อันดับโลกห่าง 48 ขั้น ถ้าไทยประมาทระวังผ้าป่าคว่ำ?
อย่าเพิ่งตัดสินแค่ "อันดับโลก" เพราะนี่คือทีมชาติฟิจิในร่างใหม่?
หลายคนอาจมองว่า การที่ ทีมชาติไทย อันดับโลกสูงกว่า ฟิจิ ถึง 48 อันดับ (ไทยอันดับ 102, ฟิจิอันดับ 150) ทำให้ศึกฟุตบอลคิงส์คัพครั้งนี้เป็นงานง่ายเหมือน "งานแจกแต้ม"
แต่ถ้าแฟนบอลคิดแบบนั้น อยากบอกว่าคุณกำลังพลาดสิ่งสำคัญไปอย่างสิ้นเชิง เพราะนี่ไม่ใช่ ทีมชาติฟิจิ ที่คุณเคยรู้จักเลยครับ
ฟิจิ กำลังอยู่ระหว่างการ "ผ่าตัดทีมครั้งใหญ่" เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ในปี 2030 โดยพวกเขาไม่ได้มองแค่ผลการแข่งขันในปัจจุบัน แต่กำลังสร้างอนาคตด้วยการดึงผู้เล่นดาวรุ่งฝีเท้าดีเข้าสู่ทีมมากมาย
โดยเฉพาะนักเตะอายุต่ำกว่า 20 ปีถึง 6 คน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาเพื่อเรียนรู้และพัฒนาอย่างจริงจัง
อย่าลืมว่า ฟิจิ ไม่ใช่ทีมที่ไร้ประสบการณ์ พวกเขาเคยสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปโอเชียเนีย (OFC Nations Cup) มาแล้วถึง 2 ครั้งในปี 1998 และ 2008 แม้จะยังไม่เคยไปบอลโลกรอบสุดท้าย แต่การพัฒนาของพวกเขา ก้าวกระโดดอย่างน่าจับตาจริงๆ ครับ
หัวใจสำคัญในทีมชุดนี้คือ เวเลนี ราโซเรวา ดาวรุ่งวัยเพียง 17 ปี ที่เคยสร้างชื่อด้วยการพาฟิจิผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี มาแล้ว ถือเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่กำลังสุกงอมในทีมชุดนี้พอดี ที่สำคัญหมอนี่เต็มไปด้วยศักยภาพ ที่จะสร้างปัญหาให้กับแนวรับของไทยได้อย่างแน่นอน
ความพร้อมของ "ช้างศึก" ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่ต้องไม่ประมาท ในฐานะเจ้าบ้านนักเตะไทยชุดนี้ ก็มาพร้อมกับขุมกำลังที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นำทัพโดยแข้งต่างแดนที่พร้อมจะกลับมาเติมเต็มความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กขวาจากทีมในบุนเดสลีกา 2 เยอรมนี รวมถึงสองแนวรุกจากเจลีก 2 ญี่ปุ่น อย่าง สุภโชค สารชาติ และ ปรเมศย์ อาจวิไล ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ยิง 1 จ่าย 1 ในเกมอุ่นเครื่อง
นอกจากนี้ยังมีบรรดาตัวท็อปอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่จะทำให้แนวรุกของเราอันตรายยิ่งขึ้นไปอีก
ทว่า … ถึงจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งแค่ไหน ฟุตบอลก็ยังคงเป็นกีฬาที่พร้อมจะเกิด "อุบัติเหตุ" ได้เสมอ
ดั่งเช่นที่เคยเห็นมาล่าสุด ทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยังพลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับทีมจากลีกระดับล่าง (ลีกทู-ดิวิชัน 4) ในบอลถ้วย หรือทีมชาติระดับโลก สะดุดแพ้คู่แข่งที่อันดับต่ำกว่าในรอบคัดเลือก?
นี่คือสัจธรรมของเกมลูกหนัง ที่ความผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาที อาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
แฟนบอลไทยอย่างเราเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ เพราะนี่คือการเปิดฉากความท้าทายที่แท้จริง อย่าปล่อยให้คำว่า "ง่าย" มาบดบังสายตาคุณ!
ต้อมยอมรับเลยครับว่า นี่คือช่วงเวลาที่หัวใจต้องเต้นรัว เพราะในเกมฟุตบอลคิงส์คัพครั้งนี้ ไม่มีคำว่าง่าย ไม่มีคำว่าสบาย มีแต่คำว่า "ความท้าทาย" ที่ต้องเอาชนะด้วยความสามารถล้วน ๆ
4 กันยายนนี้ 2 ทุ่มตรง เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น เสียงเชียร์ในสนามต้องไม่ใช่แค่เสียงก้อง แต่คือเสียงคำรามที่พร้อมจะปลุกวิญญาณนักสู้ของ "ช้างศึก" ให้ลุกโชน เพราะนี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพื่อชัยชนะ แต่คือการยืนยันศักดิ์ศรีของชาติไทยบนสนามที่เราเป็นเจ้าของ
ถึงเวลาแล้วที่ต้องแสดงให้ทุกคนเห็นว่า … เราคือแชมป์ ไม่ใช่ผู้ทวงคืน!
แต่ถ้าพลาดถึงขั้นปราชัย งานนี้ก็คงต้องตัวใครตัวมันครับ
-กอล์ฟเบนเทเก้-