รองนายกฯ ประเสริฐ หารือ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เมียนมา มุ่งยกระดับความร่วมมือ ไทย–เมียนมา จัดตั้งคณะทำงานวิชาการร่วม แก้ปัญหาคุณภาพน้ำอย่างยั่งยืน
รองนายกฯ ประเสริฐ หารือ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เมียนมา มุ่งยกระดับความร่วมมือ ไทย–เมียนมา จัดตั้งคณะทำงานวิชาการร่วม แก้ปัญหาคุณภาพน้ำอย่างยั่งยืน
(วันที่ 20 สิงหาคม 2568) ณ โรงแรม Jasmine Nay Pyi Taw กรุงเนปยีดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบหารือกับ H.E. Mr. Khin Maung Yi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมียนมา (Ministry of Natural Resources and Environmental Conservation: MONREC) พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากหน่วยงานไทย ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานเมียนมา ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมียนมา กระทรวงสาธารณสุขเมียนมา และรัฐบาลรัฐฉาน (Shan State Government) โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวขอบคุณเมียนมาสำหรับการต้อนรับและโอกาสในการหารือครั้งนี้ โดยย้ำว่าประเด็นคุณภาพน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่ไทยให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาไทยได้ดำเนินการทั้งภายในประเทศด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขและการดักจับตะกอน รวมทั้งในระดับระหว่างประเทศ ที่ได้หารือกับฝ่ายเมียนมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา และผลักดันความร่วมมือผ่านคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC) การหารือครั้งนี้ จึงเป็นการต่อยอดความร่วมมือบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนทั้งสองประเทศและตลอดริมแม่น้ำโขง พร้อมย้ำว่าการรักษาคุณภาพน้ำเป็นความท้าทายร่วมกันที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนบนผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้ง ไทยและเมียนมาเคยร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมมาแล้วหลายโครงการ อาทิ การขุดลอกแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกเพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัย
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ เมียนมา กล่าวว่า น้ำเป็นทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เมียนมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และการจัดการคุณภาพน้ำอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลเมียนมาได้จัดตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อติดตามคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักและทะเลสาบสำคัญทั่วประเทศ โดยเมียนมายืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำอย่างยั่งยืน โดยดำเนินการบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ ความโปร่งใส และความร่วมมือ เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงแนวทางการจัดตั้งคณะทำงานวิชาการร่วม (Joint Technical Working Group) เพื่อยกระดับความร่วมมือ และเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันและสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งเปิดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ สร้างความตระหนักรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดการกิจการเหมืองแร่
ในช่วงท้าย รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญต่อการจัดการคุณภาพน้ำอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การหารือครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญและแบบอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน แต่ยังสะท้อนถึงมิตรภาพ ความไว้วางใจ และความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม