เปิดการบ้าน “2 รมต.ใหม่” ศธ.-อว. เน้นพลิกโฉมการศึกษา
รัฐสภา 4 ก.ค.- เปิดการบ้าน “กมล รอดคล้าย” ถึง “2 รมต.ใหม่” ศธ.-อว. เน้นพลิกโฉมการศึกษา ฟันธง ครูดี การศึกษาปังแน่
นายกมล รอดคล้าย ประธาคณะกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำในอนาคตคือ “ขับเคลื่อนประเทศผ่านระบบการศึกษา” โดยเน้นพัฒนาคน พัฒนาการศึกษา และพัฒนาศักยภาพมนุษย์เป็นหลัก สำหรับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คนใหม่ มี 3 ด้านคือ ปรับหลักสูตรให้ปัง เน้นสมรรถนะ: หลักสูตรคือ “เข็มทิศชี้ทาง” ของประเทศ ต้องปรับทั้งระดับพื้นฐาน อาชีวะ และอุดมศึกษา ให้เน้นสมรรถนะ เด็กต้องเก่งภาษาและเทคโนโลยี และเน้นสหกิจศึกษา/ทวิศึกษา ร่วมกับเอกชน เพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพตรงความต้องการ เช่น วิศวกร หรือเชฟเก่งๆ. พัฒนาครูให้เทพ มีคุณภาพ ครูต้องเป็น มืออาชีพ มีวิชาชีพชั้นสูง ถ้าครูเก่ง ครูดี การศึกษาก็ดีแน่นอน
นอกจากนี้ต้องกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นการจัดการศึกษา ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน อาชีวะ อุดมศึกษา รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ต้องมอบให้ “ท้องถิ่น” เป็นผู้ดำเนินการ โดยรัฐทำหน้าที่กำหนดนโยบายและสนับสนุนงบประมาณ เพราะท้องถิ่นรู้บริบทของตัวเองดีที่สุดว่าจะพัฒนาอย่างไร และหน่วยงานท้องถิ่นควรเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน เพื่อให้คนในพื้นที่กลับไปพัฒนาบ้านเกิดตัวเอง
ส่วนการศักยภาพของรัฐมนตรีกคนใหม่ นายกมลมองว่าเป็นโอกาสดีที่กระทรวงศึกษาธิการได้ผู้ทรงคุณวุฒิระดับศาสตราจารย์มาคุมทัพ แถมได้ นายเทวัญ ลิปตะพัลลภ ผู้มีประสบการณ์มาเป็น รมช.ศธ. สิ่งที่ท่านต้องเร่งทำคือ “ทำความเข้าใจระบบกระทรวงฯ” ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 1 สัปดาห์น่าจะเข้าใจ จากนั้นต้องรีบ “เสนอนโยบายเร่งด่วน” ทั้งระยะสั้น-ยาว เพื่อฝากผลงาน เพราะสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและรวดเร็ว
ส่วน นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.อว. คนใหม่ แม้ไม่มีประสบการณ์ด้านการศึกษา แต่ผ่านงานบริหารอื่น ๆ มามาก แถมเป็นคนรุ่นใหม่ มีวุฒิการศึกษาสูง นายกมลเชื่อว่ามีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการ สิ่งที่ต้องทำคือ “ดึงคนเก่ง” ในวงการอุดมศึกษาเข้ามาทำงานและขับเคลื่อนภารกิจที่กำหนดไว้เดิม รวมถึงนำประสบการณ์ด้านธุรกิจมาใช้ “สร้างคนรุ่นใหม่ให้แข่งขันกับคนทั่วโลกได้” จากนั้นก็ออกเป็นนโยบายให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนำไปขับเคลื่อน โดยส่วนตัวนายกมลไม่ได้กังวลเรื่องความรู้ความสามารถ แต่กังวลเรื่องความไม่มั่นคงทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้รัฐมนตรีใหม่ทำผลงานได้ไม่เต็มที่
ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการเตรียมเข้าไปพบรัฐมนตรีคนใหม่ทั้งสองกระทรวง โดยจะนำข้อมูลและประเด็นใหม่ที่มีการศึกษาไว้แล้ว นำไปเสนอเพื่อวางแนวทางกำหนดนโยบาย และไปรับฟังว่ารัฐมนตรีใหม่อยากจะทำอะไรบ้างจะได้ช่วยสนับสนุน.-319 -สำนักข่าวไทย