เปิดนรกขุมไหน? ที่พระ "เสพเมถุน" กับ "สีกา" ต้องตก ชดใช้กรรมแบบไร้ความปราณี

"เสพเมถุน" คืออะไร ?

"เสพเมถุน" หมายถึง การที่พระสงฆ์มีการร่วมเพศ มีเพศสัมพันธ์ กับมนุษย์หรืออมนุษย์ มีความผิดร้ายแรงตามพระวินัย โทษ อาบัติ ปราชิก ต้องออกจากการเป็นสงฆ์

พฤติกรรมเข้าข่ายการ "เสพเมถุน"

การรวมเพศโดยใช้อวัยวะเพศสอดใส่ทวารทั้ง 3 คือ ปาก ทวารหนัก ทวารเบา ทั้งมนุษย์หรืออมนุษย์ ทั้งเพศชายและเพศหญิง

• "เสพเมถุน" กับศพ
• "เสพเมถุน" กับศพ ที่ถูกสัตว์กัดกินไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ทางทวารทั้ง 3
• ให้ผู้อื่นสอดใส่องคชาตเข้ามายังทวารของตน
• "เสพเมถุน" ตัวเอง เสพเมถุนตัวเองทางปาก โดยการก้มลงอมองคชาต
• "เสพเมถุน" ตัวเอง โดยการเอาองคชาตของตน สอดใส่ไปยังทวารหนักของตน

"เสพเมถุน" ตก "นรก" ขุมไหน?

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ แจ๊คกุมารทอง - Jack Kumanthongsiam เคยโพสต์ข้อความเกี่ยวกับบาปที่ พระ ประพฤติ "เสพเมถุน" จะได้รับตามความเชื่อของศาสนาพุทธ ระบุว่า พระครูภาวนาวีรานุสิฐ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการาม ให้ข้อคิดว่า หากพระ-เณร ไม่เกรงกลัวต่อพระธรรมวินัย ขอให้เกรงกลัวต่อบาปบ้าง

เพราะผู้ที่ประพฤติผิดในการ "เสพเมถุน" ขณะที่ยังบวชเป็นพระเป็นสามเณร ถือว่า บาปหนักหนา ตกนรกขุมสุดท้ายคือ ขุมที่ 8 มหาอเวจีนรก (นรกแห่งเปลวไฟ) โดยนรกขุมที่ 8 อเวจี "นรก" นี้เป็นสถานที่สำหรับพวกที่ทำ อนันตริยกรรม ทั้ง 5 ได้แก่

• มาตุฆาต ฆ่ามารดา
• ปิตุฆาต ฆ่าบิดา
• อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์
• โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนห้อพระโลหิต เช่น พระเทวทัตได้ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนห้อพระโลหิต
• สังฆเภท - ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน ทำลายสงฆ์ทำสงฆ์ให้แตกกัน

รวมถึงการ "เสพเมถุน" กับ พระสงฆ์ ไม่ว่า "สีกา" หรือ "พระสงฆ์" เมื่อตายแล้วก็ต้องไป ตกนรกอเวจี (แม้จะทำแค่เพียงครั้งเดียว ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ก็ถือเป็นกรรม ที่หนักมาก ต้องตกอเวจีมหา "นรก" ได้รับ ทัณฑ์ทรมานที่แสนสาหัส มีอายุยาวนาน กว่านรกขุมอื่นๆ)

"นรก" ในขุมนี้จะได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส เป็น "นรก" ที่ขุมใหญ่ที่สุด ราวกับเมืองใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็กอันรุ่งโรจน์ ภายในมีเปลวไฟร้อนระอุไหม้สัตว์ "นรก" อยู่ตลอดเวลาทั้งกลางคืน-กลางวันไม่มีว่างเว้น

สัตว์ที่ต้องไปอุบัติใน อเวจีมหานรก นี้ มีมากกว่าขุมอื่นๆ แออัดยัดเยียดเบียดเบียนกันอยู่ ทั้งการเสวยทุกข์โทษในมหานรกขุมนี้ ก็แตกต่างกันไปหลายอิริยาบถ หลายท่าหลายทาง

เช่น ถ้าเคยยืนทำบาปอกุศลกรรมไว้ ก็ต้องมาทนทุกข์อยู่ในอิริยาบถยืน เคยเดินทำบาปไว้ ก็ต้องเดินทนทุกข์อยู่ เคยนั่งเคยนอนทำบาปไว้ ก็ต้องมานั่งมานอนเสวยทุกข์อยู่ในอเวจีมหานรกนี้

ผู้ที่ทำบาปหนักถึงขุมนี้ จะมีผลกรรมให้เกิดทุกข์ในปัจจุบัน และ เลยไม่ถึงชาติหน้า จึงอยากเตือนให้พระ เณร ที่กำลังกระทำแบบนี้ได้ ควรละเลิก และคิดติตรองว่า กระทำผิดศีล แล้วมีต่อผลร้าย ทั้งทางโลกที่สังคมติเตียนประณามและผลทางทางธรรม ที่อาจจะโดนจับสึก ผลทางกรรมที่จะบาปหนัก ตายแล้วก็ทุกข์ทรมาน

สรุป ไม่ว่า สีกา หรือ พระสงฆ์ เมื่อลุ่มหลง "เสพเมถุน" ไปแล้ว ด้วยเหตุผลใดก็ตาม เหตุได้สำเร็จแล้ว วิบาก บาปกรรมนั้นจะเริ่มทำงานทันที

รู้จัก "นรก" ทั้ง 8 ขุม

1.สัญชีวนรก

สัตว์นรกในขุมนี้จะไม่มีวันตาย เมื่อถูกลงโทษรับบาดเจ็บหรืออาจถึงตาย แต่จะไม่ตายเพราะจะมีลมเย็นพัดสัตว์ที่ตายให้ฟื้นขึ้นได้เสวยทุกขเวทนาต่อไป สถานที่สำหรับ คนก่อกรรม ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ว่าจะฆ่าเอง หรือวานให้ผู้อื่นฆ่า

2. กาลสูตรนรก

สัตว์นรกในขุมนี้จะถูกตีเส้นบนตัวด้วยเส้นเหล็กเผาไฟเหมือนสายบรรทัด ผ่าหรือดีดกายสัตว์ให้แตกออก สถานที่สำหรับ คนก่อกรรมทำร้ายผู้มีพระคุณหรือทำลายชีวิตสัตว์โลก

3. สังฆาฏนรก

นรกบดขยี้สัตว์นรกจะถูกกระหน่ำตีด้วยฆ้อนเหล็กและบดทับด้วยลูกไฟกับภูเขาเหล็ก สถานที่สำหรับ คนก่อกรรม ทารุณกรรม ไร้ความเมตตา

4. โรรุวนรก

นรกขุมนี้จะเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์นรกที่เจ็บปวดทรมาน สัตว์นรกจะถูกตรึงให้นอนคว่ำหน้า หัว มือ และเท้าจมอยู่ในดอกบัวเหล็กที่เปลวเพลิงลุกท่วม ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่ตาย สถานที่สำหรับ คนก่อกรรม ฉ้อโกง ฉ้อราชบังหลวง มีความโลภจนเบียดเบียนผู้อื่น

5.มหาโรรุวนรก

นรกขุมนี้จะเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์นรกที่เจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าโรรุวนรก ดอกบัวเหล็กของนรกขุมนี้จะเพิ่มคมตามกลีบดอก โดยสัตว์นรกต้องจมอยู่ในดอกบัวเหล็กทั้งตัว สถานที่สำหรับ คนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำความชั่วทั้งหลายด้วยจิตอาฆาตพยาบาท

6.ตาปนรก

นรกขุมนี้มีไฟลุกท่วม สัตว์นรกจะถูกหลาวเหล็กแท่งใหญ่ราวต้นตาลเสียบพร้อมเปลวไฟพวยพุ่ง ก่อนถูกสุนัขนรกฉุดกระชากลงมากิน สถานที่สำหรับ คนก่อกรรมด้วยโลภะ โทสะ โมหะ และเห็นแก่ตัว

7. มหาตาปนรก

สัตว์นรกต้องอยู่ในกำแพงและภูเขาเหล็กที่เต็มไปด้วยหนามแหลม พร้อมลมกรดพัดพาร่างไปโดนหนามเสียบ สถานที่สำหรับ คนก่อกรรมเข็นฆ่าคน และฆ่าสัตว์เป็นหมู่มาก ๆ โดยไม่คำนึงถึงชีวิตผู้อื่น

8. มหาอเวจีนรก

นรกขุมนี้มีไฟลุกท่วมร้อนแรงไม่มีวันดับ นรกอันแสนสาหัสไร้ความปรานี

ขอบคุณข้อมูลจาก : ศิลปวัฒนธรรม,แจ๊คกุมารทอง - Jack Kumanthongsiam,ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร