“บุ๋ม ปนัดดา” ส่งสารถึงชาวโลก เรียกร้องหยุดการปะทะชายแดน
“บุ๋ม ปนัดดา” ส่งสารถึงชาวโลก เรียกร้องหยุดการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยังมีความหวัง สร้างสิ่งที่ถูกต้องเพื่อคนรุ่นต่อไป
เรียกได้ว่ายังคงเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ “บุ๋ม ปนัดดา” ได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกศบ.ทก (โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา) งานนี้ได้เกิดข้อคิดเห็นมากมายซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินคาดว่าอาจมีการยุบตำแหน่ง แต่อย่างใดก็ตามเจ้าตัวยังคงยืนว่าว่าจะทำหน้าที่ตามเดิมของตัวเองในฐานะมูลนิธิองค์กรทำดีให้ดีที่สุด
ล่าสุด “บุ๋ม” ได้โพสต์ข้อความยาวเป็นภาษาอังกฤษถึงสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อสื่อสารกับชาวโลกให้รับรู้ถึงข้อเท็จจริง ซึ่งข้อความแปลเป็นไทยได้ว่า “ความจริงที่โลกต้องฟัง และเสียงเรียกร้องที่ต้องลงมือ — เราไม่มีสิทธิ์เมินเฉย
เพื่อตัวตนของเด็ก ๆ ที่ไม่มีวันได้โตขึ้น: จากโต๊ะเจรจาหยุดยิง สู่ทุ่งทุ่นระเบิด และมรดกโลกที่กลายเป็นสุสาน
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
ทุกอย่างที่บิดเบือนมัน…ก็คือการโกหก
และในเวลาสงคราม การโกหกไม่ได้แค่ปิดบังข้อเท็จจริง แต่ทำลายทางเดินไปสู่สันติภาพ
วันนี้ ฉันพูดไม่ใช่แค่ในนามประเทศไทย แต่พูดกับจิตสำนึกของคนทั้งโลก
เรามาที่นี่เพื่อบันทึกความจริง ให้มันอยู่ตรงนี้อย่างชัดเจน
เพื่อจะได้ไม่มีใครบิดเบือน ไม่มีโฆษณาชวนเชื่อ
และไม่มีความเงียบที่ตั้งใจใช้เพื่อลบความจริง ว่ากัมพูชาทำอะไรลงไป
และฉันเรียกร้องให้โลก ยืนหยัดร่วมกัน
ปกป้องความจริง
รักษาสันติภาพ
และประณามความรุนแรงที่กำลังฉีกทำลายความเป็นมนุษย์ของพวกเราทุกคน
ตั้งแต่วันแรกที่การรุกรานครั้งนี้เริ่มขึ้น ชีวิตของคนบริสุทธิ์ตามแนวชายแดนเรา ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เด็กบางคนจะไม่มีวันได้เห็นโลกนอกหมู่บ้านของตัวเอง
มีเด็กสองคน อายุเพียง 8 กับ 13 ปี ที่ชีวิตหยุดอยู่ตรงนั้น
เขาไม่มีโอกาสได้โตเลย
ลองนึกภาพ…แม่คนหนึ่งกอดลูกแน่น พยายามบังแรงระเบิด
แล้วทั้งคู่ก็ตายในร้านสะดวกซื้อ พร้อมกัน
นั่นเกิดขึ้นในปี 2025
ในขณะที่คนทั้งโลกกำลังพูดถึงอนาคต เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ และความก้าวหน้า
สำหรับเขา ไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว
แล้วก็มาถึงวันที่ 12 สิงหาคม
วันที่บ้านเราเต็มไปด้วยดอกไม้ ความกตัญญู และความรักของลูกที่มอบให้แม่
แต่ปีนี้ มีแม่อย่างน้อย 16 คนที่ต้องเจอวันนี้ โดยที่รู้ว่าลูกชายที่ส่งไปรับใช้ชาติ จะไม่มีวันกลับมา
มีแม่อีก 7 คน ที่ร้องไห้จนอยากเอาตัวเองไปแทนลูก อยากเจ็บแทน อยากเสียขาแทน แค่ขอให้ลูกกลับมาเหมือนเดิม
และมีอีก 275 ครอบครัว ที่โต๊ะกินข้าวจะเงียบเหงาไปตลอด เพราะระเบิดพรากคนหนึ่งในครอบครัวไปก่อนเวลา
