โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทันหุ้น - บล.ฟินันเซียไซรัส มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up โดยมีแนวต้านสำคัญเส้น EMA200 ที่ 1,238+- จุด กลุ่มพลังงานคาดว่ายังหนุนตลาดต่อเนื่องตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องระยะสั้น ภาพรวมตลาดเริ่มเข้าสู่โหมด Wait and See มากขึ้น ทั้งการยืดเส้นตายภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนออกไปจากเดิมวันที่ 12 ส.ค. ภายหลังจากการเจรจาที่สวีเดน โดยรอทรัมป์ตัดสินใจขั้นสุดท้าย รวมถึงรอติดตามข้อมูลและท่าทีของ FED เพิ่มเติมภายหลังการประชุมคืนนี้ซึ่งค่อนข้างแน่ว่าจะยังคงดอกเบี้ยที่ 4.25-4.5%

ด้าน IMF ล่าสุดปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปี 2025-26 ขึ้น 0.1-0.2% เป็น 3% และ 3.1% ตามลำดับ โดยปรับเพิ่มประเทศหลักๆทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน อินเดีย เป็นต้น ส่วนไทยคาดโต 2% และ 1.7% ในปี 2025-26 ด้านการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ยังคงรอผลว่าจะได้รับการปรับลดภาษีจาก 36% ลงสู่ระดับเป้าหมายที่ราว 20% ใกล้เคียงคู่แข่งก่อนก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. ได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจและกำไรบจ.ใน 2H25

ขณะที่การทยอยประกาศกำไร 2Q25 บจ. ภาพรวมคาดว่าจะชะลอตัวทั้ง q-q และ y-y และต้องติดตามว่าจะเห็นการปรับประมาณการ EPS SET ลงจากปัจจุบันที่ 88.50 บาทมากน้อยเพียงใด ระยะสั้น SET Index อาจมี Upside จำกัดมากขึ้นหลังจากปรับขึ้นแรงและเริ่ม Overbought หุ้นที่ Laggard คาดมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีขึ้น

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่คาดกำไร 2Q25 แข็งแกร่ง มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : ITC, KCE, NEO, OSP, SCGP

FSSIA Portfolio : BA, CENTEL, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON

หุ้นเด่นวันนี้ : SCC

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 200 บาท

• เราคาดกำไรปกติ 2Q25 ฟื้นสดใส 2.76 พันลบ. +151% q-q จาก spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ดีขึ้นตั้งแต่ 4-13% q-q ธุรกิจซีเมนต์ได้อานิสงส์จากการขึ้นราคาปูนซีเมนต์ 400 บาท/ตันตั้งแต่ มี.ค. และ SCGP ที่กำไรฟื้นแรงกว่าเราคาด 12% รวมถึงเป็นฤดูรับเงินปันผลจากการลงทุนในบริษัทต่างๆ

• กำไรดังกล่าวยังไม่รวมกำไรพิเศษจากการปรับสถานะการลงทุนใน Chandra Asri ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็น non-cash และเป็น cash หากบริษัทขายหุ้นได้ในระยะถัดไป เงินสดจะนำไปคืนหนี้ ลดดอกเบี้ยจ่าย และจะเป็น upside ต่อกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป

• แนวรับ 200//195 บาท แนวต้าน 210-212 บาท

ด้าน บล.ดาโอ คาดดัชนีฯ เจอแรงหนุนของ Flow ไหลเข้าตลาดเอเซีย และเก็งงบ 2Q โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้ แรงหนุนจากปัจจัยถ่วงหลายตัวที่คลายตัวลง โดยเฉพาะการเจรจาการค้าที่จบไปหลายประเทศ Flow ไหลเข้าตลาดเอเซียอย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และของไทย ช่วยหนุนตลาด (มีแรงเก็งกำไรในเรื่องเงินปันผลงวดแรกเข้ามาด้วย) ดัชนีฯ รอบนี้ มีโอกาสขึ้นแตะ 1250 จดได้ หากสถานการณ์กัมพูชาค่อยๆ เบาลง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ Dow Jones ปรับลดลง นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ การประชุม FOMC คืนนี้ และการประกาศผลประกอบการ 1-2 วันข้างหน้า (Microsoft, Amazon, Meta, Qualcom, Apple)

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ระหว่างการหยุดยิง หลังแม่ทัพภาคที่ 1 และ 2 ได้เข้าเจรจากับกัมพูชาแล้ว เห็นพ้องว่าให้หยุดยิง-ห้ามยิงใส่พลเรือน-ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพล ทั้งนี้รอหารืออีกครั้งในการประชุม GBC 4 ส.ค. นี้ …. เรามองสถานการณ์ที่ยังนิ่ง นักลงทุนน่าจะเบนความสนใจไปเรื่องอื่น เช่น การเจรจาการค้า หรือเรื่องงบ

ติดตามผลการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ คาดมีการหารือข้อเสนอกันแล้วเหลือเคาะตัวเลข Tariffs …. ถ้าผลการเจรจาออกมาดูดี คาดไทยจะได้ข้อตกลงอัตราภาษีที่ใกล้เคียงกับฟิลิปปินส์ อินโดฯ เวียดนาม (19-20%)

การประชุม FOMC ครั้งนี้จะรู้ผลในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 31 ก.ค. ตามเวลาไทย CME FedWatch Tool แสดง Prob. 97.9% ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ และ 63.3% สำหรับการปรับลดลงที่ 4.00-4.25% ในการประชุมครั้งถัดไป หลังจากนี้ Fed ยังเหลือการประชุมอีก 3 ครั้ง (16-17 ก.ย., 28-29 ต.ค., 9-10 ธ.ค.) คาดจะได้เห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลือนี้

IMF เผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ในวันนี้ โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกประจำปีนี้ คาดเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.0% ในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 2.8% … GDP ไทย ปี 2568-69 จากเพิ่ม 0.2% และ 0.1% เป็น 2.0% และ 1.7% ตามลำดับ ซึ่งถือว่า GDP ค่อนข้างต่ำ

กำหนดการส่งงบการเงิน วันสุดท้าย 14 ส.ค. นี้ โดย DAOL ประเมินกำไรตลาด 2Q/25 ไว้ที่ 2.4 แสนล้านบาท -5% YoY; -13%qoq (1Q/25 ที่ 2.82 แสนล้านบาท) …. สัปดาห์นี้จะมีการประกาศงบฯ ของหุ้นกลุ่ม SCC, SCGP รวมถึง GLOBAL, HMPRO, BH, ITC

• Event วันนี้ : GDP 2Q/25 ของสหรัฐฯ, การประชุม FOMC, การประชุม BOJ

Strategy

ตลาดดูเหมือนจะลดความกังวลจากเรื่องของกัมพูชาลงไป (จนกว่าจะมีความรุนแรงกลับเข้ามา) ผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ ยังออกมาในโทนลวก และมีการเข้ามาเก็งงบ 2Q การที่ดัชนีฯ ผ่าน high เดิม 1227 มาแล้ว มองเป้าต่อไป 1250 จุด

กลยุทธ์ เน้นการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวไปก่อน อาทิ เก็งงบ เก็งเงินปันผล หรือหุ้นที่ได้อานิสงค์จาก Flow ไหลกลับเข้าตลาด อาทิ BDMS, BH และหุ้นกลุ่มธนาคาร

สถานการณ์แนวชายแดนกัมพูชา ยังมีความเสี่ยงให้เห็น อาจต้องระวังการลงทุนหุ้นที่อิงรายได้จากประเทศนี้ รวมไปถึงหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นที่มีรายได้จากจังหวัดแนวชายแดน (โรงพยาบาล, นิคมฯ)

List ของหุ้นที่ราคาลงมาลึก และมีสัญญาณเก็งกำไร BGRIM, STA*, KCE*, BH*

หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ STA*, OR เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย STA*(10%),OR(10%), GULF(10%), SCC(20%), CRC(10%), GLOBAL(20%), SCB(10%)

Technical : SAWAD, BTG

ขณะที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET 1,220 – 1,230 แนวต้าน 1,240 – 1,250 คาดโมเมนตัมของดัชนีอยู่ในทิศทางบวก จากแนวโน้มการฟื้นตัวของรายได้ & กำไรในกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี หลังจีนออก ม.ควบคุมอุปทานส่วนเกิน และยังคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาข้อตกลงการค้าไทย – สหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี เช่น SCC, SCGP, PTTEP,PTTGC,IVL/ เก็งกำไร KCE,HANA,CCET คาดได้ปัจจัยบวกของการเจรจาการค้าไทย – สหรัฐ

BCPG* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.60 บาท) คาดประกอบการ 2Q68 สะดุดชั่วคราวจากรายการ one-time ตั้งด้อยค่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Nabas2 / ลูกหนี้การค้า EDL / Solar Rooftop ด้านกำไรปกติอ่อนตัว QoQ จากโรงไฟฟ้าในสหรัฐที่ปิดซ่อม ส่วนแนวโน้ม 3Q68 จะกลับมาเติบโตจาก Hydro power plant ที่ปริมาณน้ำมากขึ้น การทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาว ปัจจัยบวกที่เหลือมาจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์ seasonal หน้าร้อนและจากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ (PJM) ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ตลาดอยู่ระหว่าง adjust กำไรปี 68 ลง แต่เชื่อว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบดังกล่าวไปแล้ว

ADVICE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.05 บาท) กลุ่มสินค้าไอทีมี Demand จากการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(เช่น AI PC) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น ส่วนการดำเนินงานปกติ 2Q68 คาดว่ายังมีแรงหนุน YoY QoQ จาก กลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะสินค้า Apple ด้าน ADVICE* เองวางเป้ารายได้ปีนี้ +20%YoY ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสมาร์ทโฟนเป็น 50% ภายในปี70 (ปัจจุบัน 1Q68 ที่ 16% แบ่งเป็น Apple 12% และ Android 4%) ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ ADVICE* จะอยู่ที่ระดับ 268 ลบ.(+15%YoY) และ 312 ลบ.(+17%YoY)

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

Smarter Web ทุ่มอีก 27 ล้านดอลล์ ซื้อ BTC ดันคลังทะลุ 2,000 เหรียญ

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ราคาทองวันนี้เปลี่ยนแปลง 6 ครั้งปรับขึ้น 200 บาท รูปพรรณขายออกที่ 52,050 บาท

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

TLIเดินเข้ากลุ่มEST100ปีที่3 ย้ำบทบาทดำเนินธุรกิจยั่งยืน

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ITC พุ่ง 10% โบรกคาดการณ์ผลงานไตรมาส 2/68

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

‘คลัง’ รายงานยอดจัดเก็บรายได้ 9 เดือน อยู่ที่ 2.04 ล้านล้านบาท พลาดเป้า!!

The Bangkok Insight

“TILOG – LOGISTIX 2025” เสริมแกร่งซัพพลายเชนโลจิสติกส์ ยกระดับการขนส่งสินค้าและการส่งออกให้ธุรกิจไทย

Wealthy Thai

GC และ PE LNG ผนึกกำลังเดินหน้าโครงการใช้พลังงานความเย็น จากก๊าซธรรมชาติเหลวในกระบวนการผลิตโอเลฟินส์ หนุนเป้าหมาย Net Zero

Wealthy Thai

HL เปิด Pharmax สาขาใหม่ ดันเครือข่ายร้านยาแตะ 68 แห่ง

Wealthy Thai

RT ต้อนรับ APM เยี่ยมชมโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ช่วงอุโมงค์แม่กา จ.พะเยา

Wealthy Thai

SM ส่งพลังน้ำใจ ช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

Wealthy Thai

HFT รุกตลาดมอเตอร์สปอร์ต! ดันแบรนด์ DURO สู่กลุ่มนักแข่ง หนุน Road Racing 2025

Wealthy Thai

UMI Group ชูกลยุทธ์ธุรกิจควบคู่ ESG เดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2065 เพื่อการเติบโตยั่งยืนในระยะยาว

Wealthy Thai

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...