CPALL คาดกำไร Q2/68 เด่น โบรกแนะซื้อ เป้า 68 บ.
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CPALL ว่า คาดกำไร 2Q68 ยังแข็งแกร่งแม้ SSSG ลดลง คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 68 บาท
ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL โดยให้ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ที่ 68 บาท (WACC 7.6%, Growth 1.5%) แม้ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะอ่อนแอลง แต่คาดว่ากำไร 2Q68 จะยังแข็งแกร่ง โดยเติบโต 11% YoY ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในกลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค แนวโน้มกำไรดียิ่งขึ้นในช่วง 2H68 จากการขยายสาขาและอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หุ้น CPALL ซื้อขายที่ระดับ P/E ปี 68 ที่ 14 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ -1.6 SD
การเติบโตหนุนโดยการขยายสาขาและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น
คาดว่ากำไรหลักใน 2Q68 ลดลง 10% QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น 11% YoY มาอยู่ที่ 6.81 พันล้านบาท หนุนโดยการขยายสาขาร้าน 7-Eleven และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่ามีการเปิดสาขาใหม่สุทธิ 160 แห่งใน 2Q68 ทำให้จำนวนร้านเพิ่มขึ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาจำนวน 736 สาขา ซึ่งจะช่วยชดเชย SSSG ที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงเป็น -0.5% (เทียบกับ +3.8% ใน 2Q67 และ +3.0% ใน 1Q68) จากปริมาณลูกค้าลดลงจากฝนที่ตกมากขึ้นและนักท่องเที่ยวลดลง แต่ค่าใช้จ่ายต่อบิลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากยอดขายผ่านบริการจัดส่งที่เติบโตดี GPM ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q68 จะเพิ่มขึ้น 21 bps YoY มาอยู่ที่ 22.6% หนุนโดยยอดขายที่แข็งแกร่งของสินค้าประเภทพร้อมรับประทาน (RTE) และเครื่องดื่มพร้อมดื่ม (RTD) รวมถึงอัตรากำไรที่ดีขึ้นจาก CPAXT (แนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 26 บาท) เนื่องจากประโยชน์จาก synergy หลังการควบรวม ส่วนค่าใช้จ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามรายได้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินคาดว่าจะลดลง 2% YoY จากต้นทุนหนี้ที่ลดลง
ยังคงประมาณการกำไรปี 68 โต 12%
คาดว่ากำไรในครึ่งหลังของปี 68 จะเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก ด้วยแรงหนุนจากฤดูกาลจับจ่ายปลายปีในช่วงไตรมาส 4 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ระหว่าง ก.ค.–ต.ค. 68 ส่วนผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (เริ่มมีผล 1 ก.ค.) คาดว่าจะกระทบต่อกำไรปี 68 ไม่เกิน 0.4% เนื่องจาก CPALL ได้ทยอยปรับค่าจ้างมาตั้งแต่ปี 67 ขณะที่เป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ 700 สาขาในปีนี้ยังคงมีความเป็นไปได้สูง ยังคงคาดการณ์กำไรปี 68 เติบโต 12% YoY มาอยู่ที่ 2.83 หมื่นล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ 0.8 เท่า