รมช.คลังลงพื้นที่สงขลาเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชน “ตาคียะ (TAKIYA)” ต้นแบบสุราพื้นบ้านคุณภาพจากน้ำตาลโตนด
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่เยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตาคียะ สุราพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา โดยมีนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ปลัดจังหวัดสงขลา นายนราเดช คำทัปน์ นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา นายนันทชัย ทองเกียรติ ประธานวิสาหกิจชุมชนตาคียะ ตลอดจนส่วนราชการ สมาชิกวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
วิสาหกิจชุมชนตาคียะ ก่อตั้งเมื่อปี 2562 ด้วยเป้าหมายพัฒนาสุราท้องถิ่นจากน้ำตาลโตนดคุณภาพดีในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ผ่านกระบวนการหมักธรรมชาติ กลั่น และบ่มตามมาตรฐาน เพื่อคงเอกลักษณ์ท้องถิ่นและอนุรักษ์วิถีชุมชนการขึ้นตาลโตนด โดยใช้ชื่อ “ตาคียะ (TAKIYA)” ที่มีที่มาจากตำบลตะเครียะ อำเภอระโนด แหล่งสุราพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อจนเกิดสุภาษิตว่า “เหล้าที่ดีคือเหล้าเครียะ” มาต่อยอดเป็นแบรนด์ที่ทันสมัยและสากล สื่อถึงคุณภาพและความเป็นอัตลักษณ์ของสุราไทย พร้อมวางเป้าหมายยกระดับเป็นสุราประจำเมืองสงขลาและภาคใต้ ตลอดจนพัฒนาไปสู่การส่งออกในอนาคต
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สุราชุมชนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูงของประเทศไทย เพราะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตทางการเกษตร และเชื่อมโยงกับภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยกรมสรรพสามิตมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลทั้งด้านภาษี มาตรฐาน และคุณภาพ ล่าสุดได้มีการตรวจสอบสุราชุมชนในจังหวัดสงขลา จำนวนกว่า 130 ตัวอย่าง ด้วยรถแล็บเคลื่อนที่ ไม่พบสิ่งปนเปื้อน และมีเพียงความคลาดเคลื่อนของดีกรีเพียงเล็กน้อย พร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้ผลิตในการพัฒนามาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ รัฐบาลยังมีแนวทางผลักดันสุราชุมชนให้เป็นหนึ่งใน Soft Power ของไทย โดยการสร้างเรื่องราว (Storytelling) จากวัตถุดิบและแหล่งผลิตในท้องถิ่น อาทิ น้ำตาลโตนดที่มีเอกลักษณ์ของสงขลา เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างภาพลักษณ์ในตลาดโลก เช่นเดียวกับกรณีศึกษาของญี่ปุ่นที่ใช้ภูมิภาคและแหล่งน้ำในการเล่าเรื่องเบียร์พื้นถิ่น
สำหรับสุราตาคียะ ปัจจุบันมีราคาจำหน่ายขวดใหญ่ 650 บาท และขวดเล็ก 300 บาท แม้จะสูงกว่าสุราพื้นบ้านทั่วไป แต่เป็นราคาที่แสดงถึงคุณภาพวัตถุดิบ กระบวนการผลิตที่สะอาดได้มาตรฐาน และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง ส่งผลให้สุราตาคียะเป็นสินค้าพื้นบ้านที่สามารถยกระดับสู่ตลาดพรีเมียม ช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดสงขลา รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับประเทศและสากล