สลด น้ำเตาหลอมเหล็ก 1,600 องศา กระเด็นใส่ร่าง หนุ่มเบญจเพส เสียชีวิต

วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ร.ต.อ.กิตติพงษ์ สีหะบุตร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุคนงานเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานภายในบริษัทผลิตเหล็กแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุภายในโรงงานผลิตเหล็ก พบเป็นพื้นที่ติดตั้งเตาหลอมเหล็กขนาดใหญ่ ใช้ความร้อนสูงหลอมละลายเหล็ก ก่อนนำไปเทลงแบบหล่อ โดยมีเครื่องจักรทำหน้าที่ตักน้ำเหล็กจากเตาหลอมเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังจุดหล่อ พบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายไว พโย ออง อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีร่องรอยถูกน้ำเหล็กหลอมเหลวลวกทั่วร่างกาย ผิวหนังไหม้รุนแรง และเศษเหล็กเกาะติดตามร่างกายจำนวนมาก บริเวณโดยรอบพบคราบน้ำเหล็กกระเด็นและมีอุณหภูมิสูง

จากการสอบถามพยานเพื่อนร่วมงานระบุว่า ขณะเกิดเหตุเครื่องจักรกำลังตักน้ำเหล็กจากเตาหลอมเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังแบบหล่อ เกิดการประทุอย่างแรง ทำให้น้ำเหล็กกระเด็นออกจากภาชนะในรัศมีหลายเมตร ผู้ตายซึ่งกำลังทำงานอยู่ใต้เครื่องตักจึงถูกน้ำเหล็กหลอมเหลวกระเด็นใส่ร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตทันที

เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน บันทึกภาพ พร้อมสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบสภาพเครื่องจักรที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป

ต่อมา น.ส.จุฑามาศ บัวเผื่อน นายอำเภอศรีมหาโพธิ ร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี สภ.ระเบาะไผ่ และ อบต.หนองโพรง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบพบลูกจ้างชาวเมียนมาเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากการถูกน้ำเหล็กหลอมราดร่างกายขณะทำงานในกระบวนหลอมเหล็กโดยใช้เครน (Overhead crane) ยกเคลื่อนย้ายถังน้ำเหล็กหลอมละลายที่มีความร้อนประมาณ 1,600 องศาเซลเซียส เพื่อนำน้ำเหล็กไปเทใส่แบบขึ้นรูป

ปรากฏว่าเครนไม่สามารถบังคับให้หยุดได้ ถังน้ำเหล็กกระแทกโครงสร้าง ทำให้น้ำเหล็กหลอมราดร่างกายลูกจ้างชาวเมียนมาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี มีคำสั่งให้โรงงานหยุดประกอบกิจการในส่วนที่เกิดเหตุ โดยให้เสนอแผนปรับปรุงแก้ไขโรงงานและมาตรการความปลอดภัยภายใน 30 วัน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแจ้งให้บริษัทเข้าพบเพื่อสอบสวนและดำเนินการที่เกี่ยวข้อง

อบต.หนองโพรง แจ้งให้บริษัทนำส่งผลการตรวจสอบเครนและจะตรวจสอบส่วนอาคารต่อไป ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ เข้าตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุและดำเนินคดีตามกฎหมาย นายอำเภอศรีมหาโพธิ กำชับบริษัทเรื่องมาตรการความปลอดภัยและการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้ได้รับการช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป