ถอดสลัก Empathy: เมื่อความเห็นใจกลายเป็นอาวุธ และเกราะป้องกันเหยื่อ l “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 28 สิงหาคม 2568 เวลา 21.38 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท“ทุกคนมีโอกาสถูกหลอก ไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพใดก็ตาม แม้กระทั่งผู้ที่มีการศึกษาสูง หรือผู้ที่งานยุ่งและเครียด”
Empathy หรือ “ความเห็นอกเห็นใจ” คือทักษะสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจผู้อื่นและสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น แต่ในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยกับดัก คุณสมบัติที่สวยงามนี้กลับถูกมิจฉาชีพนำมาใช้เป็น “อาวุธลับ” ที่ทรงพลังที่สุดในการหลอกลวงผู้คน ในขณะเดียวกัน Empathy ก็คือสิ่งจำเป็นที่สังคมต้องมีเพื่อโอบอุ้มและเยียวยาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากภัยเหล่านี้
Empathy : อาวุธลับที่ใช้แฮกใจคน
มิจฉาชีพในยุคนี้ไม่ได้มาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่พวกเขาใช้ Empathy เพื่อศึกษาและเข้าถึงเหยื่ออย่างลึกซึ้ง ทำให้เหยื่อรู้สึก “คลิก” หรือ “รู้ใจ” จนยอมลดการป้องกันตัวเองลง กลวิธีที่พวกเขาใช้มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
- ศึกษาข้อมูลส่วนตัว
มิจฉาชีพจะศึกษาความรู้สึกนึกคิดและความชอบของเราจากสิ่งที่โพสต์บนโลกออนไลน์ ทำให้พวกเขารู้ว่าเราชอบอะไร กำลังกังวลเรื่องไหน หรือมีช่องว่างทางอารมณ์ใดที่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ - เข้าหาในยามอ่อนแอ พวกเขามักจะปรากฏตัวในเวลาที่เรากำลังมีปัญหา เช่น เข้าหาผู้สูงอายุที่กังวลเรื่องเงินบำนาญ หรือเข้ามาเป็นเพื่อนคุยกับคนที่กำลังเหงา (Romance Scam) โดยสวมบทบาทเป็นผู้ที่เข้าใจและพร้อมจะเยียวยาจิตใจ
- ใช้ความ “ตรงใจ” เป็นเหยื่อล่อ
เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่ามีใครบางคนบนโลกออนไลน์ที่ “ถูกใจ” หรือ “ดีอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน” ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน เพราะนั่นอาจเป็น “เหยื่อล่อ” ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นจากการศึกษาตัวตนของคุณมาเป็นอย่างดี เพื่อทำให้คุณประทับใจและเปิดใจรับพวกเขาเข้ามา
หยุดซ้ำเติมเหยื่อ: เมื่อ Empathy คือสิ่งที่สังคมต้องการ
ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อมีคนใกล้ตัวตกเป็นเหยื่อภัยไซเบอร์ สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือ Empathy จากคนรอบข้าง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเหยื่อนั้นรุนแรงกว่าแค่การสูญเสียเงิน แต่ยังรวมถึงผลกระทบทางจิตใจที่แสนสาหัส เช่น ความสูญเสียความนับถือในตัวเอง ความอับอายจนไม่กล้าบอกใคร ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สังคมมักมีการ “ซ้ำเติมเหยื่อ” (Victim Blaming) ด้วยคำพูดที่ว่า “ทำไมโง่จัง” หรือ “ทำไมไม่ระวัง” คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยอะไร แต่ยังเป็นการตอกย้ำความรู้สึกผิดและทำร้ายจิตใจของเหยื่อซ้ำสอง
สิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจและจำให้ขึ้นใจคือ “ทุกคนมีโอกาสถูกหลอกได้เสมอ” ไม่ว่าจะมีการศึกษาสูงหรือมีอาชีพการงานที่ดีเพียงใด ด้วยสถิติความเสียหายในประเทศไทยที่สูงถึง 77 ล้านบาทต่อวัน (ข้อมูลเดือนกรกฎาคม 2566) ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่ากลวิธีของมิจฉาชีพนั้นมีประสิทธิภาพสูงและรับมือได้ยากเพียงใด
4 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการสร้าง Empathy
เราทุกคนสามารถฝึกฝนการมี Empathy ต่อคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ ด้วย 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- ตั้งใจฟัง (Listen Carefully) รับฟังเรื่องราวและความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง
- ระวังถ้อยคำ (Be Mindful of Words) คิดก่อนพูดเสมอว่าคำพูดของเราจะส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้ฟังอย่างไร
- เคารพความเห็นต่าง (Respect Different Opinions) แม้จะไม่เห็นด้วย ก็ควรแสดงออกด้วยความเคารพและไม่ตัดสิน
- ตอบอย่างใส่ใจ (Respond with Care) ใช้คำพูดเชิงบวก ให้กำลังใจ และพร้อมให้ความช่วยเหลือ
ท้ายที่สุดแล้ว การตระหนักรู้ว่า Empathy สามารถเป็นได้ทั้งอาวุธที่อันตรายและเกราะป้องกันที่อบอุ่น จะช่วยให้เราระมัดระวังตัวจากกลลวงที่ใช้ความรู้สึกมาเป็นเครื่องมือ และในขณะเดียวกัน ก็พร้อมที่จะหยิบยื่นความเข้าอกเข้าใจเพื่อช่วยเหลือและสร้างสังคมที่แข็งแรงพอจะต่อสู้กับภัยไซเบอร์ไปด้วยกัน
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความชุด “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ทาง Facebook เพจ “ชัวร์ก่อนแชร์”
หรือเพจ“นักสืบสายชัวร์ ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร”
28 สิงหาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ทีมข่าวไซเบอร์ กฤษณา กาญจนเพ็ญ