กลุ่มบริษัทเอไอเอ โชว์ผลงาน ครึ่งปีแรก 2568 มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 14%
กลุ่มบริษัทเอไอเอ ประกาศผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2568 มูลค่าธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกินต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และเงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 10
นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้สะท้อนให้เห็นว่ากลยุทธ์ของบริษัทนั้นถูกต้องและเหมาะสมในการคว้าโอกาสมหาศาลในตลาดเอเชีย
โดยผลประกอบการในช่วง 6 เดือน มีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น 14% โดยเติบโตใน 13 จาก 18 ตลาดทั่วเอเชีย กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีต่อหุ้น (OPAT) เพิ่มขึ้น 12% มูลค่าเงินกองทุนส่วนเกินต่อหุ้น (UFSG) เพิ่มขึ้น 10% เงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 10% เป็น 49.00 เซ็นต์ฮ่องกง
สำหรับการเติบโตนี้มีปัจจัยหลักมาจาก"พรีเมียร์ เอเจนซี่" หรือกลุ่มตัวแทนคุณภาพสูงของเอไอเอ ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมูลค่าธุรกิจใหม่จากช่องทางนี้เติบโตสูงถึง 17% ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตัวแทนนำเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการทำงาน นอกจากนี้ ช่องทางพันธมิตรธุรกิจ เช่น การร่วมมือกับธนาคารชั้นนำ ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 8% ในช่วงครึ่งปีแรก
“เอไอเอจะยังคงมุ่งมั่นสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป เนื่องจากตลาดประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชียยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น และคนส่วนใหญ่ยังมีการถือครองประกันที่น้อยอยู่”