THAI กลับเข้าเทรดวันแรก ปิดตลาดเเช้าพุ่งแรงกว่า 186% มั่นใจผลงานเติบโตต่อเนื่อง พร้อมผลักดันบริษัทสู่ SET50
หุ้น THAI กลับเข้าเทรดวันแรก เปิดตลาดที่ 10.50 บาท พุ่งแรง 134% มูลค่าหนาแน่นกว่า 3 แสนลบ. ล่าสุดปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 9.50 บาท บวกแรงกว่า 186% ฟากผู้บริหารมั่นใจผลงานโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 69 หลังรับเครื่องบินใหม่เพิ่ม-นักท่องเที่ยวฟื้น เผยยังคงนโยบายปันผล 25% ของกำไรสุทธิ พร้อมเดินผลักดันบริษัทสู่ SET50 ในอนาคต
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI จัดพิธีเปิดการกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันนี้ (4 ส.ค.68) หลังจากประสบความสำเร็จจากการฟื้นฟูกิจการ โดยราคาเปิดเทรดวันแรกอยู่ที่ 10.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 134.4 % จากราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 4.48 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเกือบ 3 แสนล้านบาท
โดย นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THAI เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดหาเครื่องบินว่า ปัจจุบันบริษัทได้ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินไปแล้วจำนวน 45 ลำ ตั้งแต่ปลายปี 2566 และอยู่ในแผนฟื้นฟูอย่างชัดเจน โดยยังไม่มีแรงกดดันจากภาครัฐในการจัดหาเพิ่มเติมแต่อย่างใด แม้จะมีข้อเสนอเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องบินเพิ่มเติมอีก 80–90 ลำในภาพรวมอุตสาหกรรมจากฝ่ายไทยที่เดินทางไปเจรจากับสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การพิจารณาใช้ Option เพิ่มเติมอีก 30 ลำ ยังอยู่ในแผนธุรกิจ โดยจะพิจารณาจากความต้องการของตลาดในอนาคต โดยหากการผลิตไม่ล่าช้า อาจเริ่มรับมอบลำแรกได้ในช่วงต้นถึงกลางปี 2571 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านระยะเวลาส่งมอบ ประเภทเครื่องบิน และความต้องการของบริษัทจะถูกนำมาพิจารณาประกอบกันทั้งหมด
ด้านผลประกอบการ ยืนยันว่าผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา รวมถึงไตรมาส 1–2 ของปี 2568 ยังคงแข็งแกร่ง และอยู่ในทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 25% ของกำไรสุทธิ หากมีกำไรตามเกณฑ์ที่กำหนด
ส่วนสถานการณ์เที่ยวบินชายแดนกลับสู่ภาวะปกติ โดยมีเที่ยวบินไป-กลับวันละ 2 เที่ยวต่อวัน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ราว 3,000 คนต่อวัน ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากประมาณการเดิม
“ขณะนี้การบินไทยกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งภายใต้ทีมบริหารมืออาชีพ และมีแผนต่อยอดความสำเร็จจากแผนฟื้นฟู โดยมุ่งเน้นไปที่การควบคุมต้นทุน การสร้างรายได้ และการบริหารงานอย่างโปร่งใส พร้อมเชื่อมั่นว่าหากเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งบริษัทฯ จะสามารถเข้าสู่ดัชนี SET50 ได้ในอนาคต” นายชาย กล่าว
ด้าน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการและอดีตประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู THAI กล่าวถึงแนวโน้มภาพรวมผลประกอบการในช่วงต่อจากนี้ของ THAI ระบุ หากมองจากสภาพปัจจุบันคาดว่าอนาคตของการบินไทยยังคงสดใส เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการอยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งยังจำเป็นต้องรักษาผลประกอบการให้ดีต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ในปี 2568 ตัวเลขจำนวนผู้โดยสาร รวมถึงฝูงบินอาจจะไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2567
เนื่องจากในปี 2568 มีปัญหาในเรื่องของการต้องเร่งซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบิน ทำให้เครื่องบินจำนวนหนึ่งต้องจอดเพื่อซ่อม และจอดเพื่อปรับปรุงที่นั่ง รวมถึงปัญหาเครื่องยนต์ที่มีปัญหาในเรื่องของการใช้ระยะเวลาการซ่อมนานกว่าที่ควร เหล่านี้คือปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถเพิ่มฝูงบินได้ในปี 2568 ซึ่งจะมีผลตรงต่อผู้โดยสาร แต่โดยทั่วไปแล้ว ผลประกอบการถือว่ายังอยู่ในระดับที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนในปี 2569 จำนวนฝูงบินและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ผลการดำเนินเติบโตมากกว่าปี 2568
“ขอให้นักลงทุนมั่นใจว่าเราจะรักษาผลประกอบการให้ดีต่อไป ส่วนความเสี่ยงที่บางท่านวิตกกังวล มองว่าบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการได้ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน, ราคาน้ำมัน เป็นต้น อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ยังห่วงคือเรื่องเครื่องบินไม่พอใช้เท่านั้นที่จะมีผลกระทบต่อรายได้ของการบินไทย ซึ่งจะกดดันให้รายได้ในปี 2568 อยู่ในระดับต่ำ แทนที่จะเติบโตไม่มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2569 ที่จะมีเครื่องบินใหม่เข้ามาน่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้รายได้เติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว