์โฆสิตาราม” ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลความคืบหน้าการดำเนินงานของการก่อสร้างบ่อน้ำบาดาล ที่มีขนาดลึกตาม “โครงการศึกษาการบริหารจัดการและพัฒนาน้ำบาดาลระดับลึก ในฐานะพื้นที่แอ่งเจ้าพระยา(ตอนล่าง) เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชน ในพื้นที่ตำบลโคกขาม และใกล้เคียง ในเขต อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมี นายเชษฐ พวงจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร และผู้แทนจาก สนง.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล (เขต 8 ราชบุรี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมสำรวจความคืบหน้า พร้อมชี้แจงในรายละเอียดข้อมูลในการก่อสร้าง
โดยผวจ.สมุทรสาคร ระบุว่า โครงการศึกษาการบริหารจัดการและพัฒนาน้ำบาดาล-ระดับลึก งานนี้นับว่าเป็นเขตของพื้นที่(แอ่งเจ้าพระยาตอนล่าง) โดยมีวัตถุประสงค์ที่ทำการก็เพื่อใช้สำหรับอุปโภคบริโภค สำหรับในเขตโซนของ อ.เมืองสมุทรสาคร นับเป็น โครงการอันสืบเนื่องมาจากพระราชดำริ (ระยะที่ 3) ทั้งนี้โดยรวมของการดำเนินงานนั้น ได้แก่ งานก่อสร้างหอถังสูงขนาด 300 ลบ.ม. จำนวน 1 ถัง และงานสร้างหอถังเหล็กไว้เก็บน้ำขนาด 1,000 ลบ.ม. อีกจำนวน 2 ถัง พร้อมด้วยงานท่อเมนเพื่อใช้จ่ายน้ำใช้งาน โดยมีความยาวในระยะ 12.50 กิโลเมตร และงานสร้างอาคารฯ ในนาม "ศูนย์เรียนรู้ในระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล" ทั้งนี้ส่วนการใช้งบประมาณดำเนินงานครั้งนี้รวมทั้งหมด 98.5 ล้านบาท"
"จากการลงติดตามด้านความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงทำการเจาะบ่อผลิตน้ำบาดาล มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว ทำได้แล้วเสร็จ จำนวน 2 บ่อ และอยู่ระหว่างทำการ 1 บ่อ ล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างทำงานในด้านของ ระบบกระจายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จใน เดือนตุลาคม 2568 นี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างช่วงตอกเสาเข็ม ขณะที่ขณะนี้ปัญหาหรืออุปสรรคช่วงระหว่างงายเจาะบาดาลนั้น ซึ่งปรากฏว่า พบปัจจุบันมีความล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ และด้วยจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว (เมื่อ 28 มีนาคม68) และส่วนหนึ่งที่พื้นที่ก่อสร้างนั้นดินมีสภาพอ่อนตัว เป็นเหตุทำให้ดินทรุดตัว ส่งผลให้มีเสาเข็มที่ลงไว้แล้วมีสภาพความลาดเอนเอียง จึงต้องมีการปรับแบบแปลนโครงการใหม่ด้วย
และหากสร้างแล้วเสร็จจะสามารถช่วยเหลือประชาชน ในเขตหมู่ที่ 3, หมู่ที่ 10 ต.โคกขาม และหมู่ที่ 8 ของ ต.พันท้ายนรสิงห์ และหมู่ที่ 2 และ ม.3 ต.บางหญ้าแพรก ของเขต อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งประมาณกว่า 17,000 คน จะได้มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภคบริโภคกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นจะส่งผลให้ชาวบ้านได้มีคุณภาพของชีวิตในความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป”