กลุ่มปกป้องอธิปไตยไทยชุมนุมใหญ่ บช.น. ยึด 3 มาตราการดูแลปชช.
แกนนำของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินชุมนุม เพื่อเป็นการแสดงพลังประชาชนจากแนวหลังสู่แนวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แกนนำของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชุมนุม เพื่อ เป็นการแสดงพลังประชาชนจากแนวหลังสู่แนวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และประชาชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่
พร้อมยืนยืนจุดยืนใน 3 ข้อเรียกร้องเดิมที่ต้องสานต่อให้สำเร็จ คือ 1. เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่ง โดยไม่ต้องรอคำตัดสินของศาลฯ 2.ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วม และ 3.แสดงจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของประชาชนคนไทย
สำหรับการชุมนุมครั้งนี้จะมีการรับบริจาคสิ่งของจำเป็นเพื่อนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่แนวหน้า และประชาชนที่ต้องอพยพ อาทิ ข้าวสารอาหารแห้ง โดยเฉพาะตาข่ายที่มีความจำเป็นในการนำไปขึงบริเวณชายแดนเพื่อป้องกันอาวุธวิธีโค้ง เช่น ระเบิด ที่จะโจมตีเข้ามาในฝั่งไทย โดยจะมีการนำรถเข้ามารอรับสิ่งของบริจาคเพื่อนำไปส่งให้กับแนวหน้าในทันที พร้อมย้ำว่าการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการดำเนินกิจกรรมอย่างสันติ
ต่อมา พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่บริเวณเกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ของกลุ่มผู้ชุมนุมคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย รวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฎิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ
พลตำรวจโทสยาม เปิดเผยว่า ในวันนี้ตัวเองได้ลงพื้นที่มาติดตามสถานการณ์การชุมนุม ซึ่งภาพรวมบรรยากาศการชุมนุมยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจากการข่าวก็ยังไม่พบข้อมูลอะไรที่น่าเป็นกังวล โดยเบื้องต้นตำรวจได้เตรียมกำลังประมาณ 20,00 นาย ในการดูแลรักษาความเรียบร้อยพื้นที่การจัดกิจกรรมรวมถึงพื้นที่โดยรอบ ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนทั่วไป
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขานรับภารกิจด้วยความมุ่งมั่น ด้วยมาตรการดูแล 3 ด้านหลัก เพื่อให้การแสดงออกของประชาชนเป็นไปโดยสงบ ปลอดภัย และอยู่ในกรอบของกฎหมาย หนึ่ง ด้านความมั่นคงปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ 6 จุดสำคัญ และกระจายจุดคัดกรองทั้งบนพื้นราบ 8 จุด และบนสกายวอล์กอีก 5 จุด พร้อมระดมกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และสุนัขตำรวจ (K-9) ตรวจตราทั่วพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมกว่า 200 ตัว ปิดช่องโหว่ด้านภาพ รวมถึงประกาศห้ามบินโดรนทุกกรณี เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธมีดและคัตเตอร์ได้ถึง 15 เล่ม และจับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติดประเภทไอซ์ได้ 1 ราย ซึ่งได้นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
สอง ด้านการจราจร เพื่อไม่ให้การชุมนุมกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วไป ทาง บช.น. ได้จัดเจ้าหน้าที่จราจรกว่า 80 นาย จาก บก.จร. พร้อมเปิดเส้นทางพิเศษสำหรับรถฉุกเฉิน และวางแผนการจราจรโดยรอบเป็น 5 โซนหลัก เพื่อความคล่องตัวในทุกสถานการณ์
สาม ด้านการดูแลประชาชน เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถพยาบาลจากศูนย์นเรนทรและโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่โครงการพระราชดำริคอยอำนวยความสะดวกในการนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่โดดเด่นคือ การจัดทีมเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนหญิง ที่ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลภาคสนาม เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนและผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างใกล้ชิด
ท้ายที่สุด บช.น. ขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้วยความเคารพ เพื่อให้การแสดงออกทางความคิดเห็นเป็นไปโดยสันติ และไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews