ชัวร์ก่อนแชร์ : สรุปไทม์ไลน์ 7 วัน เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
จากเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดน ระหว่างไทยและกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งพลเรือนและทหาร รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน นั้น
รัฐบาลไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลจากกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบก (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 12.00 น.) ระบุลำดับเหตุการณ์สำคัญไว้ ดังนี้
หมายเหตุ :
🔴 = ข้อมูลจากกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบก
🔵 = ข้อมูลจากรัฐบาลไทย
📍= สรุปความเสียหาย
วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
เวลา 07.45 น.
- 🔴 กองกำลังสุรนารีตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินสำรวจในเขตพื้นที่หน้าปราสาทตาเมือนธม
- 🔴 พบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม ฝ่ายไทยพยายามใช้การเจรจาเพื่อเลี่ยงการปะทะ
เวลา 08.20 น.
- 🔴 กัมพูชาเปิดฉากยิงฐานปฏิบัติการของไทย ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือนธม มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
เวลา 09.30 น.
- 🔴 กัมพูชายิงจรวด BM-21 จากพื้นที่เขาแหลม ตกในพื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีพลเรือนบาดเจ็บ 1 ราย
- 🔴 พบหัวจรวดตกบนบ้านเรือนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย
เวลา 09.45 น.
- 🔴 มีการยิงจรวด BM-21 เพิ่มเติมเข้าใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน บริเวณ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
เวลา 10.00 – 10.22 น.
- 🔴 ตรวจพบจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า ฐานพดุง และเนิน 500 ใน จ.อุบลราชธานี พร้อมกระสุนปืนใหญ่ตกใส่พื้นที่ผามออีแดง จุกตา และบริเวณฐานทัพ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน 7 นาย
เวลา 10.28 – 10.40 น.
- 🔴 มีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกัมพูชา ด้วยจรวด BM-21 พุ่งเป้าไปยังฐานมาเรีย และบ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง
เวลา 10.48 – 11.00 น.
- 🔴 จรวด BM-21 จำนวน 3 ลูก ตกที่ฐานหมูป่า และในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร้านค้าเอกชนเสียหาย พลเรือนเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 14 ราย
เวลา 11.02 – 12.21 น.
- 🔴 มีการปะทะและยิงถล่มด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนของ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี โดยกระสุนบางส่วนตกในเขตชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน
📍 สรุปความเสียหายเบื้องต้น ณ วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 21.00 น.
1. พลเรือน
เสียชีวิต 13 ราย
บาดเจ็บสาหัส 7 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 12 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต 1 นาย
บาดเจ็บสาหัส 6 นาย
บาดเจ็บปานกลาง 5 นาย
บาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย
ด้านรัฐบาลไทย
- 🔵 ครม. มีมติเห็นชอบ ผ่อนผันแรงงานกัมพูชาใน 7 จังหวัดชายแดน อยู่ในไทยต่อได้อีก 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2568
- 🔵 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งการลดระดับทางการทูต พร้อมมอบ กระทรวงต่างประเทศ เตรียมพยานหลักฐานเพื่อการประท้วงในองค์กรต่าง ๆ และพยานหลักฐานที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่
- 🔵 กระทรวงต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ ประณามการกระทำของกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุด ที่ละเมิดอธิปไตยไทย เป็นผลให้ประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- 🔵 ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีมติ ดังนี้
– มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้มาตรการที่จำเป็นภายใต้กรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ
– มอบหมายให้ มท. ดำเนินการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงตามแผนรองรับ
– หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยประชาชน พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบ
– ศธ. สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่ชั่วคราว
– สธ. จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังพื้นที่ปลอดภัย - 🔵 ด้านการทูต ลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา โดยเรียกตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ และส่งตัวเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำไทยกลับประเทศ
- 🔵 รัฐบาลส่งหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ประณามการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเชิญชวนประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมนี้
วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
เวลา 08.30 น.
- 🔴 บริเวณช่องบก เกิดการยิงตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่ของไทยกับ BM-21 จากฝ่ายกัมพูชา
- 🔴 บริเวณช่องอานม้า กัมพูชาใช้กำลังโจมตีและทำลายอนุสาวรีย์คนขี่ม้ารวมถึงอาคารโดยรอบ
- 🔴 พื้นที่ชาแต กองกำลังไทยตอบโต้ด้วยทหารราบและรถถังเพื่อยึดพื้นที่กลับคืน
- 🔴 ช่องตาเฒ่า ฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังจำนวน 15 คันเป็นฐานยิงโจมตี
- 🔴 เขาพระวิหาร กองกำลังไทยตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง
- 🔴 ภูมะเขือ เกิดการเข้าตีและยิงโต้ตอบอย่างต่อเนื่อง
- 🔴 ช่องจอม มีการสู้รบสลับกันไปมา
- 🔴 ปราสาทตาควาย กัมพูชาเสริมกำลังพลจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่
- 🔴 ปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยวางกำลังป้องกันแน่นหนา ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามเข้าตีหลายระลอก
📍สรุปความเสียหาย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 – 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
1. พลเรือน
เสียชีวิต 13 ราย
บาดเจ็บสาหัส 10 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 10 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต 6 นาย
บาดเจ็บ 29 นาย
ด้านรัฐบาลไทย
- 🔵 สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา เบื้องต้นจะใช้เงินของกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อบรรเทาทุกข์ ส่วนการเยียวยาอื่น ๆ ให้เร่งสรุปส่งกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
- 🔵 ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2/2568 มีมติอนุมัติหลักการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนี้
– 1. เสียชีวิต (ค่าจัดการศพ) รายละ 1,000,000 บาท
– 2. ทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท
– 3. บาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท
– 4. บาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท
– 5. บาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท - 🔵 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศให้ใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่
– จังหวัดจันทบุรี : อ.เมืองจันทบุรี อ.ท่าใหม่ อ.มะขาม อ.แหลมสิงห์ อ.แก่งหางแมว อ.นายายอาม และ อ.เขาคิชฌกูฏ
– จังหวัดตราด : อ.เขาสมิง
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
- 🔴 มีการปะทะอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองฝ่ายเสริมกำลังเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญ ได้แก่ ช่องบก ช่องอานม้า ซำแต ช่องตาเฒ่า ภูมะเขือ ปราสาทตาควาย และกลุ่มปราสาทตาเมือนธม
- 🔴 มีการยิงปืนใหญ่ตกในพื้นที่พลเรือนหลายแห่ง ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
- 🔴 ขณะเดียวกัน มีการอพยพพนักงานคาสิโนชาวกัมพูชาออกจากบ่อนบริเวณชายแดนฝั่งตรงข้ามช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์
เวลา 05.10 น.
- 🔴 ฝ่ายกัมพูชาเปิดพื้นที่โจมตีใหม่ที่ จ.ตราด
- 🔴 กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการ “ยุทธการตราดพิฆาตไพรี 1” ณ บ้านชำราก จ.ตราด ส่งกำลังพลและเรือป้องกันชายแดน ผลักดันและทำลายพื้นที่ที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุด
เวลา 06.40 น.
- 🔴 ฝ่ายกัมพูชาล่าถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ช่วงบ่าย
- 🔴 กัมพูชาระดมยิงปืนใหญ่ ค. และ BM-21 อย่างหนัก พร้อมพยายามรุกรานพื้นที่สำคัญ ได้แก่ ซำแต ภูผี ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาเมือนธม
- 🔴 ไทยตอบโต้ด้วยอาวุธประจำกาย ปืนใหญ่ ค. และการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ช่องอานม้า ภูผี ช่องตาเฒ่า และช่องบันไดหัก
- 🔴 ไทยควบคุมพื้นที่ภูมะเขือได้ทั้งหมดตามแนวเส้น 1:50,000 ส่วนปราสาทตาควายยังมีความพยายามผลักดันจากฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง แต่จำกัดการใช้กำลังเนื่องจากอยู่ใกล้โบราณสถาน
- 🔴 สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะหนัก ได้แก่ ภูมะเขือ ปราสาทตาเมือนธม ช่องบก ช่องอานม้า ซำแต และช่องตาเฒ่า
- 🔴 พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ได้แก่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.กาบเชิง กับ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
- 🔴 กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ผลักดันและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่กัมพูชารุกล้ำเข้ามาในไทย เป็นการละเมิด MOU ปี 2543 รวม 4 พื้นที่ ในเขต อ.ตาพระยา 2 พื้นที่ และ อ.โคกสูง 2 พื้นที่ จ.สระแก้ว
📍สรุปความเสียหาย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 – 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
1. พลเรือน
เสียชีวิต 13 ราย
บาดเจ็บสาหัส 10 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 12 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต 8 นาย
บาดเจ็บ 45 นาย
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ช่องบก
- 🔴 ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังต่อเนื่อง มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาส่งกำลังเข้าสนับสนุนพื้นที่ภูมะเขือและช่องอานม้า ไทยยังควบคุมพื้นที่ได้ตามเส้นปฏิบัติการ 1:50,000 ขณะที่กัมพูชาเคลื่อนกำลังไปทางทิศใต้
ภูผี–ปราสาทโดนตวล และช่องตาเฒ่า
- 🔴 การตรึงกำลังยังคงดำเนินต่อไป คาดว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะการเสียชีวิตของผู้บัญชาการกองพลที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว
พื้นที่หน้าเขาพระวิหาร
- 🔴 ยังคงมีการสู้รบ โดยกัมพูชาใช้อาวุธหลักคือพลซุ่มยิงจากบริเวณปราสาทพระวิหารเพื่อมุ่งเป้าทำร้ายกำลังพลไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงควบคุมพื้นที่ภูมะเขือตามแผนที่ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
ช่องจอม
- 🔴 กัมพูชาใช้อาวุธยิโจมตีบ้านเรือนประชาชนไทย พร้อมพยายามส่งรถถังขึ้นพื้นที่ช่องกร่าง ห่างจากปราสาทตาควายประมาณ 2 กม.
