โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตลท.-ก.ล.ต.หนุน บจ.เปิดเผยข้อมูล ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 28 สิงหาคม 2568 เวลา 21.17 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

กรุงเทพฯ 28 ส.ค.- หน่วยงานตลาดทุนไทยประสานร่วมมือ ปฏิรูปตลาดทุน กระตุ้น บจ.เปิดเผยข้อมูล เทียบเท่านานาประเทศ หวังดึงดูดนักลงทุนนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มประสิทธิภาพบังคับใช้กฎหมาย

วงเสวนา “Reforming the Market: Capital Markets at an Inflection Point” ปฏิรูปตลาดทุน: จุดเปลี่ยนสำคัญสู่ตลาดทุนยุคใหม่” ภายในงาน Thailand Focus 2025: Beyond the Challenges จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า การที่เราจะมีเงินทุนไหลเข้ามาจากต่างประเทศได้ เราต้องมี supply หรือผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่จะดึงดูดเงินทุนให้ไหลเข้ามา หลังจากนั้นสภาพคล่องก็จะตามมา โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯ มีโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทจดทะเบียน และกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนสื่อสารกับนักลงทุนมากขึ้น ภายใต้โครงการ JUMP+

ในระยะกลางและระยะยาว ต้องการผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่อยู่ในเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งการสื่อสารหรือนำเสนอข้อมูลใหม่ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างศึกษาว่าแพลตฟอร์มที่มีอยู่ในปัจจุบันดึงดูดเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง รวมทั้งการสนับสนุนสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี นอกจากนี้ก็ยังมีแนวคิดร่วมกับ ก.ล.ต. ที่จะเปลี่ยนเงินออมให้เป็นเงินลงทุนมากขึ้น โดยดูตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้หลากหลายมากขึ้นยิ่ง รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นตลาดการลงทุนให้คึกคักมากยิ่งขึ้น

ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่าที่ผ่านมา ก.ล.ต. แก้ไขกฎระเบียบด้านต่าง ๆ มุ่งทำให้เกิดการปรับตัวที่จะทำให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีคุณภาพที่เท่าเทียมกัน รวมทั้งกระตุ้นให้ บจ.มีแผนสร้างมูลค่าเพิ่ม ธรรมาภิบาล เปิดข้อมูลและสื่อสารให้กับนักลงทุนมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่เพียงครั้งหนึ่งต่อปีเท่านั้น แต่อาจเป็นรอบไตรมาส ในอนาคตก็จะทำให้การเปิดเผยข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับต่างประเทศ ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น รวมถึง จะร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงการทำ IPO process ให้กระชับมากขึ้น รวมทั้งให้โน้มไปในทางที่จะเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสมากขึ้น

สำหรับ Integrity of Market นั้น ก.ล.ต. ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะความรวดเร็วของการทำคดี แต่จะเน้นเรื่องระบบการ warning ที่จะนำเอาเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้อย่างเช่น ดิจิทัลและเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ให้มากขึ้น

ในอนาคต จะพยายามแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สำนักงาน ก.ล.ต. มีอำนาจมากขึ้น จัดการกับผู้กระทำผิดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่าง gate keeper เช่นบริษัทบัญชีต่าง ๆ นอกจากเรื่องการบังคับใช้กฎหมายแล้วก็ยังมีการกระตุ้นให้ตลาดก้าวไปข้างหน้า และคงความสามารถการแข่งขัน รวมถึงความเชื่อมั่นใน trade mechanism

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) มองว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทยคือ 1. บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ไทยอาจน่าสนใจน้อยกว่าบริษัทในตลาดคู่แข่ง แต่ก็ยังมีบริษัทที่น่าลงทุนอยู่บ้าง และ2. ปัญหาบรรษัทภิบาลบริษัทจดทะเบียน (Corporate Governance) หลายปีที่ผ่านมาได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน การฟื้นกองทุนวายุภักษ์ทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น นักลงทุนตอบรับดี

พร้อมเรียกร้องให้มีการออกกองทุนระยะยาวมากขึ้น โดยนักลงทุนสถาบันเสนอขยายการออมเพื่อเกษียณอายุ คือ ให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ (Mandatory Provident Fund) เนื่องจากแรงงาน 22 ล้านคน มีเพียง 3 ล้านคนเท่านั้นที่มีการออมภายใต้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคสมัครใจ หากมีกองทุนภาคบังคับดังกล่าว สภาพคล่องก็จะไหลเข้าตลาดทุนอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ไทยสามารถเรียนรู้จากผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนของญี่ปุ่น “บัญชีการออมส่วนบุคคล” (Japan Individual Savings Account :NISA) ที่ให้ลงทุนรายย่อยลงทุนได้หลากหลายทั้งในกองทุนรวมและซื้อหุ้นรายตัว รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเสริมนักลงทุนรายย่อยให้ลงทุนในระยะยาวโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนใน NISA ด้วย

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าว่า ปัจจุบันแบ่งการลงทุนออกเป็นสองแบบหลัก คือ 40% ลงทุนในสินทรัพย์เติบโต (Growth Asset) และ 60% ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงตราสารหนี้ (Fixed Asset) โดยจะขยายการลงทุนในสินทรัพย์ Growth Asset ไปสู่ระดับ 50% หรือ 60% ทั้งนี้ กบข. ยังมีการลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด (Private Equity Fund) ส่วนหนึ่งเพื่อส่งเสริมให้บริษัทเอสเอ็มอีของไทยสามารถเติบโตจนเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในอนาคต พร้อมส่งเสริมให้สมาชิกซึ่งมีอยู่ 1.2 ล้านราย ลงทุนมากกว่าที่กฎหมายบังคับไว้ขั้นต่ำที่ 3% ของเงินเดือน โดยสามารถออมได้ถึงระดับ 27% ของรายได้ ซึ่งที่ผ่านมาเห็นการออมเพิ่มขึ้นของสมาชิก ส่วนหนึ่งจากการเกิดขึ้นของกองทุนรวมวายุภักษ์.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

“มาริษ” เชื่อมั่น “แพทองธาร” ได้ไปต่อ กรณีคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน”

53 นาทีที่แล้ว

เสนา จับมือพันธมิตร เดินหน้าแคมเปญ “อยู่ก่อน กู้ทีหลัง”

56 นาทีที่แล้ว

โฆษก กต. วอนมวลชนบ้านหนองจาน เลี่ยงการเผชิญหน้า

57 นาทีที่แล้ว

“มาริษ” คุย ICRC ยื่นหลักฐานกัมพูชาใช้โล่มนุษย์-วางทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำ

59 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

ศึกชิง "กรีนแลนด์" ! สหรัฐฯ VS เดนมาร์ก | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

ทวงคืน "บ้านหนองจาน" หนุนสร้างกำเเพงถาวร | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

ครูใจสลาย! เด็กชายวัย 13 ถูกจับส่งกลับกัมพูชา | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

เดือด! “รองต่อ สันธนะ” ยื่นคัดค้านแต่งตั้งยศ พล.ต.ท. กลางที่ทำการ ตร.

BRIGHTTV.CO.TH

อ.ปริญญา ชี้จับเด็ก 13 ส่งกลับกัมพูชาผิดสิทธิเด็ก

สำนักข่าวไทย Online
วิดีโอ

"แม่ทัพกุ้ง" ลั่นพบเขมรลอบวางระเบิด "ยิงได้ทันที" | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

ทบ.แฉหลักฐานมัด! กัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ในเขตไทย | ยุคล ชนข่าว | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

สาวกัมพูชาใจไทย เปิดโปง "กำนันลี" ตัวการฮุบที่ดินชายแดน | ยุคล ชนข่าว | NationTV22

NATIONTV

ข่าวและบทความยอดนิยม

เริ่มแล้วงานใหญ่ Thailand Focus 2025 ปลุกความความเชื่อมั่นตลาดทุน

สำนักข่าวไทย Online

ก.ล.ต.ส่งอัยการฟ้องแพ่ง 3 ราย ปมปั่นหุ้น READY เรียกค่าปรับ 279 ล้าน

สำนักข่าวไทย Online

ก.ล.ต. ส่งอัยการฟ้องแพ่ง 13 ราย ปมปั่นหุ้น MAX, EIC, NEWS, และ NEWS-W5

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...