ทรัมป์ไม่หวั่นจีนแย่งบทบาทผู้นำโลก

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเกี่ยวกับการจัดขบวนพาเหรดทางทหารที่ยิ่งใหญ่ของจีนในกรุงปักกิ่ง ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว และมีผู้นำจากหลายชาติทั่วโลกมาร่วมชมขบวนพาเหรดด้วย รวมทั้ง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และ คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ทำให้มีคำถามว่าสหรัฐฯ กำลังถูกจีนแย่งบทบาทของการเป็นผู้นำโลกหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ ทรัมป์บอกว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะตัวเขากับสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และจีนก็ต้องการสหรัฐฯ มากกว่าสหรัฐฯ ต้องการจีน

ผู้สื่อข่าวของ BBC ถามทรัมป์ว่าคิดว่าทางจีนกำลังรวบรวมชาติพันธมิตรให้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อต่อต้านสหรัฐฯ หรือไม่ ซึ่งทรัมป์ตอบกลับไปว่า ไม่คิดแบบนั้นเลย เพราะจีนต้องการสหรัฐฯ และเขาไม่คิดเลยว่าจีนกำลังพยายามทำแบบนั้นอยู่

ในส่วนของการจัดขบวนพาเหรดางทหารของกองทัพจีน ที่จะมีการนำอาวุธทันสมัยหลายอย่างของจีนออกมาจัดแสดงให้ได้เห็นในวันนี้ ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุเมื่อวานนี้ บอกว่าเขาไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะยังไง อเมริกาก็เป็นประเทศที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และจีนไม่มีทางใช้กำลังทหารกับสหรัฐฯ แน่นอน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศหลายคนมองว่าจีนพยายามดันตัวเองขึ้นมามีบทบาทการเป็นผู้นำโลกมากขึ้น นับตั้งแต่ที่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง และมีนโยบายเรื่องการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งนโยบายเรื่องการปกป้องผลประโบชน์ของสหรัฐฯ เป็นอันดับแรก โดยไม่สนใจผลประโยชน์ของประเทศอื่น ขณะที่ทางจีนย้ำจุดยืนเรื่องนโยบายการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนอยู่เสมอว่าทุกประเทศจะต้องได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่มีใครได้ผลประโยชน์แค่ฝ่ายเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ทรัมป์อ้างอินเดียเสนอลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ แต่ทรัมป์กล่าว "สายไปแล้ว"
• ทรัมป์เตรียมออกคำสั่ง ให้ใช้เลขบัตรประชาชนบนบัตรเลือกตั้ง
• ทรัมป์สั่งหน่วยสืบราชการลับยกเลิกคุ้มครอง "คามาลา แฮร์ริส" ก่อนกำหนด
• ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ตัดสินภาษีทรัมป์ "ผิดกฎหมาย" ระบุชัดไม่ใช่อำนาจประธานาธิบดี
• สหรัฐฯ สั่งห้ามผู้นำปาเลสไตน์ร่วมประชุม UNGA ที่นครนิวยอร์ก