โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

Security Guarantees บริบทที่แตกต่างในสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” และ “ไทย-กัมพูชา”

เดลินิวส์

อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 21.10 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“เดลินิวส์” จะพาไปทำความรู้จัก Security Guarantees หรือการรับประกันความมั่นคง ในบริบทของสงคราม และเปรียบเทียบบริบทที่แตกต่างระหว่างสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” และการสู้รบระหว่าง “ไทย-กัมพูชา” รวมทั้งผลที่จะตามมาจากการละเมิดข้อตกลง

ในการพบปะหารือกันระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และผู้นำจากอีกหลายประเทศในยุโรป ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ในความพยายามที่จะหาทางยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ได้มีการพูดถึงประเด็นเรื่อง "Security Guarantees" หรือการรับประกันความมั่นคง ในการประชุมบ่อยครั้ง

วันนี้ "เดลินิวส์" จะพาไปทำความรู้จัก "Security Guarantees" หรือการรับประกันความมั่นคง ในบริบทของสงคราม และเปรียบเทียบบริบทที่แตกต่างระหว่างสงคราม"รัสเซีย-ยูเครน" และ สงครามหรือการสู้รบระหว่าง "ไทย-กัมพูชา" รวมทั้งการละเมิดข้อตกลงจะส่งผลในมิติไหน อย่างไรบ้าง

"Security Guarantees" หรือการรับประกันความมั่นคง หมายถึงพันธสัญญาอย่างชัดเจนหรือโดยนัย ที่ประเทศมหาอำนาจภายนอกให้การคุ้มครองและช่วยเหลือประเทศใดประเทศหนึ่งที่อยู่ในสภาวะความขัดแย้งหรือถูกคุกคาม โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อ:

  • ยับยั้งการโจมตี (Deterrence): ทำให้คู่กรณีที่มีศักยภาพในการโจมตีคิดให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือ เพราะรู้ว่าจะมีมหาอำนาจอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
  • สร้างความมั่นใจ (Reassurance): ให้ความเชื่อมั่นแก่ประเทศที่ได้รับประกันว่าหากถูกโจมตี จะได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งช่วยลดความหวาดระแวงและความจำเป็นในการสะสมอาวุธด้วยตนเอง
  • สนับสนุนกระบวนการสันติภาพ: เป็นเครื่องมือสำคัญในการชักจูงให้คู่ขัดแย้งยอมเจรจาหรือปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ เพราะมีความมั่นใจว่าจะไม่ถูกโจมตีซ้ำอีกในอนาคต

การรับประกันความมั่นคงแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

  • Positive Security Guarantees: พันธสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหารหรือการสนับสนุนอื่นๆ ในกรณีที่ถูกโจมตี ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ มาตรา 5 ของสนธิสัญญา NATO ที่ระบุว่าการโจมตีสมาชิกคนใดคนหนึ่ง ถือเป็นการโจมตีสมาชิกทั้งหมด
  • Negative Security Guarantees: พันธสัญญาว่าจะไม่กระทำการบางอย่าง เช่น การไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศที่ไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

Security Guarantees ในบริบทสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ในการประชุมล่าสุดที่ทำเนียบขาว มีประเด็นสำคัญในทุกมิติดังนี้:

1. มิติการเมืองและยุทธศาสตร์

  • ข้อเสนอของสหรัฐและยุโรป: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำยุโรปเสนอว่า สหรัฐและพันธมิตรยุโรป จะให้การรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพ
    • การปฏิเสธการเข้าเป็นสมาชิก NATO: ในการเจรจาครั้งนี้ สหรัฐและพันธมิตรยุโรป ไม่ได้เสนอการรับประกันในรูปแบบเดียวกับมาตรา 5 ของ NATO โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ปฏิเสธแนวคิดนี้อย่างชัดเจน
    • รูปแบบที่กำลังพิจารณา: แทนที่จะเป็น NATO-like guarantee แบบเต็มรูปแบบ มีแนวโน้มว่าการรับประกันนี้จะเป็นไปในลักษณะของ "Coalition of the Willing" หรือกลุ่มประเทศที่ยินดีให้การสนับสนุน ซึ่งอาจรวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางอากาศโดยสหรัฐ และการส่งกองกำลังภาคพื้นดินโดยชาติยุโรป แต่ไม่ใช่ในรูปแบบกองทัพสหรัฐ

2. มิติทางทหาร

  • การสนับสนุนทางอากาศจากสหรัฐ : ทรัมป์ระบุอย่างชัดเจนว่าจะไม่ส่งทหารภาคพื้นดินของสหรัฐ เข้าไปในยูเครน แต่สหรัฐ อาจให้การสนับสนุนทางอากาศ ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญในการป้องกันการโจมตีในอนาคต
    [* **บทบาทของยุโรป :** ผู้นำยุโรปเสนอว่าจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในยูเครนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงภายหลังข้อตกลงสันติภาพ รวมถึงการให้การฝึกอบรมและจัดหาอุปกรณ์ทางทหารเพิ่มเติม เพื่อให้กองทัพยูเครนมีความแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันตนเองได้ , * **การเสริมสร้างศักยภาพของยูเครน :** ประธานาธิบดีเซเลนสกีเองก็เน้นย้ำว่า "การรับประกันความมั่นคงที่แท้จริงคือการมีกองทัพที่แข็งแกร่ง" ดังนั้น การรับประกันนี้ต้องเป็นรูปธรรมและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อให้ยูเครนสามารถปกป้องตนเองจากความก้าวร้าวของรัสเซียในอนาคต ]

3. มิติทางกฎหมาย

  • ความแตกต่างจากมาตรา 5 : การรับประกันความมั่นคงที่จะเกิดขึ้นนี้ จะแตกต่างจากพันธกรณีทางกฎหมายที่มีผลผูกพันอย่างชัดเจนเหมือนมาตรา 5 ของ NATO แต่จะเป็นข้อตกลงทางการเมืองที่อาจมีความยืดหยุ่นมากกว่า
    [    * **การจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษร :** เซเลนสกีต้องการให้มีการจัดทำรายละเอียดของ "Security Guarantees" เหล่านี้เป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 1\-2 สัปดาห์ เพื่อให้มีความชัดเจนและเป็นทางการ ]

4. ข้อกังวลและอุปสรรค

  • ความไม่แน่นอนของคำมั่นสัญญา : แม้จะมีการประกาศ แต่รายละเอียดที่ชัดเจนและพันธกรณีทางกฎหมายยังคงคลุมเครือ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายยังคงกังวลว่าคำสัญญาเหล่านี้ จะมีน้ำหนักมากพอที่จะยับยั้งรัสเซียได้หรือไม่
    [        * **ความต้องการของรัสเซีย :** รัสเซียก็เรียกร้อง "การรับประกันความมั่นคง" ของตนเองเช่นกัน โดยเตือนว่าการที่ NATO ขยายตัวไปทางตะวันออก คือภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซีย การเจรจาจึงต้องคำนึงถึงข้อกังวลของทุกฝ่าย ,         * **ความแตกต่างในมุมมอง :** ในขณะที่ยูเครนต้องการให้การรับประกันนี้เป็นเหมือน "นาโตเวอร์ชันย่อส่วน" ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงเมื่อเกิดการโจมตี แต่รัสเซียกลับปฏิเสธแนวคิดนี้ โดยมองว่าอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่บานปลายมากขึ้น ]

สรุปแล้ว "Security Guarantees" ในบริบทนี้ คือการพยายามสร้างกรอบความมั่นคงใหม่ให้กับยูเครนภายหลังสงคราม โดยมีสหรัฐและพันธมิตรยุโรป เป็นผู้ให้คำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือทางทหารและการสนับสนุนอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียเข้าโจมตียูเครนอีกในอนาคต ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยูเครนต้องยอมรับเมื่อไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิก NATO ได้อย่างเต็มรูปแบบ

Security Guarantees ในบริบทการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา

ในอดีตที่เคยเกิดขึ้น เช่น กรณีพิพาทชายแดนปราสาทเขาพระวิหาร จะมีมิติที่แตกต่างจากกรณีรัสเซีย-ยูเครน อย่างมาก เนื่องจากบริบททางภูมิรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่เหมือนกันเลย หรือแม้แต่การสู้รบในปัจจุบันก็เช่นกัน

ในกรณีไทย-กัมพูชา การรับประกันความมั่นคงในเชิงการสู้รบสามารถพิจารณาได้จากหลายมิติ ดังนี้ :

1. บทบาทขององค์กรระหว่างประเทศ

ในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา องค์กรระหว่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญคือ สหประชาชาติ (UN) และ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

  • สหประชาชาติ : ทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งหยุดยิงและเจรจา โดยเฉพาะผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีอำนาจในการออกมติและส่งผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่พิพาท
    [            * **อาเซียน :** มีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในฐานะ "คนกลาง" หรือ "คนในครอบครัว" \(ASEAN Family\) เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งบานปลาย โดยใช้หลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน และการเจรจาอย่างสันติ ซึ่งเป็นรูปแบบการรับประกันความมั่นคงที่มุ่งเน้นการสร้างสันติภาพในภูมิภาคมากกว่าการใช้กำลังทหาร ]

2. มหาอำนาจภายนอก

ในอดีต จีน และ สหรัฐอเมริกา มีบทบาทที่ซับซ้อนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีนโยบายที่แตกต่างกันไป

  • จีน : มักมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกัมพูชา โดยให้การสนับสนุนทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจตีความได้ว่าเป็นการให้ "การรับประกันความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์" ทางอ้อม เพื่อเป็นพันธมิตรในภูมิภาค ในทางกลับกัน จีนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยเช่นกัน ทำให้บทบาทของจีนมีความละเอียดอ่อน
    [                * **สหรัฐอเมริกา :** ในฐานะมหาอำนาจที่มีนโยบาย **"Pivot to Asia"** สหรัฐมีสนธิสัญญาพันธมิตรทางทหารกับประเทศไทย ซึ่งเป็น **"การรับประกันความมั่นคงเชิงบวก"** ที่ชัดเจน แต่ในกรณีพิพาทระหว่างไทย\-กัมพูชา บทบาทของสหรัฐ จะมุ่งเน้นไปที่การลดความตึงเครียดและสนับสนุนการเจรจามากกว่าการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเปิดเผย ]

3. การรับประกันความมั่นคงในเชิงการทหาร

  • ไทย : มีพันธมิตรทางทหารที่สำคัญคือสหรัฐ ผ่านสนธิสัญญา SEATO (South-East Asia Treaty Organization) ในอดีต และการฝึกซ้อมร่วม Cobra Gold ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงพันธสัญญาในการช่วยเหลือด้านการทหารในกรณีที่ถูกคุกคามจากภายนอก
    [                    * **กัมพูชา :** ได้รับการสนับสนุนทางทหารและยุทโธปกรณ์จากจีนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางทหารของกองทัพกัมพูชา ]

4. การรับประกันความมั่นคงในรูปแบบข้อตกลงทวิภาคี

การแก้ปัญหาชายแดนส่วนใหญ่ใช้กลไกการเจรจาแบบ ทวิภาคี (Bilateral) ระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยตรง ซึ่งถือเป็น "การรับประกันความมั่นคงเชิงสันติ" ที่เน้นการยุติความขัดแย้งผ่านการเจรจาทางการทูต และการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต

สรุปได้ว่า ในบริบทไทย-กัมพูชา การรับประกันความมั่นคงไม่ได้หมายถึงการที่มหาอำนาจจะเข้ามาทำสงครามแทนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหมือนในกรณีรัสเซีย-ยูเครน แต่เป็นการใช้กลไกทางการทูต การไกล่เกลี่ยของอาเซียน และการสนับสนุนทางยุทธศาสตร์จากมหาอำนาจภายนอก เพื่อให้ความขัดแย้งยุติลงและสามารถเจรจาแก้ไขปัญหาได้อย่างสันติ

แล้วถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตก จะเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลง หรือ "Security Guarantees" ที่ได้ทำไว้ ผลที่ตามมาจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และกรณีไทย-กัมพูชา เนื่องจากบริบทและลักษณะของข้อตกลงไม่เหมือนกัน

1. กรณีรัสเซีย-ยูเครน

หากรัสเซียเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงและโจมตียูเครนอีกครั้ง จะเกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและรุนแรงในหลายมิติ :

  • มิติทางทหาร:

  • การใช้กำลัง : สหรัฐและพันธมิตรยุโรป จะสามารถใช้กำลังทางทหารเพื่อช่วยเหลือยูเครนได้ทันที ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อตกลง ซึ่งอาจหมายถึงการโจมตีทางอากาศเพื่อทำลายกำลังรุกรานของรัสเซีย หรือการส่งกองกำลังภาคพื้นดินของยุโรปเข้าไปช่วยปกป้องยูเครน

    [                            * **การจัดหาอาวุธ :** การจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะถูกเร่งด่วนมากขึ้น เพื่อให้ยูเครนสามารถป้องกันตัวเองได้ ,                             * **ความเสี่ยงที่สงครามจะบานปลาย :** การใช้กำลังของชาติ NATO \(สหรัฐและยุโรป\) กับรัสเซียโดยตรง อาจนำไปสู่สงครามที่ขยายวงกว้างและอาจมีความเสี่ยงในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ทุกฝ่ายต้องการหลีกเลี่ยง ,                             * **มิติทางการเมือง:** ]
  • ความน่าเชื่อถือ : ความน่าเชื่อถือของรัสเซียในเวทีระหว่างประเทศจะลดลงอย่างมาก และอาจถูกพิจารณาว่าเป็นประเทศที่ไร้พันธะสัญญาและไม่สามารถเจรจาด้วยได้อีก

    [                                * **การคว่ำบาตร :** การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหม่และรุนแรงกว่าเดิมจะถูกนำมาใช้ทันที เพื่อบีบให้รัสเซียยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงการตัดระบบการเงิน การห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซ และมาตรการอื่นๆ ที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซียอย่างสาหัส ,                                 * **มิติทางกฎหมาย:** ]
  • การขึ้นศาล : อาจมีการพิจารณาดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในข้อหาอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

2. กรณีไทย-กัมพูชา

หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงที่เคยทำไว้ (เช่น ข้อตกลงหยุดยิงหรือการถอนกำลังทหาร) ผลที่ตามมาจะแตกต่างกันมากเนื่องจากมีกลไกการจัดการที่เน้นการทูตและองค์กรระดับภูมิภาค :

  • มิติทางการทูต:

  • อาเซียนเข้ามาไกล่เกลี่ย : ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ โดยเฉพาะอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนในขณะนั้น จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยอย่างเร่งด่วน เพื่อเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา

    [                                            * **การประชุมฉุกเฉิน :** จะมีการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศหรือผู้นำอาเซียนเป็นการเร่งด่วน เพื่อหาทางออกร่วมกัน ,                                             * **การประณาม :** แม้จะไม่มีการคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการ แต่ประเทศสมาชิกอาเซียนและนานาชาติอาจออกแถลงการณ์ประณามการกระทำดังกล่าว ,                                             * **มิติทางทหาร:** ]
  • การส่งผู้สังเกตการณ์ : องค์กรต่างๆ เช่น สหประชาชาติ หรืออาเซียน อาจส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่พิพาท เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานสถานการณ์ต่อประชาคมโลก ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดและป้องกันการปะทะที่ขยายวงกว้าง

    [                                                * **การใช้กำลัง:** เป็นไปได้น้อยมากที่มหาอำนาจภายนอกอย่างสหรัฐหรือจีน จะส่งกำลังทหารเข้ามาทำสงครามแทนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากนโยบายของพวกเขาในภูมิภาคนี้เน้นการรักษาเสถียรภาพมากกว่าการเข้าแทรกแซงด้วยกำลังทหารโดยตรง ,                                                 * **มิติทางกฎหมาย:** ]
  • การขึ้นศาลโลก : ในกรณีพิพาทที่เกี่ยวข้องกับเขตแดน ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) จะเข้ามามีบทบาทในการวินิจฉัยและตัดสินข้อพิพาท ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับคำตัดสินของศาล

สรุปแล้ว การละเมิดข้อตกลงในแต่ละบริบทจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในกรณีของรัสเซีย-ยูเครน มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงกับมหาอำนาจโลก และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ในขณะที่กรณีของไทย-กัมพูชา ผลที่ตามมาจะเป็นการใช้กลไกทางการทูตและองค์กรระดับภูมิภาคในการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลายไปสู่สงครามขนาดใหญ่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

“ธนกฤต” เข้าพบพูดคุย “หลวงพ่ออลงกต” เผยหลวงพ่ออยากช่วยประชาชนต่อ

16 นาทีที่แล้ว

‘เป๊ก สัณชัย’ ฟาดกลับคนกุข่าว ‘น้องลียา’ ท้อง 3 เดือน ชี้ทำกับผู้ใหญ่ยังพอทน ทำกับเด็กเกินไป!

21 นาทีที่แล้ว

‘ไทย–เมียนมา’ ตั้งทีมร่วมแก้ปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก-สาย

21 นาทีที่แล้ว

ชี้คลิปทหารกัมพูชาลอบฝังทุ่นระเบิด เป็นหลักฐานชั้นดีใช้ฟ้องรัฐภาคีออตตาวา

28 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘Prince of Eurasia’ สารคดีโลกวัฒนธรรมยูเรเซียของนักบวชอิสลาม “ท่านอิสลามมีร์ซา”

สยามรัฐ

ชวนตั้งชื่อลูกคาปิบารา ลุ้นรับตุ๊กตา “กะปิปลาร้า”

สำนักข่าวไทย Online

DSI–ปปง.บุกยึดทรัพย์ละเมิดลิขสิทธิ์บอลพรีเมียร์ลีก โยงพนันออนไลน์ เสียหายกว่า 2 พันล้าน

สยามรัฐ

กัมพูชาทำกับดัก “หลุมขวาก” ที่ภูมะเขือ

สำนักข่าวไทย Online

SCBX ปรับทัพผู้บริหาร เสริมความแข็งแกร่ง มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน

SpringNews

เร่งตรวจสอบ 2 มูลนิธิเกี่ยวข้องวัดพระบาทน้ำพุ หลังพบครอบครองที่ดินรวมกว่า 200 ไร่

Manager Online

อว.ลุยสื่อสารเชิงรุก! ชี้นักสื่อสารองค์กรต้องเป็น “ผู้กำหนดเรื่องราว”

Khaosod

ชื่นชมผิดแล้วแก้ไข้ “โอ๊ต” หนุ่มใหญ่เดินเท้า 1,400 กม. เลิกยาเพื่อแม่

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘ทหาร’ คุมเข้มชาวจีน 94 รายเอี่ยวแก๊งคอลฯในเมียวดี ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศบ้านเกิด

เดลินิวส์

“ดิว อริสรา” เปิดใจทั้งน้ำตาผิดพลาดในชีวิต ย้ำไม่ได้หนี แค่ไปตั้งหลัก ด้านสามียอมรับเลิกรากันแล้วแต่ช่วยเลี้ยงลูก!

เดลินิวส์

‘โจ้ สืบศักดิ์’ แฉเดือด นักตะกร้อโดนหัก 1.9 ล้าน เหลือติดตัวอยู่แค่ 100,000 บาท

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...