สจล.เปิดคณะพยาบาลศาสตร์ เร่งผลิต ‘พยาบาลนวัตกร’ ด้วย AI
ระบบสาธารณสุขไทยกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ เนื่องจากประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ด้วยประชากรสูงวัยถึง 20% คาดว่าปี 2576 จะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับ Super Aged Society มีผู้สูงวัยเพิ่มเป็น 28% ของประชากรทั่วประเทศ ส่งผลให้ความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะพยาบาลวิชาชีพเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่อัตราส่วนของพยาบาลวิชาชีพต่อประชากรของไทยอยู่ที่ 1 : 316 สูงกว่าค่าเฉลี่ยขององค์การอนามัยโลก ที่กำหนดอัตราไว้ที่ 1 : 250 คน
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จึงประกาศเปิดตัวคณะพยาบาลศาสตร์ คณะใหม่ล่าสุดที่มุ่งสร้าง “พยาบาลนวัตกร” ผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกับทักษะความเป็นมนุษย์ เพื่อตอบโจทย์ระบบสุขภาพไทย ด้วยหลักสูตรที่เปิดรับนักศึกษาในปี 2568 เป็นปีแรก
ไม่เพียงแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน แต่ยังตอบสนองวิสัยทัศน์ในการเป็น “The World Master of Innovation” ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน
โมเดลพยาบาลนวัตกร
ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. เปิดเผยถึงเป้าหมายว่า ต้องการผลิตบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรและผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยนำนวัตกรรมมาใช้ดูแลผู้ป่วยและร่วมขับเคลื่อนสุขภาพแห่งอนาคต
การเรียนในหลักสูตร นักศึกษาจะได้รับการส่งเสริมทักษะวิชาชีพพยาบาลด้วยเทคโนโลยีสื่อการสอนสมัยใหม่ พร้อมห้องปฏิบัติการเสมือนจริงให้นักศึกษาได้ฝึกฝนการพยาบาลผู้ป่วยให้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง
ซึ่งทำให้บัณฑิตคณะพยาบาลศาสตร์ สจล. มีทักษะใช้เทคโนโลยีมาช่วยดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับโครงสร้างประชากรของไทยที่เปลี่ยนไป
ปั้นคนยุคใหม่ เชี่ยวชาญเทค
ผศ.ดร.บุหงา ตโนภาส รักษาการคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ สจล. เปิดเผยว่า จุดเด่นหลักสูตรนี้คือ การออกแบบให้เป็นหลักสูตรแห่งอนาคต ที่บูรณาการศาสตร์ทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพเข้ากับทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
ตลอดหลักสูตรผู้เรียนจะได้เรียนรู้และฝึกการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เช่น การประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพด้วย AI และ Big Data การประยุกต์ใช้ Telemedicine การฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นหัวใจการออกแบบการดูแลสุขภาพให้มีความเหมาะสมกับการดูแลรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
พร้อมเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการ การคิดเชิงออกแบบให้ผู้เรียนคิดเชิงบวก มองหาโอกาสการพัฒนา สร้างเครือข่ายความร่วมมือ คิดค้นนวัตกรรมสุขภาพที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริง ผสานมุมมองเชิงธุรกิจ ปูทางสู่การเป็นผู้ประกอบการด้านสุขภาพในอนาคต
ด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้ คณะจะโดดเด่นเรื่องห้องปฏิบัติการและเครื่องมือทันสมัย เช่น การใช้ Human Anatomy VR สอนกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาแบบเสมือนจริง ซึ่งเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน iPad อุปกรณ์ VR ได้แบบเรียลไทม์ มีจอภาพสามมิติหมุนดูได้ 360 องศา ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างร่างกายได้ชัดเจน
สจล.ยังมีสำนักการเรียนรู้ตลอดชีวิต (KLLC) ที่มี e-Book, VDO, Journal ให้นักศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเองไม่จำกัดเวลา สถานที่ พร้อมด้วย KMITL Interactive Digital Center (KIDC) นักศึกษาได้เรียนรู้ผ่านห้องปฏิบัติการ Nursing Simulation Lab จำลองห้องผู้ป่วยเสมือนจริง ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทารก หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ ที่แสดงอาการได้เหมือนมนุษย์ เช่น ชัก หายใจลำบาก หัวใจเต้นผิดจังหวะ เพื่อจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ให้เหมือนจริงที่สุด
ผศ.ดร.บุหงาเสริมว่า ในหลักสูตรจะมีจุดเด่นด้านการฝึกปฏิบัติภาคสนามอย่างเข้มข้น ผู้เรียนจะได้ฝึกปฏิบัติงานจริงกับสถานบริการสุขภาพและโรงพยาบาลตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 เริ่มจากการฝึกปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐานที่สถานบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยไม่ซับซ้อนในโรงพยาบาล แล้วค่อย ๆ ขยับสู่โรงพยาบาลระดับทุติยภูมิและตติยภูมิที่มีความซับซ้อนของการรักษามากขึ้นในปีถัด ๆ ไป
รวมถึงการฝึกในโรงพยาบาลเอกชนและ Wellness Center ชั้นนำ ซึ่งช่วยให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เตรียมพร้อมสู่การเป็นพยาบาลวิชาชีพตั้งแต่วันแรกที่สำเร็จการศึกษา
มิติการเปิดโลกทัศน์ระดับสากลถือเป็นจุดเด่นของหลักสูตรด้วย ซึ่งผู้เรียนทุกคนจะมีโอกาสเดินทางไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ (Student Exchange) กับมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศอย่างน้อยหนึ่งครั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“เตรียมความพร้อมสู่การเป็น Global Citizen ที่จะทำงานร่วมกับเครือข่ายสุขภาพในระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและการสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมสุขภาพ”
ผสาน AI กับหัวใจคน
ผศ.ดร.บุหงากล่าวว่า สิ่งที่ทำให้คณะพยาบาลศาสตร์ สจล.แตกต่างคือ การออกแบบหลักสูตรอย่างสมดุลระหว่าง Professional Skills และ Soft Skills หรือ Human Skills โดยมุ่งปลูกฝังทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ การสื่อสารทางการพยาบาล เช่น ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) ความเข้าใจในบริบทของผู้ป่วยในมิติต่าง ๆ ความเห็นอกเห็นใจ เคารพศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างพยาบาลนวัตกรที่มีความเอื้ออาทรในการดูแลผู้ป่วยอย่างแท้จริง
ทั้งทำงานเป็นทีมร่วมกับนักวิจัย นักออกแบบ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และทีมสหสาขาวิชาชีพ เข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมได้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
การสร้างพยาบาลนวัตกร เป็นเป้าหมายของ สจล.ในการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ มีทักษะด้านเทคโนโลยี เป็นนักคิดเชิงระบบที่คิดค้น พัฒนา ออกแบบเทคนิคหรือวิธีการจัดการปัญหาสุขภาพแบบองค์รวม เข้าใจบริบทที่ส่งผลต่อสุขภาวะของผู้ป่วย และออกแบบการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ป่วย
สอดคล้องกับแนวโน้มธุรกิจสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยียกระดับคุณภาพบริการ และการผลิตบุคลากรร่วมกับระบบสุขภาพดิจิทัล รวมถึงอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ที่กำลังเติบโตเร็ว นับเป็นการลงทุนสร้างศักยภาพประเทศไทยในการแข่งขันทางเศรษฐกิจด้านการแพทย์และสุขภาพในระยะยาว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สจล.เปิดคณะพยาบาลศาสตร์ เร่งผลิต ‘พยาบาลนวัตกร’ ด้วย AI
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net