Focus หุ้น mai : ปรับลดกำไร JUBILE แนะนำ “ถือ” เป้า 9 บ.
#ทันหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด รายงานกำไร 2Q/68 หดตัว QoQ และหดตัว YoY รายงานกำไร 2Q/68 ที่ 18 ล้านบาท -32%QoQ และ -54%YoY ตามรายได้ 2Q/68 ที่ปรับตัวลง 6%QoQ และลดลง 24%YoY สู่ 272 ล้านบาท จากยอดขาย Same Store Sales ปรับตัวลง 19.7%YoY และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แม้ว่าจะมีการจัดงานครบรอบ 96 ปี และ Mid-Year Sales ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. ตามลำดับ
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงจาก 49.2% สู่ 49.0% เนื่องจากมีการจัดงานใหญ่ 2 งานข้างต้นซึ่งมีการจัดโปรโมชั่นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลง
ทั้งนี้บริษัทรายงานรายได้และกำไร 1H/68 ที่ 563 ล้านบาท และ 44 ล้านบาท หดตัว 24%YoY และหดตัว 81%YoY ตามลำดับ โดยกำไร 1H/68 คิดเป็น 34% ของประมาณการเดิม
** ดีมานด์ลดลง
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตชะลอตัวจากผลกระทบของการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยของสหรัฐ โดยคาดว่าปี 2568 และ 2569 เศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 2.0% ต่อปี (คาด GDP 1H/68 ขยายตัว 3.0% แต่คาด GDP 2H/68 ขยายตัว 2.6%) และ 1.7% ต่อปีตามลำดับ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ความต้องการซื้อเพชร ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยชะลอตัวตามไปด้วย
นอกจากนี้ผลกระทบจากเพชรสังเคราะห์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ปี 2566 มีส่วนแบ่งการตลาด 9.3% เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในปี 2563 เนื่องจากราคาต่ำกว่าเพชรธรรมชาติกว่า 50% แต่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันส่งผลให้ De Beers ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพชรธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกปรับราคาขายเพชรลง 40% ในปี 2566 (ที่มา Gem and Jewelry Institute of Thailand)
ทางฝ่ายปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรปี 2568 จาก 1.32 พันล้านบาท และ 128 ล้านบาท เหลือ 1.2 พันล้านบาท และ 107 ล้านบาท ลดลง 9% และลดลง 16% จากประมาณการเดิม เนื่องจากรายได้ 1H/68 อยู่ที่ 563 ล้านบาท -24%YoY คิดเป็น 47% ของประมาณการ ทั้งนี้เราคาดว่ารายได้ครึ่งปีหลังจะกลับมาเติบโตหลังไทย-สหรัฐ บรรลุข้อตกลงทางการค้า
** ปรับลดรายได้
โดยเราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2568 ขึ้น จาก 47.7% สู่ 48.5% (GPM 1H/68 อยู่ที่ 49%) พร้อมกันนี้เราปรับลดประมาณการรายได้และกำไรปี 2569 ลงจาก 1.38 พันล้านบาท และ 136 ล้านบาท เหลือ 1.29 พันล้านบาท และ 130 ล้านบาท ลดลง 7% และ 4% จากประมาณการเดิมตามลำดับ
ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PER โดยใช้ค่าเฉลี่ย P/E Ratio ย้อนหลัง 1 ปี ได้ค่าเฉลี่ย 12.0 เท่า ทั้งนี้เราปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2569 โดยคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2569 ราว 0.74 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมอยู่ที่ 9.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาเหมาะสมปี 2568 แม้จะมี Upside สูงถึง 24% แต่ผลประกอบการที่ชะลอตัวจากปี ก่อนและยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวทำให้เราคงคำแนะนำ “ถือ”