ชื่อเดียวเปลี่ยนธุรกิจ! 5 เหตุผลที่ควรตั้งชื่อบริษัทให้ “แปลก” ไม่เหมือนใคร
เชื่อไหมหรือไม่ว่าการตั้งชื่อบริษัทสามารถสร้างความแตกต่าง และเปลี่ยนธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้? ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การมีชื่อที่โดดเด่นและไม่เหมือนใครไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่คือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำ และแตกต่างจากคู่แข่ง
เช่นเดียวกับในมุมของลูกค้า เมื่อได้ยินชื่อที่ธรรมดาก็อาจจะผ่านเลยไป แต่ชื่อที่แปลกใหม่จะดึงดูดความสนใจและสร้างความสงสัยให้พวกเขาอยากรู้จักคุณมากขึ้น ชื่อที่แปลกไม่ใช่แค่เรื่องของการเล่นคำ แต่มันคือการสร้างเอกลักษณ์และเรื่องราวที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อมโยงกับแบรนด์ของคุณได้ในทันที
Smartsme จะพามาดูกันว่าทำไมการชื่อบริษัทแบบแหวกแนวถึงมีข้อดีกับธุรกิจของคุณอย่างคาดไม่ถึง และมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ชื่อที่โดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำได้
1. สร้างความจดจำ
ชื่อที่แปลก และไม่เหมือนใครจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ง่ายกว่าชื่อทั่วไปที่ซ้ำกับคนอื่น ลองคิดดูว่าถ้าชื่อบริษัทของคุณคือ “บริษัทแปลภาษาไทย” กับ “ลิงกะลา มหาแปล” ชื่อไหนที่คนจะจำได้ง่ายกว่ากัน? ชื่อที่โดดเด่นจะฝังอยู่ในใจลูกค้าได้นานกว่า
ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง การมีชื่อบริษัทที่สะดุดหูย่อมสร้างการจดจำได้ดีกว่าการมีชื่อธรรมดา เมื่อชื่อบริษัทถูกพูดถึงหรือเห็นบ่อยๆ ก็จะฝังอยู่ในความทรงจำของผู้บริโภคโดยอัตโนมัติ ช่วยลดต้นทุนในการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ได้อย่างมาก
2.เป็นจุดเริ่มต้นของการเล่าเรื่อง (Storytelling)
ชื่อที่แปลกมักจะทำให้คนสงสัยและอยากรู้ที่มา ทำให้ธุรกิจมีโอกาสเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า เช่น ทำไมต้องเป็น บริษัท หัวลำโพง มิวสิค จำกัด หรือ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด การเฉลยที่มาของชื่อจะเป็นการสร้างบทสนทนาและเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ต่อยอดสู่การตลาดได้ง่าย
ชื่อที่แปลกสามารถนำมาสร้างเรื่องราวหรือแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจได้ง่ายกว่า ชื่อแบบธรรมดา เช่น การใช้ชื่อที่เป็นคำสองแง่สองง่าม หรือชื่อที่เกี่ยวพันกับวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม จะช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
4. สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์
ชื่อที่แปลกแสดงให้เห็นว่าเจ้าของธุรกิจมีความคิดสร้างสรรค์ และกล้าที่จะแตกต่าง บ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของเป็นอย่างดี ซึ่งภาพลักษณ์นี้สามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาอะไรใหม่ ๆ หรือคนที่ชื่นชอบความไม่เหมือนใครได้เป็นอย่างดี
5. ควบคุมการค้นหาออนไลน์ได้ง่าย
เมื่อชื่อบริษัทของคุณไม่เหมือนใคร การค้นหาชื่อนั้นบนอินเทอร์เน็ตก็จะง่ายขึ้นมาก โอกาสที่จะมีชื่อที่ซ้ำกับบริษัทอื่นก็น้อยลง ทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียของคุณเจอได้ทันทีโดยไม่มีการสับสน รวมถึงชื่อที่แปลกใหม่มักจะไม่มีใครใช้ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะสามารถจดทะเบียนชื่อบริษัท, ชื่อโดเมนเว็บไซต์, และเครื่องหมายการค้าได้ง่ายกว่าชื่อที่ใช้กันทั่วไป ทำให้ธุรกิจมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการใช้ชื่อนั้นๆ ป้องกันปัญหาการลอกเลียนแบบในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การตั้งชื่อก็มีข้อควรระวังเช่นกัน โดยเฉพาะชื่อต้องไม่ออกเสียงยาก หรือการใช้ตัวสะกดที่ไม่ควรซับซ้อนมากจนเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อการค้นหา และสร้างการรับรู้จนกลายเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจในระยะยาว เพราะชื่อของบริษัทต้องอยู่ควบคู่กับธุรกิจที่ทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้