ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายที่ดิน ฟันธง! เพิกถอดเอกสารสิทธิ์ฯเขากระโดง ภายใน 1-2 วัน ตามที่ ‘ภูมิธรรม สั่งการ ทำไม่ได้
12 ส.ค.2568- นายเกรียงไกร ศรีฟ้า เพจคลินิกนิกที่ดิน และผู้บริหารหลักสูตรเกราะเหล็กอสังหาฯ ได้แสดงความเห็น กรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศว่า จะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ของการรถไฟเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ภายใน 2 วัน ว่า จากประสบการณ์การทำงานด้านที่ดินกว่า 30 ปี ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก การจะเพิกถอนโฉนดที่ดิน มีกฎหมายกําหนดไว้ 2 กรณีคือ กรณีแรก ความปรากฏว่า หมายความว่าไม่จําเป็นจะต้องมีคําพิพากษา ไม่จําเป็นจะต้องมีการฟ้องคดี แค่ความปรากฏก็คืออาจจะกรมที่ดินไปพบเอง มีหน่วยงานอื่นๆ ร้องเรียนเข้ามา หรือมีพี่น้องประชาชนแจ้งเข้ามา กรมที่ดินก็มีหน้าที่ที่จะไปดําเนินการได้ คือนําเข้ากระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 1 ถึงวรรค 5
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า กรณีที่ 2 คือการเพิกถอนตามคําสั่งศาล อยู่ในมาตรา 61 วรรคที่ 8 กรณีที่ศาลมีคําพิพากษาหรือมีคําสั่งถึงที่สุด ให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดดําเนินการตามคําพิพากษาหรือคําสั่ง ตามวิธีการที่อธิบดีกําหนด เพราะฉะนั้นถ้าจะพิจารณาว่าจะเพิกถอนตามมาตรา 61 วรรค 8 จะต้องมีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุด ถ้ายังไม่ถึงที่สุดก็ไม่ได้ จะไปมีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุดในเรื่องอื่นไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องการให้เพิกถอนโฉนดที่ดินโดยตรง
.
เขากล่าวว่า เอกสารสิทธิ์บริเวณที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีปัญหากันมายาวนาน แล้ววันนี้ก็ยังเพิกถอนไม่ได้เลย บางท่านก็เข้าใจว่าคําพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุด แล้วว่าให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน นี่คือความเข้าใจของพี่น้องประชาชนทั่วไป จริง ๆ แล้ว ยังไม่เข้าองค์ประกอบของมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดิน กฎหมายบอกว่าเมื่อความปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์ให้แก่ผู้ใด โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้อธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ซึ่งดํารงตําแหน่งรองอธิบดี หรือผู้ตรวจราชการกรม มีอํานาจสั่งเพิกถอน หรือแก้ไขได้
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า เมื่อความปรากฏ กรมที่ดินจะต้องเข้าไปตรวจสอบ เมื่อพบว่า เอกสารสิทธิ์ที่ออกไปในพื้นที่เหล่านี้ ออกโดยไม่ชอบ หากออกโดยคลาดเคลื่อน ให้อธิบดีกรมที่ดิน หรือรองอธิบดี หรือผู้ตรวจ ซึ่งอธิบดีมอบหมาย มีอํานาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้ แต่ในวรรค 2 บอกว่าก่อนที่จะเพิกถอนให้ตั้งคณะกรรม การสอบสวนขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยมีอํานาจเรียกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการประโยชน์ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อให้โอกาสคัดค้าน เช่น เจ้าของที่ดิน สถาบันการเงิน ผู้รับจํานอง ส่วนได้เสียแก่การที่ดินแปลงนี้ให้มาคัดค้านภายใน 30 วัน กรรมการไม่ให้ตั้งเฉพาะกรมที่ดินอย่างเดียว จะต้องมีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมด้วย และมีตัวแทนคณะผู้บริหารท้องถิ่นเข้ามาร่วมด้วย นี่เป็นโครงสร้างของคณะกรรมการในการพิจารณาเพิกถอนโฉนดที่ดิน เมื่อครบระยะเวลาไม่เกิน 120 วัน เสนออธิบดี เมื่อได้รับข้อมูลจากกรรมการสอบสวนแล้วจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เมื่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามวรรคหนึ่งพิจารณาแล้วผลเป็นประการใด ก็ให้ดําเนินการไปตามนั้น หมายความว่าไม่ได้บังคับว่าต้องเพิกถอนทุกราย
นี่คือมาตรา 61 วรรคหนึ่ง วรรค 2 วรรค 3 วรรค 4 วรรค 5 ที่วางไว้ ให้อยู่ในชุดของกรุ๊ปเอ ส่วนกรุ๊ปบี หมายความว่า สามารถเพิกถอนได้ภายใน 1 วัน 2 วัน หรือภายใน 1 ชั่วโมง อันนี้ก็ถอนได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอก ทําได้เลย ไม่ต้องไปเสนอถึงอธิบดีด้วย เพราะคนที่เพิกถอน คือเจ้าของงานที่ดินจังหวัด แต่เงื่อนไขการเพิกถอนคือ มาตรา 61 วรรค 8 บอกว่าในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษา หรือมีคําสั่งถึงที่สุด ให้เพิกถอน หรือแก้ไขอย่างใดให้เจ้าพนักงานที่ดินดําเนินการตามคําพิพากษา หรือคําสั่งนั้น ตามวิธีการที่อธิบดีกําหนด
ตามที่ศาลพิพากษาฎีกาได้ตัดสินหรือพิพากษาราษฎรทั้งหมด 35 ราย หลังจากนั้น มีประมาณ 34 ราย ที่ไปฟ้องการรถไฟ จนกระทั่งถึงศาลฎีกา ออกมาในแนวทางเดียวกันหมดเลยว่าที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 35 ราย ถือว่าเป็นที่ดินของการรถไฟ ถือเป็นคําพิพากษาที่ถึงที่สุด อันนี้ใช้มาตรา 61 วรรค 8 ได้เลย คือแนบคําสั่งศาลมา ซึ่งที่ดินจังหวัด ได้เซ็นเพิกถอนไปหมดแล้วตามกฎหมายทุกอย่าง ทีนี้สําหรับรายอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ 35 ราย เขาเรียกว่าเมื่อคําพิพากษาฎีกา บอกว่าที่ดินของคนกลุ่ม 35 รายถึง 40 รายตรงนี้ เป็นที่ดินของการรถไฟ พี่น้องรายอื่น ๆ ที่ไม่เคยเข้ามาในคดี ไม่เคยฟ้องร้องคดีกับใคร อันนี้เขาเรียกว่าเมื่อความปรากฏแล้ว เพราะฉะนั้นที่ดินของเขาซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันในพื้นที่เดียวกัน ในบริเวณเดียวกัน น่าจะเป็นที่การรถไฟด้วย ตรงนี้เป็นเพียงแค่คําพิพากษา บ่งชี้เฉย ๆ ซึ่งจะเข้ามาตรา 61 วรรคหนึ่ง คือเมื่อความปรากฏว่า เป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน ที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อดําเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เมื่อเข้าไปตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าเกิดไปพบว่าราษฎรรายหนึ่งรายใด หรือบางราย หรือทั้งหมด ออกเอกสารสิทธิ์มาโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือผลการสอบสวนพบว่ารายใดต้องเพิกถอนรายใด ไม่ต้องเพิกถอน คณะกรรมการสอบสวนสรุปมา ซึ่งเมื่ออธิบดีกรมที่ดิน สั่งประการใดก็ ดําเนินการไปตามนั้น
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า แม้เป็นคําพิพากษาฎีกาว่าที่ดินตรงนี้ เป็นของการรถไฟ แต่ไม่มีคําพิพากษาฎีกาให้ไปเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของอีก 700 กว่าคน เพราะเขายังไม่เคยขึ้นศาลเลย จะมีคําพิพากษาได้อย่างไร 700 กว่าคน เป็นเรื่องของความปรากฏ ซึ่งเป็นอํานาจของกรมที่ดินที่จะเพิกถอน แต่จากการเสพสื่อต่าง ๆ ทําให้ราษฎรเข้าใจว่ามีคําพิพากษาถึงที่สุด ให้เพิกถอนแล้ว
.
“อันนี้ อยากจะให้แยกให้ชัดเจน คําพิพากษาถึงที่สุดที่มีก็คือ คําพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินบริเวณนี้ เป็นที่การรถไฟ ตรงไหนไม่รู้ ว่าขอบเขตตรงไหน แต่ไม่มีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุด ให้กรมที่ดินเพิกถอน ฉะนั้นคําพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นที่ดินของการรถไฟ กับคําพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์มันคนละเรื่องกัน มันยังมามาตรา 61 วรรค 8 ยังมาช่องบี ไม่ได้ มันอยู่ที่ช่องเอ ต้องดูว่าในช่องเอ กรมที่ดินได้ดําเนินการครบถ้วนหรือยัง หรือไม่ครบในส่วนไหน อันนี้ต้องถามว่าเขาตั้งเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และท้องถิ่นเป็นกรรมการด้วยหรือไม่ เขาตั้งเรียบร้อยแล้วเป็นการกําหนดโครงสร้างโดยกฎหมาย ไม่ใช่ว่าตั้งใครก็ได้” นายเกรียงไกร กล่าว
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า มีนักการเมืองบางท่านว่า ไปตั้งพรรคพวกของตัวเองมาพิจารณา ผลเลยออกมาแบบไม่เป็นไปตามกฎหมาย จะถามว่าเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และท้องถิ่นไม่เกี่ยวกับพวกใคร หรือเขาไม่ได้ห้ามว่าคุณจะสนิทกัน หรือคุณจะต้องไม่รู้จักกัน เขาเรียกว่าตั้งตามโครงสร้างของกฎหมาย ถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว คณะกรรมการสอบสวนต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ขยายระยะเวลาอีกไม่เกิน 60 วัน อันนี้ 120 วัน ทําได้ภายในกรอบระยะเวลาถูกต้อง จากนั้นส่งอธิบดี พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน มีความเห็นว่ายุติเรื่องทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับคําพิพากษาของศาลปกครองกลางที่เค้าบอกว่า หากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ก็คือ อธิบดีกรมที่ดินมีคําสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนแล้วและพิจารณาข้อเท็จจริงได้เป็นเช่นใด ย่อมเป็นอํานาจของอธิบดีกรมที่ดิน จะดําเนินการ มีคําสั่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตามที่เห็นสมควร อันเป็นดุลพินิจของอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งศาลไม่อาจก้าวล่วงได้
.
ศาลบอกว่าเป็นอํานาจของกรมที่ดิน ศาลไม่อาจก้าวล่วงได้ ศาลจึงไม่อาจมีคําพิพากษา หรือมีคําสั่งให้กรมที่ดินดําเนินการตามคําขอของการรถไฟได้ แล้วท่านก็มีคําสั่งออกมาแล้วว่ายุติเรื่อง ไม่ได้เพิกถอน หมายความว่าในมาตรา 61 เขาได้ดําเนินการครบถ้วนเรียบร้อย หมายความว่าเรื่องจบแล้วคือ ไม่มีการเพิกถอน อยู่ๆ มา พอมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็รื้อมาอีกบอกว่าไป ดูสิว่าที่กรมที่ดินสั่ง ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า ทีนี้คําว่าชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า ก็ต้องมาดูโครงสร้างของกฎหมายว่าเขาทําผิดขั้นตอนตรงไหน อย่างเช่น ตั้งกรรมการสอบสวนไม่เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีฝ่ายปกครอง ไม่มีผู้บริหารท้องถิ่นร่วมด้วย ถือเป็นการตั้งกรรมการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างนี้ถือว่ายกเลิกและตั้งใหม่ได้ แต่ถ้าตั้งถูกต้องแล้ว มีฝ่ายปกครองบริเวณท้องถิ่น เรียบร้อยตามกฎหมาย โครงสร้างครบ อันนี้ถือว่าครบถ้วนตามกฎหมาย แล้วกรรมการสอบสวนดําเนินการภายในกรอบระยะเวลาที่ศาลปกครองกลางกําหนด
.
คําสั่งยุติเรื่องของกรมที่ดิน ไม่ถูกใจพี่น้องสื่อมวลชนนําเสนอกันทุกวัน ไม่ถูกใจพี่น้องประชาชน บางพวกบางกลุ่ม ทั้งที่เขาดำเนินการถูกต้องทั้งหมดแล้ว มันไม่มีเหตุที่จะต้องไปดำเนินการใหม่ ในเรื่องนี้แต่อย่างใด เราต้องยึดเสาหลัก เอาข้อกฎหมายเป็นหลักไม่ใช่ว่าเอาความรู้สึก หรือเอาอารมณ์ เอาความที่อยากจะเป็นมาเป็นตัวตัดสิน เพราะฉะนั้นเรื่องเขากระโดงก็คือจบไปแล้ว วันดีคืนดี บอกว่าจะให้กรมที่ดินเพิกถอนภายใน 2 วัน จะดําเนินการโดยเร็ว มันทําได้แต่ต้องมาเข้าช่องบีคือ ให้เอาคําสั่งศาลฎีกามาว่าที่พิพากษาว่าเป็นที่ของการรถไฟ มาเป็นคําพิพากษาให้เพิกถอนด้วยก็เพื่อที่จะพยายามโยงให้มันมาเข้ามาตรา 61 วรรค 8 ตอนนี้ ทางการเมือง เขาพยายามที่จะโยงให้เอาช่องเอ มาอยู่ในช่องบี เพราะช่องเอ ยุติเรื่องไปแล้ว ซึ่งพี่น้องประชาชนอีก 700 กว่าคน ไม่ได้เข้าในช่องนี้
.
“การที่ฝ่ายการเมืองบอกว่าจะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินบริเวณเค้ากระโดงให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ถ้าท่านไม่มีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุด ของศาลมาแสดง ผู้ที่เซ็นเพิกถอน ไม่มีอํานาจเซ็น เพราะฉะนั้นการที่จะเพิกถอนโฉนดที่เขากระโดงให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ไม่สามารถทําได้ ตอนนี้ที่ทําได้ก็คือ 1. รอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษามาว่าจะเอายังไง 2. ถ้าจะย้อนหลังมาขุดกระบวนการพิจารณาทั้งหมดที่ผ่านมาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็ต้องมาดูว่าในการดําเนินการตามมาตรา 61 วรรคหนึ่ง ถึงวรรค 5 ทําขาดตกบกพร่องตรงไหน ส่วนผลการพิจารณามาเป็นอย่างไร อันนี้ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ว่าแล้วแต่อธิบดีจะพิจารณาเลยหรือสั่งการมาเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งศาลปกครองกลางก็ไม่อาจมาก้าวล่วงได้ เมื่ออธิบดีกรมที่ดินสั่งยุติเรื่องก็คือยุติ เพราะฉะนั้นการที่เรื่องนี้มันจบไปแล้ว แล้วคุณจะไปรื้อมาทําใหม่ โอ้โห นี่ยากมาก แล้วมันก็ไม่จบง่ายๆ แต่ตอนนี้ที่มันจบแล้วก็คือ กรมที่ดินไม่เพิกถอน” นายเกรียงไกร กล่าว
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ส่วนที่เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าคําพิพากษาศาลฎีกา พิพากษาว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินของการรถไฟ มันผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีหรือไม่ หรือ ผูกพันไปถึงบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้ามาในคดีด้วยนั้น คําพิพากษาของศาลปกครองกลางบอกว่าที่ดินบริเวณที่ศาลมีคําพิพากษาที่กล่าวถึงมีฐานะเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถใช้ทําบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปได้ หาใช่มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีตามมาตรา 145 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.ายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศว่า จะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ของการรถไฟเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ภายใน 2 วัน ว่า จากประสบการณ์การทำงานด้านที่ดินกว่า 30 ปี ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก การจะเพิกถอนโฉนดที่ดิน มีกฎหมายกําหนดไว้ 2 กรณีคือ กรณีแรก ความปรากฏว่า หมายความว่าไม่จําเป็นจะต้องมีคําพิพากษา ไม่จําเป็นจะต้องมีการฟ้องคดี แค่ความปรากฏก็คืออาจจะกรมที่ดินไปพบเอง มีหน่วยงานอื่นๆ ร้องเรียนเข้ามา หรือมีพี่น้องประชาชนแจ้งเข้ามา กรมที่ดินก็มีหน้าที่ที่จะไปดําเนินการได้ คือนําเข้ากระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 1 ถึงวรรค 5
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า กรณีที่ 2 คือการเพิกถอนตามคําสั่งศาล อยู่ในมาตรา 61 วรรคที่ 8 กรณีที่ศาลมีคําพิพากษาหรือมีคําสั่งถึงที่สุด ให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดดําเนินการตามคําพิพากษาหรือคําสั่ง ตามวิธีการที่อธิบดีกําหนด เพราะฉะนั้นถ้าจะพิจารณาว่าจะเพิกถอนตามมาตรา 61 วรรค 8 จะต้องมีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุด ถ้ายังไม่ถึงที่สุดก็ไม่ได้ จะไปมีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุดในเรื่องอื่นไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องการให้เพิกถอนโฉนดที่ดินโดยตรง
.
เขากล่าวว่า เอกสารสิทธิ์บริเวณที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีปัญหากันมายาวนาน แล้ววันนี้ก็ยังเพิกถอนไม่ได้เลย บางท่านก็เข้าใจว่าคําพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุด แล้วว่าให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน นี่คือความเข้าใจของพี่น้องประชาชนทั่วไป จริง ๆ แล้ว ยังไม่เข้าองค์ประกอบของมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดิน กฎหมายบอกว่าเมื่อความปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์ให้แก่ผู้ใด โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้อธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ซึ่งดํารงตําแหน่งรองอธิบดี หรือผู้ตรวจราชการกรม มีอํานาจสั่งเพิกถอน หรือแก้ไขได้
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า เมื่อความปรากฏ กรมที่ดินจะต้องเข้าไปตรวจสอบ เมื่อพบว่า เอกสารสิทธิ์ที่ออกไปในพื้นที่เหล่านี้ ออกโดยไม่ชอบ หากออกโดยคลาดเคลื่อน ให้อธิบดีกรมที่ดิน หรือรองอธิบดี หรือผู้ตรวจ ซึ่งอธิบดีมอบหมาย มีอํานาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้ แต่ในวรรค 2 บอกว่าก่อนที่จะเพิกถอนให้ตั้งคณะกรรม การสอบสวนขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยมีอํานาจเรียกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการประโยชน์ หรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบเพื่อให้โอกาสคัดค้าน เช่น เจ้าของที่ดิน สถาบันการเงิน ผู้รับจํานอง ส่วนได้เสียแก่การที่ดินแปลงนี้ให้มาคัดค้านภายใน 30 วัน กรรมการไม่ให้ตั้งเฉพาะกรมที่ดินอย่างเดียว จะต้องมีเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมด้วย และมีตัวแทนคณะผู้บริหารท้องถิ่นเข้ามาร่วมด้วย นี่เป็นโครงสร้างของคณะกรรมการในการพิจารณาเพิกถอนโฉนดที่ดิน เมื่อครบระยะเวลาไม่เกิน 120 วัน เสนออธิบดี เมื่อได้รับข้อมูลจากกรรมการสอบสวนแล้วจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เมื่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามวรรคหนึ่งพิจารณาแล้วผลเป็นประการใด ก็ให้ดําเนินการไปตามนั้น หมายความว่าไม่ได้บังคับว่าต้องเพิกถอนทุกราย
นี่คือมาตรา 61 วรรคหนึ่ง วรรค 2 วรรค 3 วรรค 4 วรรค 5 ที่วางไว้ ให้อยู่ในชุดของกรุ๊ปเอ ส่วนกรุ๊ปบี หมายความว่า สามารถเพิกถอนได้ภายใน 1 วัน 2 วัน หรือภายใน 1 ชั่วโมง อันนี้ก็ถอนได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอก ทําได้เลย ไม่ต้องไปเสนอถึงอธิบดีด้วย เพราะคนที่เพิกถอน คือเจ้าของงานที่ดินจังหวัด แต่เงื่อนไขการเพิกถอนคือ มาตรา 61 วรรค 8 บอกว่าในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษา หรือมีคําสั่งถึงที่สุด ให้เพิกถอน หรือแก้ไขอย่างใดให้เจ้าพนักงานที่ดินดําเนินการตามคําพิพากษา หรือคําสั่งนั้น ตามวิธีการที่อธิบดีกําหนด
ตามที่ศาลพิพากษาฎีกาได้ตัดสินหรือพิพากษาราษฎรทั้งหมด 35 ราย หลังจากนั้น มีประมาณ 34 ราย ที่ไปฟ้องการรถไฟ จนกระทั่งถึงศาลฎีกา ออกมาในแนวทางเดียวกันหมดเลยว่าที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 35 ราย ถือว่าเป็นที่ดินของการรถไฟ ถือเป็นคําพิพากษาที่ถึงที่สุด อันนี้ใช้มาตรา 61 วรรค 8 ได้เลย คือแนบคําสั่งศาลมา ซึ่งที่ดินจังหวัด ได้เซ็นเพิกถอนไปหมดแล้วตามกฎหมายทุกอย่าง ทีนี้สําหรับรายอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ 35 ราย เขาเรียกว่าเมื่อคําพิพากษาฎีกา บอกว่าที่ดินของคนกลุ่ม 35 รายถึง 40 รายตรงนี้ เป็นที่ดินของการรถไฟ พี่น้องรายอื่น ๆ ที่ไม่เคยเข้ามาในคดี ไม่เคยฟ้องร้องคดีกับใคร อันนี้เขาเรียกว่าเมื่อความปรากฏแล้ว เพราะฉะนั้นที่ดินของเขาซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันในพื้นที่เดียวกัน ในบริเวณเดียวกัน น่าจะเป็นที่การรถไฟด้วย ตรงนี้เป็นเพียงแค่คําพิพากษา บ่งชี้เฉย ๆ ซึ่งจะเข้ามาตรา 61 วรรคหนึ่ง คือเมื่อความปรากฏว่า เป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน ที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อดําเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เมื่อเข้าไปตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าเกิดไปพบว่าราษฎรรายหนึ่งรายใด หรือบางราย หรือทั้งหมด ออกเอกสารสิทธิ์มาโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือผลการสอบสวนพบว่ารายใดต้องเพิกถอนรายใด ไม่ต้องเพิกถอน คณะกรรมการสอบสวนสรุปมา ซึ่งเมื่ออธิบดีกรมที่ดิน สั่งประการใดก็ ดําเนินการไปตามนั้น
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า แม้เป็นคําพิพากษาฎีกาว่าที่ดินตรงนี้ เป็นของการรถไฟ แต่ไม่มีคําพิพากษาฎีกาให้ไปเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของอีก 700 กว่าคน เพราะเขายังไม่เคยขึ้นศาลเลย จะมีคําพิพากษาได้อย่างไร 700 กว่าคน เป็นเรื่องของความปรากฏ ซึ่งเป็นอํานาจของกรมที่ดินที่จะเพิกถอน แต่จากการเสพสื่อต่าง ๆ ทําให้ราษฎรเข้าใจว่ามีคําพิพากษาถึงที่สุด ให้เพิกถอนแล้ว
.
“อันนี้ อยากจะให้แยกให้ชัดเจน คําพิพากษาถึงที่สุดที่มีก็คือ คําพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินบริเวณนี้ เป็นที่การรถไฟ ตรงไหนไม่รู้ ว่าขอบเขตตรงไหน แต่ไม่มีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุด ให้กรมที่ดินเพิกถอน ฉะนั้นคําพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นที่ดินของการรถไฟ กับคําพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์มันคนละเรื่องกัน มันยังมามาตรา 61 วรรค 8 ยังมาช่องบี ไม่ได้ มันอยู่ที่ช่องเอ ต้องดูว่าในช่องเอ กรมที่ดินได้ดําเนินการครบถ้วนหรือยัง หรือไม่ครบในส่วนไหน อันนี้ต้องถามว่าเขาตั้งเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และท้องถิ่นเป็นกรรมการด้วยหรือไม่ เขาตั้งเรียบร้อยแล้วเป็นการกําหนดโครงสร้างโดยกฎหมาย ไม่ใช่ว่าตั้งใครก็ได้” นายเกรียงไกร กล่าว
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า มีนักการเมืองบางท่านว่า ไปตั้งพรรคพวกของตัวเองมาพิจารณา ผลเลยออกมาแบบไม่เป็นไปตามกฎหมาย จะถามว่าเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง และท้องถิ่นไม่เกี่ยวกับพวกใคร หรือเขาไม่ได้ห้ามว่าคุณจะสนิทกัน หรือคุณจะต้องไม่รู้จักกัน เขาเรียกว่าตั้งตามโครงสร้างของกฎหมาย ถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้ว คณะกรรมการสอบสวนต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ขยายระยะเวลาอีกไม่เกิน 60 วัน อันนี้ 120 วัน ทําได้ภายในกรอบระยะเวลาถูกต้อง จากนั้นส่งอธิบดี พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน มีความเห็นว่ายุติเรื่องทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับคําพิพากษาของศาลปกครองกลางที่เค้าบอกว่า หากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ก็คือ อธิบดีกรมที่ดินมีคําสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนแล้วและพิจารณาข้อเท็จจริงได้เป็นเช่นใด ย่อมเป็นอํานาจของอธิบดีกรมที่ดิน จะดําเนินการ มีคําสั่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตามที่เห็นสมควร อันเป็นดุลพินิจของอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งศาลไม่อาจก้าวล่วงได้
.
ศาลบอกว่าเป็นอํานาจของกรมที่ดิน ศาลไม่อาจก้าวล่วงได้ ศาลจึงไม่อาจมีคําพิพากษา หรือมีคําสั่งให้กรมที่ดินดําเนินการตามคําขอของการรถไฟได้ แล้วท่านก็มีคําสั่งออกมาแล้วว่ายุติเรื่อง ไม่ได้เพิกถอน หมายความว่าในมาตรา 61 เขาได้ดําเนินการครบถ้วนเรียบร้อย หมายความว่าเรื่องจบแล้วคือ ไม่มีการเพิกถอน อยู่ๆ มา พอมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็รื้อมาอีกบอกว่าไป ดูสิว่าที่กรมที่ดินสั่ง ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า ทีนี้คําว่าชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า ก็ต้องมาดูโครงสร้างของกฎหมายว่าเขาทําผิดขั้นตอนตรงไหน อย่างเช่น ตั้งกรรมการสอบสวนไม่เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีฝ่ายปกครอง ไม่มีผู้บริหารท้องถิ่นร่วมด้วย ถือเป็นการตั้งกรรมการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างนี้ถือว่ายกเลิกและตั้งใหม่ได้ แต่ถ้าตั้งถูกต้องแล้ว มีฝ่ายปกครองบริเวณท้องถิ่น เรียบร้อยตามกฎหมาย โครงสร้างครบ อันนี้ถือว่าครบถ้วนตามกฎหมาย แล้วกรรมการสอบสวนดําเนินการภายในกรอบระยะเวลาที่ศาลปกครองกลางกําหนด
.
คําสั่งยุติเรื่องของกรมที่ดิน ไม่ถูกใจพี่น้องสื่อมวลชนนําเสนอกันทุกวัน ไม่ถูกใจพี่น้องประชาชน บางพวกบางกลุ่ม ทั้งที่เขาดำเนินการถูกต้องทั้งหมดแล้ว มันไม่มีเหตุที่จะต้องไปดำเนินการใหม่ ในเรื่องนี้แต่อย่างใด เราต้องยึดเสาหลัก เอาข้อกฎหมายเป็นหลักไม่ใช่ว่าเอาความรู้สึก หรือเอาอารมณ์ เอาความที่อยากจะเป็นมาเป็นตัวตัดสิน เพราะฉะนั้นเรื่องเขากระโดงก็คือจบไปแล้ว วันดีคืนดี บอกว่าจะให้กรมที่ดินเพิกถอนภายใน 2 วัน จะดําเนินการโดยเร็ว มันทําได้แต่ต้องมาเข้าช่องบีคือ ให้เอาคําสั่งศาลฎีกามาว่าที่พิพากษาว่าเป็นที่ของการรถไฟ มาเป็นคําพิพากษาให้เพิกถอนด้วยก็เพื่อที่จะพยายามโยงให้มันมาเข้ามาตรา 61 วรรค 8 ตอนนี้ ทางการเมือง เขาพยายามที่จะโยงให้เอาช่องเอ มาอยู่ในช่องบี เพราะช่องเอ ยุติเรื่องไปแล้ว ซึ่งพี่น้องประชาชนอีก 700 กว่าคน ไม่ได้เข้าในช่องนี้
.
“การที่ฝ่ายการเมืองบอกว่าจะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินบริเวณเค้ากระโดงให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ถ้าท่านไม่มีคําพิพากษา หรือคําสั่งอันถึงที่สุด ของศาลมาแสดง ผู้ที่เซ็นเพิกถอน ไม่มีอํานาจเซ็น เพราะฉะนั้นการที่จะเพิกถอนโฉนดที่เขากระโดงให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ไม่สามารถทําได้ ตอนนี้ที่ทําได้ก็คือ 1. รอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษามาว่าจะเอายังไง 2. ถ้าจะย้อนหลังมาขุดกระบวนการพิจารณาทั้งหมดที่ผ่านมาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็ต้องมาดูว่าในการดําเนินการตามมาตรา 61 วรรคหนึ่ง ถึงวรรค 5 ทําขาดตกบกพร่องตรงไหน ส่วนผลการพิจารณามาเป็นอย่างไร อันนี้ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ว่าแล้วแต่อธิบดีจะพิจารณาเลยหรือสั่งการมาเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งศาลปกครองกลางก็ไม่อาจมาก้าวล่วงได้ เมื่ออธิบดีกรมที่ดินสั่งยุติเรื่องก็คือยุติ เพราะฉะนั้นการที่เรื่องนี้มันจบไปแล้ว แล้วคุณจะไปรื้อมาทําใหม่ โอ้โห นี่ยากมาก แล้วมันก็ไม่จบง่ายๆ แต่ตอนนี้ที่มันจบแล้วก็คือ กรมที่ดินไม่เพิกถอน” นายเกรียงไกร กล่าว
.
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ส่วนที่เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าคําพิพากษาศาลฎีกา พิพากษาว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินของการรถไฟ มันผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีหรือไม่ หรือ ผูกพันไปถึงบุคคลอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้ามาในคดีด้วยนั้น คําพิพากษาของศาลปกครองกลางบอกว่าที่ดินบริเวณที่ศาลมีคําพิพากษาที่กล่าวถึงมีฐานะเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถใช้ทําบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปได้ หาใช่มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีตามมาตรา 145 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง.