GULF ปิดดีลไฟฟาขยะ เพิ่มกำไรปีละ 1พันลบ.
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - GULF เดินเกมพลังงานขยะเต็มกำลัง! ดัน Net Zero – เท 1,100 ล้านบาท ซื้อกิจการจาก ETC–BWG เสริมทัพ 12 โรงไฟฟ้าขยะ 96 MW + 3 โครงการผลิตเชื้อเพลิง SRF เปิดเชิงพาณิชย์ปี 2570 หวังเพิ่มกำไรปีละ 1,000 ลบ. โบรกชี้ Slightly Positive หนุน M&A ต่อเนื่องตามธีมพลังงาน–ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นดีลที่ 3–4 ต่อเนื่องหลังควบรวม GULF–INTUCH แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบหลักการการรับซื้อไฟฟ้าและอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561–2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของประเทศ
แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ในการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ควบคู่กับการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสีย ตลอดจนสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG: Bio-Circular-Green Economy)
บริษัทฯ จึงได้ลงทุนใน โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ภายใต้แผนดังกล่าวจำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 96 เมกะวัตต์ และโครงการ โรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม (Solid Recovered Fuel: SRF) จำนวน 3 โครงการ ผ่าน บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด (GWTE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 100% โดยการลงทุนดังกล่าวจะเพิ่มกำไรปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 GWTE ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดที่บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) ถือในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม และซื้อหุ้นทั้งหมดที่ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) ถือในโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม รวมมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1,100 ล้านบาท ส่งผลให้โครงการทั้งหมดกลายเป็นบริษัทย่อยของ GWTE โดยมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นดังนี้
โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมภายใต้บริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด จำนวน 10 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 80 เมกะวัตต์ เดิม GWTE และ ETC ถือหุ้นคนละ 50% เปลี่ยนเป็น GWTE ถือหุ้น 100% โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมภายใต้บริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์ เดิม GWTE, ETC และ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (WTX) ถือหุ้นในสัดส่วน 34%, 33%, 33% ตามลำดับ ปรับใหม่เป็น GWTE 67% และ WTX 33%โรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม ภายใต้บริษัท เซอร์คูลาร์ แคมป์ จำกัด จำนวน 3 โครงการ เดิม GWTE และ BWG ถือหุ้นคนละ 50% ปรับเป็น GWTE ถือหุ้น 100%
บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตของโครงการในระยะยาว และเชื่อมั่นว่าการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 12 โครงการได้ลงนามใน สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. เรียบร้อยแล้ว มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2570 ส่วนโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีเดียวกัน
บล.กรุงศรี ระบุ มอง Slightly Positive บนธีมการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นและการทำ M&A ในกลุ่มธุรกิจ หลักอย่างโรงไฟฟ้าและ Data Center ต่อเนื่องเป็นดีลที่ 3-4 ต่อเนื่องหลังควบรวมของ GULF และ INTUCH
กรณีการซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 50% ในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมและโรงงานผลิต เชื้อเพลิงแข็งขยะอุตสาหกรรม ทั้งหมด 15 โครงการจาก ETC และ BWG รวม 45 Equity MW จะส่งผลให้ GWTE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GULF ถือหุ้น 100% ในโครงการทั้งหมด (เดิม ถือ 50%) และส่งผลให้มีการปรับวิธีรับรู้จากส่วนแบ่งกำไรในรูปแบบ JV เป็นการ Consolidate ในงบการเงินรวม โดยประเมินแม้เป็น Upside เล็กน้อยต่อกำไรปี 2570 ของ GULF ราว 0.4% หลัง COD ภายในสิ้นปี 2569 ทว่าช่วยเพิ่มความชัดเจนในแง่ของทิศทางการ เติบโตสำหรับ GULF หลังควบรวม
กรณีการปรับสัดส่วนการถือ AISBB เพิ่มขึ้น 10% คาดว่ายังคงรูปแบบ JV และไม่มีผล เปลี่ยนแปลงต่อ Earnings 25F ของ GULF และ ADVANC อย่างมีนัยยะด้วยธุรกิจดังกล่าว ยังอยู่ใน Early stage
ด้าน Outlook ระยะสั้นคาดกำไรปกติไตรมาส 2/2568 ของ GULF หลังควบรวม INTUCH เติบโต y-y, q-q จาก โรงไฟฟ้าใหม่ใน ไตรมาส 4/2567 และไตรมาส 1/2568 อีกทั้ง แนวโน้มส่วนแบ่งกำไรจาก Jackson ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง 2568 จากผลการปรับค่าความพร้อมจ่าย Capacity payment ปี 25/26F ตลาด PJM สหรัฐในเดือนมิ.ย. และ คาดธุรกิจ LNG trading ยังสามารถเติบโต q-q ได้ต่อเนื่อง iv) การเติบโตแบบ Organic ของส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC
คงประมาณการและคำแนะนำ Buy บน ราคาเป้าหมายปี 2568 เดิมที่ 56.5 บาท ภายใต้วิธี SOTP โดยราคา เป้าหมายปัจจุบันยังไม่รวม Upside จากการทำ M&A กับ i) GUNKUL รวม 230 Equity MW ii) BSWPH รวม 218 Equity MW iii) ETC และ BWG 45 Equity MW
รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัญช์ภัทร บรรณาธิการข่าง Hoonvision