วิโรจน์เสนอตัดงบ 7.56 ล้าน รถเครนกรมทางหลวง จี้คมนาคมไปแก้กฎหมายก่อนเสนอเข้ามาใหม่ปีหน้า
วันนี้ (14 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ซึ่งเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา (วาระ 2) เป็นวันที่สอง
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายมาตรา 15 กระทรวงคมนาคมว่า รถเครนในไทยกำลังเผชิญปัญหาจากกฎหมายที่ล้าสมัย แม้รถเครนที่ผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และความปลอดภัยสากลจะสามารถวิ่งใช้งานได้ทั่วโลก แต่ในประเทศไทยกลับถูกตำรวจจับด้วยข้อหาน้ำหนักเกิน ทั้งที่ไม่ได้บรรทุกสิ่งของใด
ในต่างประเทศจัดให้รถเครนเป็นรถเฉพาะกิจ อนุญาตให้น้ำหนักรวมเกินกว่ารถบรรทุกทั่วไปได้ เพราะมีหน้าที่เพียงเคลื่อนย้ายตนเองไปยังไซต์งานและปฏิบัติงานในพื้นที่ ไม่ได้ขนส่งสินค้า แต่กฎหมายไทยกลับจัดให้อยู่ในประเภทเดียวกับรถบรรทุก ทำให้เมื่อรถเครนติดตั้งอุปกรณ์ครบชุดมีน้ำหนักเกิน 15 ตัน ซึ่งเกณฑ์รถบรรทุกหกล้อ ก็พร้อมถูกเจ้าหน้าที่จับทันที บางกรณีถูกรีดไถสูงถึง 70,000 บาท
วิโรจน์อภิปรายว่า ต้นตอปัญหามาจากประกาศกรมทางหลวง ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2548 ซึ่งรัฐมนตรีคมนาคมก็รับทราบ แต่ไม่แก้ไข โดยที่ในปีงบประมาณ 2569 กรมทางหลวงชนบทมีแผนจัดซื้อรถเครน 2 คัน คันละ 3.78 ล้านบาท รวม 7.56 ล้านบาท หากกฎหมายไม่ถูกแก้ไข นั่นเท่ากับซื้อครุภัณฑ์ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายมาใช้งาน
ปัจจุบันผู้ประกอบการบางรายเตรียมระดมอาสาสมัครเฝ้าสังเกต หากรถเครนของกรมทางหลวงชนบทออกวิ่งก็จะแจ้งตำรวจจับ พร้อมถามว่าอธิบดีกรมทางหลวงชนบทจะรับผิดชอบอย่างไร
อย่างไรก็ตาม วิโรจน์จึงเสนอให้ตัดงบซื้อรถเครน 7.56 ล้านบาทออกจากปีงบ 2569 ก่อน แล้วให้กรมทางหลวงชนบทและกระทรวงคมนาคมเร่งแก้กฎหมายให้สอดคล้องมาตรฐานสากล เพื่อไม่ให้รถเครนที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมกลายเป็นของผิดกฎหมาย และปิดช่องการรีดไถจากเจ้าหน้าที่