เกาะกระเเสกันหน่อย! เจอด่านตำรวจต้องปฏิบัติตัวทำอย่างไร!
เกาะกระเเสกันหน่อย! เจอด่านตำรวจต้องปฏิบัติตัวทำอย่างไร!
เมื่อเจอด่านต้องทำอย่างไร?
ทุกครั้งที่เจอด่านตรวจ ต้องบอกข้อแรกว่า ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะตำรวจเขาไม่จับเราแน่นอ สิ่งที่คือเราต้องมีสติและทำสิ่งต่างๆ ดังนี้
1. ชะลอความเร็ว ปิดไฟหน้า เปิดไฟในห้องโดยสาร
ลดความเร็วรถลงอย่างนุ่มนวล ไม่ใช่การเบรกกะทันหัน หาก่ป็นเวลากลางคืนนั้นให้ปิดไฟหน้า เปิดไฟในห้องโดยสารล่วงหน้าก่อนถึงตัวด่าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่มองเห็นภายในรถได้ชัดเจน เป็นการแสดงเจตนาที่ดีว่าพร้อมให้ความร่วมมือ
2. ปฏิบัติตามสัญญาณของเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่เขาจะเดินดูเปิดไฟแนะนำให้ลดกระจกฝั่งที่เจ้าหน้าที่เดินมา ทักทายหน่อยก็ได้เป็นมารยาทที่ดีของชาวไทย และถ้าเจ้าหน้าที่โบกให้ไปก็ต้องไปแต่ถ้าโบกให้เลี้ยวเข้าไปในช่อง แสดงว่าต้องมีอะไรผิด
3. เตรียมเอกสารให้พร้อม
หากถูกเรียกให้เข้าข้างทางเตรียมใบอนุญาตขับขี่และสำเนาทะเบียนรถไว้ในตำแหน่งที่หยิบง่าย แต่ควรรอให้เจ้าหน้าที่ร้องขอก่อนที่จะหยิบยื่นให้
4. สื่อสารอย่างสุภาพและให้ความร่วมมือ
อย่างที่บอกไปว่าถ้ามีการพูดคุยก็ควรใช้คำที่สุภาพกับเจ้าหน้าที่ เพราะไม่งั้นอาจจะถูกข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งก็มีโทษอีก และยังมีเรื่องที่ต้องรู้คือ
กรณีตรวจแอลกอฮอล์
หากถูกขอตรวจวัดแอลกอฮอล์ ควรให้ความร่วมมือแต่โดยดี การปฏิเสธไม่มีประโยชน์ใดๆ เพราะการปฏิเสธจะถูกตีว่า เมาแล้วขับทันที และถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แสดงว่ายังไม่เมาแล้วขับ
แต่โทษของการเมาแล้วขับนั้นปัจจุบันมีบทลงโทษดังนี้
กระทำผิดครั้งแรก
- จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- กระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี (นับจากความผิดครั้งแรก)
- โทษหนักขึ้น จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 50,000 - 100,000 บาท (ศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ)
- ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรืออาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ / เสียชีวิต
- บาดเจ็บ: จำคุก 1 - 5 ปี และปรับ 20,000 - 100,000 บาท
- บาดเจ็บสาหัส: จำคุก 2 - 6 ปี และปรับ 40,000 - 120,000 บาท
- เสียชีวิต: จำคุก 3 - 10 ปี และปรับ 60,000 - 200,000 บาท
เมื่อ "ไม่ยอมเป่า" จะเกิดอะไรขึ้น?
หลายคนเข้าใจผิดว่าการปฏิเสธการเป่าจะช่วยให้รอดพ้นจากความผิดได้ แต่ความจริงคือ ตรงกันข้าม! ตามกฎหมาย (พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 142) หากผู้ขับขี่ปฏิเสธที่จะให้ทดสอบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า "มีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาสุรา" การไม่ยอมเป่า จะถูกดำเนินคดีในข้อหา "เมาแล้วขับ" ทันที โดยมีอัตราโทษเทียบเท่ากับผู้ที่เป่าแล้วพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด
กรณีหากถูกขอตรวจค้นรถ
หากคุณถูกเจ้าที่ให้ตรวจค้นรถ คุณมีสิทธิ์ที่จะสอบถามถึงเหตุอันควรสงสัยและสามารถบันทึกวิดีโอเพื่อเป็นหลักฐานได้ แต่ต้องทำด้วยความสุภาพและไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
เรื่องหน้ารู้และข้อสังเกตของด่านที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ว่าจะตำรวจจะตั้งด่านกันง่าย เมื่อก่อนเคยมีด่านลักษณะแบบด่านลอย ซึ่งทำให้เกิดอันตรายและดูเป็นการทุจริต แต่เดี๋ยวกดารตั้งด่านจะต้องมีขนาดที่ใหญ่และเป็นลักษณะที่ชัดเจน โดยมีข้อสังเกตดังนี้
- มีนายตำรวจระดับสารวัตรขึ้นไปเป็นหัวหน้าชุด
- มีป้ายหยุดตรวจที่มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล
- มีไฟส่องสว่างและกรวยยางสะท้อนแสง
- เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแต่งกายในเครื่องแบบถูกต้อง
กรณีไม่เมา แต่เจตนาฝ่าฝืน
หากคุณไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ตัดสินใจขับรถฝ่าด่านเพราะตกใจ กลัว หรือเหตุผลอื่นใดก็ตาม จะมีความผิดตามกฎหมายอาญาทันที ข้อหา ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่มีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจโดนข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นเพิ่มเติม หากการฝ่าฝืนนั้นเป็นไปอย่างน่าหวาดเสียวและเป็นอันตราย
กรณีที่"เมาแล้วขับ" แล้วฝ่าด่าน
หากเป็นกรณีเมาแล้วขับและยังจะฝ่าด่านก็จะมีโทษที่หนักขึ้น เพราะนอกจากจะโดนข้อหาฝ่าด่านแล้ว ยังต้องรับโทษสถานหนักจากกฎหมายเมาแล้วขับ ซึ่งถือเป็นความผิดที่สังคมไม่ยอมรับและมีบทลงโทษรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