เจาะลึกสถานการณ์ โกนาเต้ กับ มาดริด
เริ่มแรกจาก มาดริด ให้ความสนใจ โกนาเต้ ที่เหลือสัญญากับ ลิเวอร์พูล อีก 1 ปี ตระเตรียมไว้ว่าจบฤดูกาลแล้วมาร่วมงานกัน
สื่อก็รายงานต่อว่าตัวนักเตะเล่นด้วย สนใจจริง และปัดข้อเสนอต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล อย่างน้อย 2 รอบ
ไปๆมาๆ ข่าวพัฒนาไปถึงขั้นที่ว่า "จะไม่รอกันละ โยกย้ายกันซัมเมอร์นี้เลยมั๊ยล่ะ ?"
สื่อตีข่าวว่า โกนาเต้ เองก็ไม่ติดหากจะย้ายออกซัมเมอร์นี้ ด้าน ลิเวอร์พูล ก็ครุ่นคิด จะขายทำเงินก่อนจะเสียฟรีแบบ เทรนท์ หรือจะเก็บไว้ลุยต่อใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่
ฝั่ง มาดริด ดูจะได้เปรียบกับสถานการณ์นี้ เหมือนนั่งบนภูดูเสือสู้กัน
ตัวเองสื่อสารกับ โกนาเต้ แล้วให้นักเตะไปบู๊กับต้นสังกัดเอง
ทำไม มาดริด ชอบทำอะไรแบบนี้ ?
เรียกได้ว่ามันคือหนึ่งในนโยบายของสโมสรเลยก็ว่าได้
มาดริด มักมองหานักเตะที่กำลังจะหมดสัญญา ทำการติดต่อแล้วชักจูงใจด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า เช่นค่าเหนื่อยเยอะกว่า โบนัสเงื่อนไขต่างๆที่ดีกว่า
แล้วทำไมทีมอื่นทำอย่าง มาดริด ไม่ได้ ?
จะสรุปแบบนั้นคงไม่ได้หรอกนะครับ แต่ที่ตอบได้คือ มาดริด มีศักยภาพในการจูงใจสูง
ให้ค่าเหนื่อยสูง ให้โบนัสเยอะ มีความท้าทายให้ มอบโอกาสในการลุ้นแชมป์ให้ทุกปี ถ้านักเตะคนไหนมองหาอะไรแบบนี้อยู่ ก็มักจะถูกจูงใจได้ง่าย ซึ่งนักเตะส่วนใหญ่มองหาอะไรแบบนี้อยู่เสมอ
ได้ฟรีเลยจ่ายค่าเหนื่อยให้สูงได้ ?
โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีหรอกครับ นักเตะที่หมดสัญญาแล้วย้ายไป มาดริด ล้วนแล้วแต่ได้ prima de fichaje (ปรีม่า เด ฟีชาเฆ่) หรือ 'ค่าเซ็นสัญญา' ด้วยกันทั้งนั้น
เพียงแต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน อย่าง เทรนท์ นี่ก็ได้ เห็นว่า 20 ล้านยูโร, รือดิเกอร์ ก็ได้, อลาบา ก็ได้ หรือ เอ็มบั๊บเป้ เม้าท์กันว่าหลัก 100 ล้านยูโร
ถามว่า ในเมื่อต้องจ่าย 'ค่าเซ็นสัญญา' และค่าเหนื่อยที่แพง แล้วคุ้มกว่าดีลซื้อ-ขายปกติหรือ ?
ไม่คุ้ม มาดริด ไม่ทำ หลักคิดคือ 'ค่าเซ็นสัญญา' จะถูกประเมินจากมูลค่าทางการตลาดที่แท้จริงของนักเตะ ไม่ใช่ราคาที่ถูกลงเนื่องด้วยนักเตะกำลังจะหมดสัญญา
ตัวอย่างเช่น เทรนท์ หลังจบฤดูกาลที่แล้ว เขาไม่มีราคาเลย แต่หลังเซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด มูลค่าปัจจุบันของเขาขยับไปอยู่ที่ 75 ล้านยูโร เทียบกับเงินที่ มาดริด เสียให้ ลิเวอร์พูล 10 ล้าน เสียให้ เอเยนต์ เทรนท์ 20 ล้าน คุ้มกว่าเห็นๆ
อีกทั้งเมื่อไหร่ก็ตามที่ทำผลงานไม่ได้ตามความคาดหวัง มาดริด สามารถขายออกเพื่อทำกำไรได้อีก
นอกจากนี้ มาดริด ยังเชื่อว่าการเจราจาโดยตรงกับเอเยนต์นักเตะ พวกเขาสามารถคอนโทรลสถานการณ์ได้ง่ายกว่าเจราจากับสโมสรต้นสังกัด
ลองจินตนาการดู คุยกับเอเยนต์ของ เทรนท์ กับคุยกับทีมซื้อขายของ ลิเวอร์พูล อันไหนปวดหัวน้อยกว่ากัน ?
แล้วทำไมต้อง โกนาเต้ ?
โกนาเต้ ตรงตาม policy สโมสรทุกอย่าง เก่ง,กำลังจะเป็นฟรีเอเยนต์ ,เป็นตำแหน่งที่กำลังมองหา กรณีนี้ plus ด้วย อายุน้อยใช้งานได้ยาว
ทำไมจึงเกิดสถานการณ์ว่า มาดริด จะไม่เซ็นฟรี จะเอาตั้งแต่ซัมเมอร์นี้เลย ?
1.ผลงานใน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการปรับตัวของแผงหลังกับแท็คติกของ ชาบี อลอนโซ่
ในระบบหลัง 3 ของ อลอนโซ่ เซนเตอร์แบ็กจะต้องมีคุณสมบัติหลากหลาย
แข็งแกร่งในการเข้าปะทะ, มีความสามารถในการอ่านเกม, มีความเร็ว, ความคล่องตัว, มีความสามารถในการบิวด์อัพ และ เก่งในการคุมพื้นที่เพราะพื้นที่แดนหลังมีเพียง 3 คน
ในเชิงแท็คติก เซ็นเตอร์แบ็ก ทั้ง 3 คนของ อลอนโซ่ ต้องมีคุณสมบัติสามารถบิวต์อัพเกมแนวลึกได้ดี โดยเมื่อเป็นฝ่ายครองบอล เซ็นเตอร์แบ็กคนใดคนหนึ่งจะขยับตัวเองขึ้นมาเพื่อ OverLoad พื้นที่ตรงกลางสนาม ส่งผลให้ทีมมีตัวเลือกการจ่ายบอลมากขึ้น หรือบางครั้งเซ็นเตอร์แบ็กเองจะเป็นคนพาบอลขึ้นมาถึงพื้นที่สุดท้าย
สรุปคือ เซนเตอร์ในอุดมคติของ อลอนโซ่ จะต้องเป็นเซนเตอร์ที่สกิลดี วิชั่นส์ดี เก่งเกมรับ เสริมเกมรุกได้ ซึ่งบางคนในทีมเวลานี้ไม่ตอบโจทย์
2. มาดริด รู้ว่าตัวเองมีปัญหาเกมรับมานานแล้ว
กับทุกรายการที่ปิดฉากลงไป เรอัล มาดริด ลงเล่นรวมทั้งสิ้น 66 เกม เสียไปถึง 84 ประตู
แบ่งออกเป็น
- ลา ลีกา - เสีย 38 ประตู (38 เกม)
- ชปล. - เสีย 22 ประตู (14 เกม)
- โกปา เดล เรย์ - เสีย 11 ประตู (6เกม)
- ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า - เสีย 5 ประตู (2เกม)
- ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ - เสีย 8 ประตู (6 เกม)
ทีมที่เสียประตูมากกว่าจำนวนนัดที่ลงสนาม ไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์นานก็รู้ว่ายากจะประสบความสำเร็จ
3.สภาพของกองหลังแต่ละราย
ดาวิด อลาบา อายุ 33 ปี ผ่านการเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หัวเข่าเมื่อปลายปี 2023 พักยาว 384 วัน มาเมษายนปีนี้เจ็บหมอนรองกระดูกอีก ระหว่างปี 2023-25 ปราการหลังออสเตรียพลาดลงสนามให้ มาดริด ไปแล้วทั้งสิ้น 88 เกม
เอแดร์ มิลิเตา อายุ 27 เจ็บเอ็นหัวเข่าหนักๆ 2 รอบ รอบแรก สิงหาคมปี 2023 พัก 214 วัน , รอบสอง พฤศจิกายน 2024 พัก 234 วัน
แม้จะกลับมาลงเล่นได้แล้ว แต่คำถามสำคัญคือนักเตะที่ผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า 2 ครั้งในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปี ต้องพักรวม 448 วัน สามารถคาดหวังว่าจะเป็นตัวหลักในซีซั่นหน้าได้เต็มที่หรือไม่ ?
อันโตนิโอ รือดิเกอร์ อายุ 32 แล้ว แม้ฟอร์มจะยังดี แต่ 2 ซีซั่นหลังมานี้ใช้ร่างกายหนักหน่วง เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมเจ็บยาวเป็นปีถึง 3 คน รวมๆแล้ว เซนเตอร์เยอรมันลงเล่นไปกว่า 100 นัดเลยทีเดียว จนท้ายซีซั่นใน ลา ลีกา ต้องเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกพักไป 55 วัน ก่อนจะกลับม่ได้ใน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
ราอูล อาเซนซิโอ ทะลุขึ้นมาในปีนี้เพราะตัวหลักต่างบาดเจ็บยาว ทว่าก็มาฟอร์มหลุดทำผิดพลาดในทุกเกมที่ลงสนามในฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ตั้งแต่ทำเสียจุดโทษ, เสียใบแดง จนถึงเล่นพลาดนำไปสู่การเสียประตู
ด้วยสภาพเช่นนี้ มาดริด จึงไม่ปฏิเสธโอกาสในการดึงตัว โกนาเต้ มาร่วมทีมในซีซั่นนี้
สำหรับ โกนาเต้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ก้าวไปถึงระดับเวิลด์คลาส ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่หนึ่งในเซนเตอร์แบ็กชั้นนำของยุโรปที่มีศักยภาพจะพัฒนาต่อไปได้
จุดเด่นของ โกนาเต้ คือมีความเร็ว แข็งแกร่งในจังหวะปะทะ ส่วนลูกกลางอากาศหายห่วง ถ้าวัดกันที่ตัวเลขแล้ว เขามีสถิติการดวลลูกกลางอากาศชนะมากกว่าเซนเตอร์แบ็กของ เรอัล มาดริด ทุกคน ที่ 71.8% ชนะ 75 จากการดวล 106
นอกจากนี้บนภาคพื้นที่ดิน โกนาเต้ ก็ทำได้เยี่ยม ช่วงเดือนพฤศจิกายนฤดูกาลที่แล้ว เคยขึ้นอันดับหนึ่งเซนเตอร์ที่ชนะดวลตัวต่อตัวมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ที่ ชนะ 47 จาก 64 ครั้ง คิดเป็น 73.44%
โปรเจคต์ระยะยาว
เรอัล มาดริด มองว่าการเข้ามาของ โกนาเต้ ไม่เพียงแต่เป็นการแก้ปัญหาในแผงรับเท่านั้นในเวลานี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการวางโครงสร้างทีมในระยะยาวอีกด้วย
ด้วยอายุเพียง 26 ปี โกนาเต้ สามารถยืนระยะเป็นตัวหลักในอนาคตให้ เรอัล มาดริด ได้สบายๆ นั่นคือความมั่นคงที่ โกนาเต้ สามารถมอบให้กับทีม นอกเหนือไปจากแก้ไขปัญหาปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม มาดริด ก็มองว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ พวกเขายินดีที่จะคว้า โกนาเต้ มาร่วมทีมตั้งแต่ฤดูกาลนี้ เพียงแต่ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่พวกเขานำเสนอ นั่นคือในวงเงิน 20 ล้านยูโร ซึ่งเป็นอะไรที่ ลิเวอร์พูล ยอมรับไม่ได้
ลิเวอร์พูล เองก็ต้องประเมินว่าพวกเขาจะเดินหมากอย่างไร เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเคสนี้
ยอมขาย แต่ขายในราคาเท่าไหร่ ?
เก็บไว้ใช้งานและเสียฟรีเมื่อหมดสัญญา (ระหว่างฤดูกาลอาจจะเจราจาหว่านล้อมไปด้วย มีเวลาจนถึงมกราคม 2026)
เรื่องนี้ไม่ง่ายสำหรับ ลิเวอร์พูล เพราะซีซั่นที่จะถึงนี้ ทีมมีเป้าหมายที่จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น นอกเหนือจากภารกิจป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว ยังหมายรวมถึงการไปให้ไกลในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย
แต่การยกระดับสู่ความเป็นเลิศ ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มทีมระดับท็อปของยุโรปที่ยืนระยะได้ยาวๆ จะเกิดปัญหาแน่ ถ้าพวกเขาเสีย โกเนาเต้ ไป หลังจากที่เสีย เทรนท์ ไปก่อนหน้านี้
นี่คือความกระอักกระอ่วนประการนึงสำหรับทัพหงส์แดง ส่วน มาดริด หากท้ายที่สุดลงเอยว่าพวกเขาต้องรอ เชื่อว่าพวกเขาก็รอได้ การทุ่มเงินก้อนโตคว้าแข้งที่กำลังจะหมดสัญญานั้น ไม่ใช่นโยบายของสโมสร
ร่ายยาวมาถึงตรงนี้ จะเห็นว่าหมากกระดานนี้น่าสนใจมากครับ แต่ละฝ่ายจะเดินไปในทิศทางไหน จะมีอะไรเป็นจุดพลิกผันหรือไม่ สุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายพิชิตคิงของอีกฝ่ายลงได้….น่าติดตาม น่าติดตาม
#เจมส์ลาลีกา