ความสูญเสียแบบนี้ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ฝั่งไทย
ทุกชีวิตที่ถูกพรากไป — ไทยหรือกัมพูชา — คือหลักฐานว่าการตัดสินใจของคนเพียงไม่กี่คนบนยอดอำนาจ ได้ทำลายอนาคตของผู้คนนับร้อยนับพัน
ข้อแรก กัมพูชาละเมิด “อนุสัญญาออตตาวา” ที่ทั้งสองประเทศเซ็นร่วมกัน ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
แม้หลังจากที่เรานั่งเจรจาหยุดยิงกันที่มาเลเซีย พวกเขาก็ยังฝังทุ่นระเบิดลงบนแผ่นดินของเรา
นี่ไม่ใช่ความผิดพลาด แต่มันคือการท้าทายกฎหมายอย่างตั้งใจ
ข้อสอง พวกเขาละเมิดข้อตกลงสากลที่ห้ามใช้มรดกโลกเป็นเกราะกำบังในสงคราม
โลกเราตกลงกันไว้เพื่อปกป้องประวัติศาสตร์ของมนุษย์
แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าพวกเขาทำผิด เพราะพวกเขาถ่ายคลิปตัวเองทำไว้เอง
นี่ไม่ใช่แค่การข้ามเขตแดน แต่มันคือการข้ามเส้นของความเป็นมนุษย์
ข้อความของเราถึงโลกง่ายมาก — อย่าหันหน้าหนี อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นเรื่องปกติ
เพราะถ้าเรานิ่งเฉยต่อความโหดร้าย เราก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
เราขอให้กัมพูชาหยุดการกระทำเหล่านี้ทันที
เคารพอธิปไตยของไทย
และรับผิดชอบต่อชีวิตที่ถูกทำลาย กับอนาคตที่ถูกขโมยไป
สิ่งที่ฉันพูด ไม่ใช่เพราะเกลียด แต่เพราะฉันยังมีความหวัง
หวังว่าจะมีชายแดนที่เด็กสามารถวิ่งเล่นได้อย่างปลอดภัย
หวังว่าจะมีวันพรุ่งนี้ที่สนธิสัญญาถูกเคารพ
หวังว่าจะมีโลกที่คุณค่าของชีวิตมนุษย์ ไม่ถูกชี้ขาดด้วยความทะเยอทะยานของคนไม่กี่คน
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
ทุกอย่างที่บิดเบือนมัน ก็คือการโกหก
โลกเราไม่มีเวลามาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เพราะถ้าปล่อยให้โกหกเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีใครท้วง
ความรุนแรงก็จะยิ่งกล้าและโหดขึ้นเรื่อย ๆ
การกระทำของกัมพูชา ไม่ได้แค่เอาชีวิตคนไป
แต่มันยังทำให้บาดแผลของโลกทั้งใบลึกลงกว่าเดิม
เราต้องยืนขึ้น แล้วพูดพร้อมกันว่า — พอแล้ว
หยุดความรุนแรง
หยุดการฆ่า
หยุดทำลายสิ่งที่เป็นของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้
นี่คือโลกเดียวที่เรามี
และทุกการกระทำรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ ก็คือการกระทำต่อพวกเราทุกคน
เราต้องไม่เพียงแต่ประณามสิ่งที่ผิด
แต่ต้องร่วมกันสร้างสิ่งที่ถูก
เพื่อความหวังของวันพรุ่งนี้
เพื่อความจริง
เพื่อสันติภาพ
และเพื่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป”
และ “บุ๋ม” ได้โพสต์รูปภาพของตัวเองพร้อมระบุข้อความว่า “ใส่สุดตัวในชีวิตบุ๋มแล้ว! แต่ก็ยังเชื่อว่าฉันทำได้มากกว่านี้อีก!” ซึ่งทางด้านชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจอย่างมากมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews