ทรัมป์ขู่เก็บภาษีรัสเซีย 100% หากไม่ยุติสงครามยูเครนใน 50 วัน พร้อมเดินหน้าส่งอาวุธสนับสนุนเคียฟผ่าน NATO
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครน ระหว่างการประชุมกับมาร์ก รุตเต เลขาธิการ NATO ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดีซี. วานนี้ (14 กรกฎาคม) โดยระบุว่า สหรัฐฯ จะจัดส่ง ‘อาวุธระดับสูงสุด’ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครน ผ่านทางประเทศสมาชิก NATO พร้อมทั้งขู่ว่า รัสเซียจะต้องเผชิญกับมาตรการภาษีศุลกากรขั้นรุนแรงในอัตรา 100% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงยุติสงครามกับยูเครนได้ภายใน 50 วัน
“เราจะใช้มาตรการภาษีนำเข้าที่รุนแรงมาก หากเราไม่มีข้อตกลงภายใน 50 วัน ซึ่งก็คือภาษีนำเข้าประมาณ 100%”
โดยทรัมป์ เรียกการเก็บภาษีดังกล่าวว่า ภาษีรอง (Secondary Tariff) ซึ่งประเทศใดก็ตามที่ทำการค้ากับรัสเซียจะต้องเผชิญกับอัตราภาษี 100% หากต้องการขายสินค้าให้กับสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวชี้ว่า การเรียกเก็บภาษีรองดังกล่าว ถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรขั้นที่สองต่อประเทศอื่นๆ ที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เช่น หากอินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีจากสินค้าที่นำเข้าจากอินเดียในอัตรา 100%
ท่าทีของทรัมป์ ถือเป็นการพลิกจุดยืนที่ผ่านมาต่อรัสเซีย โดยระหว่างหารือกับรุตเต เขากล่าวว่า “ไม่พอใจอย่างยิ่ง” ต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และย้ำว่าความอดทนของเขาได้หมดลงในที่สุด หลังจากที่ผู้นำรัสเซียยังคงปฏิเสธที่จะยุติการรุกรานยูเครนที่ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 3 ปี
ขณะที่ทรัมป์ เผยว่า ประเทศสมาชิก NATO ในยุโรป จะจัดส่งระบบขีปนาวุธแพทริออตของตนเอง ไปให้แก่ยูเครนเพื่อใช้ป้องกันการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย โดยสหรัฐฯ จะเป็นผู้จัดหาระบบทดแทนให้ ซึ่งชาติยุโรปจะเป็น “ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม ทั้งรุตเตและทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาวุธที่จะส่งไปยังเคียฟ แต่รุตเตกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวรวมถึง “ขีปนาวุธและกระสุน” และจะจัดส่งไปยังสนามรบในยูเครนอย่างรวดเร็ว
“ถ้าผมเป็นวลาดิเมียร์ ปูตินในวันนี้ ผมจะพิจารณาใหม่ว่าควรจะจริงจังกับการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนมากกว่านี้หรือไม่” รุตเตกล่าว ในขณะที่ทรัมป์พยักหน้า
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า เขาได้พูดคุยกับทรัมป์ ภายหลังทรัมป์พบกับรุตเต และขอบคุณทรัมป์สำหรับ “ความเต็มใจที่จะสนับสนุนยูเครน และทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อหยุดยั้งการสังหารหมู่ และสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและยุติธรรม”
“เราได้หารือถึงวิธีการและทางออกที่จำเป็นกับประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อให้การคุ้มครองประชาชนยูเครนจากการโจมตีของรัสเซียได้ดีขึ้น และเพื่อเสริมสร้างจุดยืนของเรา เราพร้อมที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อบรรลุสันติภาพ” เซเลนสกีกล่าว
อ้างอิง: