"โหรดัง" เตือนแรง เตรียมรับมืออุบัติภัยใหญ่รอบสาม-สี่
แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 599 โดย ฟองสนาน จามรจันทร์ เตรียมรับอุบัติภัยใหญ่รอบสาม-สี่
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรที่ทำมุมบ่งบอกภัยขนาดใหญ่รอบสาม-สี่
มฤตยูจร (0) - เดินในราศีพฤษภระหว่างกรกฎาคม 2565 - กรกฎาคม 2572
พระเสาร์จร (7) - เดินในราศีกุมภ์ระหว่าง 24 สิงหาคม 2568 - 14 กุมภาพันธ์ 2569 (มีเดินผิดปกติ)
พระอังคารจร (3) - เดินในราศีตุลย์ระหว่าง 12 กันยายน - 26 ตุลาคม 2568
- เดินราศีพิจิก ระหว่าง 26 ตุลาคม - 5 ธันวาคม 2568
- เดินในราศีธนูระหว่าง 5 ธันวาคม - สิ้นปี 2568
ดังที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าปี 2568 นี้ เมืองจะเจอกับอุบัติเหตุ หรืออุบัติภัยขนาดใหญ่ระดับเป็นข่าวไปถึงต่างประเทศถึงสี่รอบ (ไม่นับรวมขนาดย่อม) นั้น
บัดนี้เหตุการณ์หลักรอบแรกเกิดไปแล้วคือ แผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนสะกาย เมียนมาร์ เมื่อ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. แต่ตึก สตง. ไทยที่กำลังก่อสร้างที่กรุงเทพฯ กลับถล่มราบลงกองเป็นภูเขาเลากา มีคนตายเฉียดร้อย ยังไม่นับที่บาดเจ็บ
รอบที่สองยิ่งรุนแรง-ดุเดือด ลั่นสนั่นเมือง และเป็นข่าวดังไปทั่วโลกกว่าครั้งแรก เมื่อกัมพูชาเพื่อนบ้านเปิดฉากถล่มไทยก่อนหลังยั่วยุมานาน จนนำมาสู่การปะทะกันห้าวันสี่คืน 24-28 กรกฎาคม 2568 ในระดับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เป็นประธานอาเซียน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ยื่นมือเข้าหย่าศึก
รอบนี้ชาวบ้านชายแดนอีสาน ตั้งแต่อุบลราชธานี - ศรีสะเกษ - สุรินทร์ - บุรีรัมย์ เดือดร้อนต้องอพยพหนีภัยสู้รบแสนกว่าคน แม้กระทั่งตราดก็ถูกเปิดแนวรบให้กองทัพเรือลงไม้ลงมือพอหอมปากหอมคอ ผลคือทหารไทยตายไป 15 บาดเจ็บเฉียด 200 คน ส่วนชาวบ้านตายไป 17 และบาดเจ็บ 38 คน
รอบนี้แม้จะมีผลเชิงบวกตามมามาก เช่น ได้ดินแดนสิบเอ็ดจุดคืน หรือได้ชื่นชมกับวีรบุรุษของชาติอย่าง พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่สอง และแม้จะหยุดยิงกันไปแล้ว แต่แรงกดดันอารมณ์ยังคงอยู่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เผชิญหน้ากันอยู่ด้วยกองกำลังจะนำไปสู่จุดไหน
ในส่วนของดวงเมืองนั้น ยังมีความเสี่ยงการเกิดเหตุอุบัติภัยใหญ่ซึ่งเป็นเหตุหลักอีกอย่างต่ำน่าจะสองครั้งในปีนี้ ตามที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้น (ไม่นับรวมขนาดเล็กที่มีเป็นปกติอยู่แล้ว) ที่มีโอกาสแรงทุกทางทั้งดิน-น้ำ-ลม หรืออากาศ หรือแก๊ส-ไฟ ควัน หรือระเบิดถึงเลือดเนื้อชีวิต คือ
รอบระหว่าง 12 กันยายน - 26 ตุลาคม 2568 รอบนี้เน้นไปที่ไฟ ควัน แก๊ส หรือความร้อน และต้องอาวุธเขี้ยวงา ตามโฉลก ..เกิดภัยไฟพิษ แผกด้วยศัตรูหมู่ทมิฬ จะต้องเขี้ยวงา เนื้อหนังพังภินท์ ต้องพิษมหิทธิ์หิน… (พระอังคารจร 3 ที่ราศีตุลย์เล็งพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑) และ จะเกิดการก-ลี-ก-ลำภัย อันตรายราวี ห่อนมีสุขใจ เรือนโรงร้านไฟ และไฟจะฟอนอาตมา… (พระอังคารจร 3 ที่ราศีตุลย์ทำมุมถึงพระอังคารดวงเดิมที่ราศีพฤษภ)
ตัวอย่างปูมโหรที่บันทึกไว้สำหรับอาการรอบนี้ที่เกิดมาแล้วคือ คนไทยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปทำงานต่างประเทศ แต่ต้องรับกรรมคือ เมื่อตุลาคม 2566 ฮามาสรบกับอิสราเอล ตายไป 33 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 18 คน
รอบระหว่าง 26 ตุลาคม - สิ้นปี 2568 ที่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงใหญ่ยักษ์อย่างต่ำหนึ่งครั้ง ด้วยปรากฏการณ์ดาวร้ายสองดวง ที่หนึ่งเป็นเจ้าของภัยอาเพศ (มฤตยู 0) และอีกดวงเป็นเจ้าของการต่อสู้ สงคราม อุปัทวเหตุ การทะเลาะวิวาท ความตาย การบาดเจ็บ อาวุธ กลอุบายเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้ประหัตประหารกัน (อังคาร 3) แล้วยังเป็นดาวประจำชีพเมืองด้วยตรึงหรือสมาสัปต์กัน
ผู้เขียนไปค้นปูมโหรเก่าหาตัวอย่างเทียบเคียงให้เห็นระดับความรุนแรงของปรากฏการณ์ในอดีตที่ใกล้เคียงกันที่เกิดขึ้นมาก่อน เช่น
9 กันยายน 2531 เวียดนามแอร์ไลน์จากฮานอย ปลายทางสนามบินดอนเมือง ตกที่คูคต ลำลูกกา ปทุมธานี ตาย 76 รอด 6 คน หรือใกล้ ๆ นี้ เช่น 1 ตุลาคม 2567 ไฟไหม้รถนักเรียนหน้าเซียร์รังสิต ตาย 25 รอด 19 คน
17 มกราคม 2567 โรงงานพลุระเบิดที่สุพรรณ ตายไป 23 คนหรือแม้แต่คราวแผ่นดินไหวที่เมียนมาร์ แต่ตึก สตง. ถล่มก็เกณฑ์นี้
ถ้าทางน้ำก็เกิดปรากฏการณ์น้ำ-โคลนท่วมเชียงรายหนักสุดรอบร้อยปี เมื่อ 11 กันยายน 2567 ก็เกณฑ์นี้เป็นสื่อล่อ
อันที่จริงผู้เขียนก็บอก-ทำนายไปอย่างนั้นเอง เพราะปีนี้เมื่อเกิดเรื่องใหญ่สองรอบที่ผ่านมา ก็เล่นก็งงตื่นเต้นตกใจขวัญระทึกไปเหมือนกัน คือแผ่นดินไหว-ตึก สตง. ถล่ม และไทยรบเขมร
เพราะยอมรับเลยว่าเกินคาดคิดจริง ๆ ตามลีลาอาเพศของมฤตยู
ฟองสนาน จามรจันทร์
29 สิงหาคม 2568