เปิดข้อหา เจ้าอาวาสวัดม่วง ส่อรู้เห็น ไวยาวัจกร คลิปนั่งนับธนบัตรมัดตัว
เปิดข้อหา เจ้าอาวาสวัดม่วง รวมหัวไวยาวัจกร แจ้งความเท็จ กุเรื่องทองคำ 250 บาท เงินอีก 10 ล้านบาท ส่อเค้าตาลปัตรหนัก
คดีนี้เริ่มจากนายศักดา ไวยาวัจกรวัดม่วง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เมื่อ 29 มิ.ย.68 กรณีถูกร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง เพชรเกษม บางแค กทม. และทรัพย์สินสูญหาย อาทิ เงินสด 10 ล้านบาท ทองคำแท่งหนัก 50 บาท รวม 5 แท่ง รวมน้ำหนัก 250 บาท มูลค่าประมาณกว่า 12 ล้านบาท รวมทรัพย์สิน 2 รายการ มูลค่ากว่า 22 ล้านบาท ได้หายไป
ต่อมาหลังจากฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม ประสานกองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่จุดเกิดเหตุภายในกุฏิ เก็บพยานหลักฐาน โดยมีเจ้าอาวาสวัดม่วงชี้จุดที่เก็บเงินสดและทองคำ
จากนั้น วันที่ 2 ก.ค. วันที่ 15 ก.ค. และวันที่ 4 ส.ค.ได้สอบปากคำเจ้าอาวาสวัดม่วงในฐานะผู้กล่าวหา
กระทั่งพบว่าคำให้การของเจ้าอาวาสวัดม่วงมีการปกปิด ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานไว้ได้ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เม.ย.68 เจ้าอาวาสวัดม่วง และ ไวยาวัจกร ได้นำทองคำหนัก 170 บาทไปขายที่ร้านทองย่านเยาวราช
โดยไวยาวัจกรเป็นผู้ทำธุรกรรมแทนเจ้าอาวาส แบ่งเป็นทองคำของเจ้าอาวาสหนัก 120 บาท (ทองแท่งหนัก 50 บาท 2 แท่ง และทองหนัก 20 บาท 1 แท่ง) ซึ่งทางเจ้าอาวาสวัดม่วง ยังไม่เคยให้การในประเด็นนี้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่เคยแจ้งความไว้ในคดีนี้ครั้งแรกว่า เงินสดและทองคำดังกล่าวที่อ้างว่าหายไปนั้นจะเก็บไว้เพื่อใช้จ่ายการก่อสร้างและกิจกรรมภายในวัด หรือซื้อทองคำแท่งมาเพื่อเก็งกำไรไว้นำไปใช้จ่ายในวัด
ชุดสืบสวนยังได้พบข้อมูลจากโทรศัพท์ของไวยาวัจกรมีภาพการขายทองคำแท่งหนัก 170 บาท
หลักฐาน “เช็คเงินสด” ของธนาคารแห่งหนึ่งของร้านทอง ย่านเยาวราช สั่งจ่ายไวยาวัจกรและภาพถ่ายวิดีโอจากมือถือไวยาวัจกรได้มีการนำเงินสดที่ถอนจากธนาคารจำนวนกว่า 5.2 ล้านบาท ใส่กระเป๋าเดินทางส่งให้กับเจ้าอาวาสวัดม่วง และภาพคลิปวิดีโอขณะเจ้าอาวาสวัดม่วงนั่งนับเงินสดปรากฏต่อมาตามลำดับ
หลังจากพบมีหลักฐานดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้ไวยาวัจกรไปสอบปากคำ แต่ไวยาวัจกรก็ยังยืนยันว่าไม่ได้นำทองคำที่แจ้งหายดังกล่าวไปขาย จึงเข้าข่ายข้อความอันเป็นเท็จ ประกอบกับ ทรัพย์สินที่แจ้งว่าถูกลักทรัพย์นั้นมีจำนวนมาก ซึ่งในที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดบันทึกตลอดเวลาแต่เจ้าอาวาสวัดม่วงกลับนำวัสดุมาปิดหน้ากล้องอันเป็นการผิดวิสัยของวิญญูชน
พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจเพชรเกษม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ได้เดินทางมารับทราบข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ร่วมกับไวยาวัจกรวัด เข้าแจ้งความว่ามีทรัพย์สิน เป็นทองคำแท่งน้ำหนัก 250 บาท และเงินสด 10 ล้านฯ หายไปจากกุฏิ ซึ่งตรวจสอบข้อเท็จจริงพนง.สอบสวนยืนยันแล้วว่าไม่ตรงกันกับที่ทั้งคู่เคยแจ้งความไว้
อย่างไรก็ดีเจ้าอาวาสวัดม่วงให้การปฏิเสธในข้อหาดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้สอบปากคำ พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อประกอบสำนวน ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายให้มาสอบปากคำเพิ่มเติมภายหลัง
ขณะที่ นายศักดา ซึ่งเป็นอดีตไวยาวัจกรวัด และเป็นผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน ได้แจ้งมายังพนักงานสอบสวนว่าจะเดินทางเข้าพบตำรวจในสัปดาห์หน้า
อัปเดตล่าสุด ไวยาวัจกร มีกำหนดจะเข้าพบกับตำรวจในวันจันทร์นี้ (25 ส.ค.)เพื่อให้ปากคำ.
อ่านข่าวเพิ่มเติม