"ดีอี” ตั้งวอร์รูมไซเบอร์ 24 ชม. ป้องภัยสงครามไซเบอร์จากกัมพูชา
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้จัดตั้งวอร์รูม (war room) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ “สงครามไซเบอร์” ที่อาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะการโจมตีแบบ DDoS ที่มุ่งเป้าเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐ เพื่อทำให้ระบบล่มและสื่อสารข้อมูลผิดพลาด
ทั้งนี้ หน่วยงานหลักที่ร่วมรับผิดชอบได้แก่ กองทัพไทย และ สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หากพบความพยายามโจมตีระบบ กระทรวงดีอีจะสั่งให้ “Take Down” ข่าวปลอม (ข่าวลวง) ทันที และบล็อกช่องทางที่เผยแพร่ เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูลในประชาชนไทย
สำหรับภาพรวมภัยคุกคามไซเบอร์ในภูมิภาคนั้น จากรายงานของบริษัทความมั่นคงไซเบอร์ระดับโลก เช่น Trend Micro และ Cisco พบว่าในปี 2568 ภัยคุกคามจาก มัลแวร์ zero‑day, แรนซัมแวร์, และการโจมตีผ่าน AI‑driven phishing โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น
การตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมงนั้น ไม่เพียงเพื่อรับมือการโจมตีแบบจริง (war‑time cyber attack) เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมภัยไซเบอร์ในสถานการณ์ข่าวปลอม หรือการโจมตีผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยระบบจะแยกแยะข่าวปลอม (fake news) และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนทันที
ในกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา มีการเผยแพร่ข่าวปลอม เช่น รายงานการตกเครื่องบินไทย (F‑16) หรือการยึดปราสาทกลับคืนจากไทย หลายกรณีเป็นเท็จ ทางดีอีได้ประสานกับสื่อประชาสัมพันธ์และหน่วยงานพันธมิตรเพื่อชี้แจงอย่างรวดเร็ว และมีข้อแนะนำว่าประชาชนควรตรวจสอบข่าวจากแหล่งทางการก่อนแชร์
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเว็บไซต์หรือระบบของหน่วยงานรัฐไทยถูกโจมตีจนเกิดความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นผลจากการเตรียมพร้อมและมาตรการป้องกันที่มีอยู่ เช่น ระบบต้าน DDoS, การสำรองข้อมูล และทีมตอบโต้เหตุฉุกเฉิน (incident response team) ที่พร้อมดำเนินงานทันทีเมื่อพบความผิดปกติ