จีนเทาเเพเเตก ลอยเเพบัญชีม้า หนีเอาชีวิตรอดลักลอบกลับไทย
Exclusive : 28 มิถุนายน 2568การปิดด่านของทั้ง 2 ฝั่ง ส่งผลทำให้ยังมีผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมายต่อเนื่อง รวมถึงขบวนการที่ข้ามไปเเล้วไปเป็นคอลเซ็นเตอร์เเล้วเเพแตก ออฟฟิศเเตก ต่างหาทางหนีตายกันออกมาเรื่อยๆ ด้วยการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ
จากข้อมูลคนที่ออกมาได้ก่อนหน้านี้ ยังให้ข้อมูลว่า ยังมีคนไทยอีก 200-300 คนทำงานหลอกคนอยู่ที่ปอยเปต เเละบางคนถูกส่งไปอยู่สำนักงานใหญ่กรุงพนมเปญ
ล่าสุดนักข่าวของเราคุณ อิทธิพัทธ์ ปิ่นระโรจน์ ไปเจอกับชายคนหนึ่ง อายุ 38 ปี เป็นชาวกาฬสินธุ์ อ้างว่าถูกชักชวนไปทำงานบาร์ในปอยเปต เเต่กลับถูกหลอกให้ขายบัญชีม้า ได้ค่าจ้าง ไม่คุ้มเสีย เงินเก็บของลูกชายในบัญชี กว่า 4 หมื่นบาท ถูกโอนออกไปด้วย สุดท้ายต้องหนีตาย ลักลอบออกมาทางช่องทางธรรมชาติ ไม่เหลือเงินติดตัวสักบาท
ชายรายนี้ เล่าว่า เข้าไปตั้งเเต่ 18 มิถุนายน ถูกชักชวนโดยเพื่อนที่รู้จักกันว่า ทำงานในบาร์ได้เงินรายได้ดี จากนั้นมีคนเข้ามาพาข้ามไปทางช่องทางธรรมชาติ เข้าไปถึงก็ตื่นเต้น เห็นฝั่งปอยเปต เต็มไปด้วยความใหญ่โตโอ่อ่า คาสิโนเต็มไปหมด
เมื่อไปถึงออฟฟิศกลับไม่เป็นเช่นนั้น ถูกยึดมือถือ บัตรประชาชน ก็เริ่มสงสัยว่ามันเเปลกๆ จากนั้นให้ขึ้นไปอยู่บนที่พัก ไปเจอกับคนไทยอีกหลายคน ให้ไปนอนรอบนที่พัก เริ่มรู้สึกว่าเเปลกๆ ภายในห้องอยู่กัน 10 กว่าคน คิดในใจ จะถูกหลอกมาขายอวัยวะหรือเปล่า
จากนั้นมีคนมาเรียกไปสแกนหน้า เจอขบวนการที่เป็นคนจีน เริ่มรู้ว่าน่าจะเป็นจีนเทา ส่วนตัวมีบัญชีธนาคารอยู่เเล้ว3 ธนาคาร มี 1 บัญชีธนาคาร ที่เก็บเงินไว้ให้ลูก 43,000 บาท
หลังบัญชีเป็นบัญชีม้า มีเงินเข้ามาตลอด ช่วงเเรกไม่รู้เลยว่าเงินเข้าออกเท่าไหร่ เพราะถูกยึดมือถือ เเต่พอคืนมือถือ จึงเห็นสลิปในมือถือ มี 2 เเสนบาท ภายใน 1 นาที มีเงินเข้ามา 2 ครั้ง จากนั้นถูกโอนต่อไปบัญชีวอลเล็ต อีก 2 บัญชีทันที ส่วนเงินเก็บของลูก 43,000 บาท ที่อยู่ในบัญชี มันก็เอาไปหมดถูกโอนไปด้วย หลังจากนั้นบัญชีถูกล็อกใช้การไม่ได้เเล้ว ไม่ต้องสเเกนหน้า
จึงถูกส่งให้ไปทำงานในบาร์ ให้ไปนั่งล้างจานอยู่ 4-5 วัน ระหว่างทำงานล้างจาน ออกไปไหนไม่ได้ จากนั้นคนที่นำพาไปทำงานก็เอาค่าจ้างมาให้บอกว่า เป็นค่าสเเกนหน้าขายบัญชี 5,000 บาท เเละ ค่าจ้างล้างจานอีก 4,000 บาท
เท่าที่เจอคนไทย บอกว่ามีคนถูกหลอกเข้ามาเยอะ ทุกคนเหมือนพยายามจะหนี เเต่ถ้าหนีไม่พ้น ไม่รอด ก็ถูกทำร้าย เตะต่อย หน้าตาบวมกลับมา เคยถูกขังในห้องดำ จึงบอกเขาไปว่าลูกมีพ่อ มีเเม่
หนุ่มที่อ้างว่าถูกพาไปเป็นบัญชีม้า เล่าว่า พยามยามติดต่อทางบ้าน ติดต่อหาลูก เเต่ไม่มีสัญญาณ จากนั้นพยายามวางเเผนคนเดียว หาทางหนี คิดว่าตายเป็นตาย เพราะ ไม่กล้าปรึกษาใครที่ร่วมทำขบวนการด้วยกัน เนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีสายของหัวขบวนการหรือไม่ ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ข้างเราบ้าง เดินเท้าออกมา 20 กม. หนีออกมาจากทางธรรมชาติ เสียค่าพาออกมา 4,500 บาท หนีออกมาเจอเห็นทหารลาดตระเวน จึงซ่อนตัวไว้ คิดในใจถ้าถูกจับได้ตอนนั้นก็เสร็จเเน่
และหลังจากนี้ พร้อมรับผล หากมีหมายศาลตามมา จากการถูกเเจ้งถูกใช้บัญชีไปหลอกโอนเงิน เเต่ก็พยามคิดว่ามันเป็นเงินในบ่อนธุรกิจสีเทาที่เข้ามา ไม่มีคนไทยเป็นเหยื่อจากบัญชีนี้
หนุ่มที่ถูกชักชวนให้ไปร่วมขบนการรายนี้ บอกว่า เจ็บใจ คนที่หลอกพามาทำงาน ถ้าหากเจอหน้าจะจัดการเอาให้อยู่ ยืนยันว่าไม่ได้เต็มใจที่จะเดินทางไปเป็นขบวนการหลอกลวง และจะจำไปจนวันตาย ฝากบอกคนที่อาจจะเป็นเหยื่อว่า ใครชวนอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าอย่าไปเด็ดขาด เพราะตอนกลับมา จะไม่เหลืออะไรติดตัว
"การปราบปรามปราบเเก๊งอาชญากรรมข้ามชาติของรัฐบาล ก็อยากให้ปราบให้ราบคาบไปเลย เพราะได้ไปเห็นความระยำ เเละคิดว่า สิ่งที่คนไทยอาจยังไม่รู้ หรือ ผู้นำบ้านเรายังไม่รู้ คือ คนไทยที่เป็นตัวสำคัญในการหลอกกันเอง"
ขณะเดียวกันวันนี้ ทีมข่าวเนชั่นทีวี ยังได้รับข้อมูล จากคนที่ถูกชักชวนไปร่วมขบวนการเป็นคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งหนีออกมาได้เเล้ว เปิดเผยว่า ตอนนี้คนที่เป็นนายหน้าคนไทย ซึ่งอยู่ชายเเดน ก็ยังชักชวน หลอกคนที่จะส่งไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ พาคนมานอนรอที่บ้านพักคอยไว้ รอหาจังหวะที่จะส่งคนเข้าไปตามช่องทางธรรมชาติ