บัญชีม้าเศร้า ไปปอยเปตไม่ได้เงิน แต่ได้ 17 คดีติดตัว
(12 ก.ค. 68) เวลา 14.00 น. พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ผบ.ฉก.อรัญประเทศ) กองกำลังบูรพา , พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 (ผบ.ชค.ทพ.12) สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1202 นำกำลังเดินเท้าลาดตระเวนจุดล่อแหล่มชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ตรวจพบชายไทยต้องสงสัย 1 ราย ขณะกำลังเดินเท้าลัดเลาะตามป่าช่องทางธรรมชาติ มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศไทย ที่บริเวณ บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบชื่อคือ นายชนมภูมิ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ โดยไม่พบหนังสือเดินทาง และให้การว่าได้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้เดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไปเปิดบัญชีและทำการสแกนใบหน้าทำธุรกรรมทางการเงิน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ จึงได้พยายามหลบหนีกลับเข้าประเทศไทย
นายชนมภูมิ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ตนได้เห็นโพสต์ "รับซื้อขายบัญชีทั่วไทย รับส่งเองแบบชนมือ" ในกลุ่มเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการหางาน จึงสนใจและติดต่อกับนายหน้าชาวไทย ซึ่งเสนอค่าตอบแทนให้สูงถึง 18,000 บาทต่อบัญชี หากสามารถหานายหน้ารับซื้อบัญชีได้ขั้นต่ำ 3 บัญชี แต่เมื่อตนหาบัญชีไม่ได้ จึงตัดสินใจจะขายบัญชีธนาคารของตนเองจำนวน 3 บัญชี (กรุงไทย กสิกร และไทยพาณิชย์)
ต่อมานายหน้าคนดังกล่าวได้จัดการหารถมารับนายชนมภูมิ จาก จ.สมุทรปราการไปยังชายแดน อ.อรัญประเทศ และลักลอบพาข้ามแดนไปยังกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยมีชายชาวจีน 2 คน คือ นายตงและนายเปา ทำหน้าที่ยึดโทรศัพท์มือถือ และบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อทำธุรกรรมกับบัญชีธนาคาร 3-4 ครั้งต่อบัญชี โดยอ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทน 1,000 บาทต่อครั้ง
ทั้งนี้ภายหลังจากถูกควบคุมตัวและให้สแกนหน้าหลายครั้ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ และบัญชีธนาคารไม่สามารถทำธุรกรรมได้อีก นายชนมภูมิฯ จึงตัดสินใจติดต่อว่าจ้างชายชาวไทยชื่อ "บอย" ที่ทำงานในกรุงปอยเปต ให้พาตนเองกลับประเทศไทย โดยโทรไปให้มารดาทำการโอนเงินค่าเดินทางจำนวน 10,000 บาท ให้กับนายปัญญา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำพา ก่อนที่จะถูกนายบอยฯ ชี้ช่องทางธรรมชาติให้เดินเท้าลัดเลาะและปีนข้ามลวดหนามกลับเข้าสู่ประเทศไทย จนกระทั่งมาพบเจ้าหน้าที่ทหารพรานและจับกุมตัว โดยขณะจับกุมไม่พบผู้นำพาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าบัญชีธนาคารของนายชนมภูมิ สิงห์แฮด มีประวัติ ( CASE ID ) ถูกแจ้งความออนไลน์เกี่ยวกับคดีการโอนเงินที่ถูกหลอกลวงมากถึง 17 คดี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้นำตัวนายชนมภูมิ สิงห์แฮด ส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรคลองลึก เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากถือเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเชื่อมโยงกับการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊งบัญชีม้า ซึ่งกำลังเป็นภัยคุกคามในปัจจุบัน