ปราสาทตาเมือนธม
- 🔴 กัมพูชาปรับขบวนเข้าตีจากทิศตะวันออกตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยจึงถอยร่นและใช้ปืนใหญ่โต้กลับ จนกัมพูชาต้องถอนกำลัง
เวลา 02.00 น.
- 🔴 กัมพูชาได้เปิดฉากยิงปืนใหญ่บริเวณพื้นที่ช่องจอม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย
เวลา 04.30 น.
- 🔴 มีการระดมยิงไปยังฐานที่มั่นของทหารไทยบริเวณปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธมอย่างหนัก
เวลา 06.30 น.
- 🔴 กัมพูชายิงจรวดจากสนามบินกรุงสำโรง 4 นัด ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนไทยเสียหาย 2 หลัง และสัตว์เลี้ยงตาย 5 ตัว
- 🔴 ฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้ตามแนวเส้นปฏิบัติการ 1:50,000
- 🔴 กัมพูชาพยายามรุกในหลายจุด เช่น ช่องตาเฒ่า, เขาพระวิหาร, ภูมะเขือ, ช่องจอม, ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือน
- 🔴 กัมพูชาใช้อาวุธอย่างไม่มีรูปแบบ ไม่เป็นไปตามกฎการปะทะ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
- 🔴 สถานการณ์ยังตึงเครียดอย่างสูง คาดว่ากัมพูชาอาจเตรียมปฏิบัติการครั้งใหญ่ก่อนเข้าสู่การเจรจา
เวลาประมาณ 17.00 น.
- 🔴 จรวด BM-21 ตกในพื้นที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่ง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อเข้ารับการรักษาแล้ว
📍สรุปความเสียหาย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 – 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
1. พลเรือน
เสียชีวิต 14 ราย
บาดเจ็บสาหัส 12 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 12 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต 8 นาย
บาดเจ็บ 103 นาย
ด้านรัฐบาลไทย
- 🔵 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเสนอให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงโดยทันที
- 🔵 กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ กรณีกองกำลังกัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่บ้านเรือนของประชาชนในดินแดนไทยที่จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2568
วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
- 🔴 กัมพูชาระดมยิง BM-21 หลายแนวรบ โดยเฉพาะบริเวณ เนิน 677, ภูผี, ผามออีแดง–พระวิหาร และ ภูมะเขือ ขณะเดียวกันมีรายงานการเคลื่อนไหวของระบบขีปนาวุธ PHL–03 ในพื้นที่สนามบินสำโรง จ.อุดรมีชัย
- 🔴 ไทยจึงตอบโต้ตามระดับภัยคุกคามอย่างเท่าเทียม พร้อมปฏิบัติการจำเพาะต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์บริเวณ ช่องบก, ช่องอานม้า, ปราสาทตาควาย และ ปราสาทตาเมือนธม
บริเวณปราสาทตาเมือนธม – ปราสาทตาควาย
- 🔴 พบฝ่ายกัมพูชายังคงมุ่งหมายเข้ายึดและควบคุมพื้นที่ โดยเสริมกำลังจากตอนในเข้าสู่แนวหน้าอย่างต่อเนื่อง และเกิดยิงพลาดใส่กำลังของตนเอง บริเวณช่องอานม้า และผามออีแดง
ภัยคุกคามทางไซเบอร์
- 🔴 ตรวจพบกลุ่มแฮกเกอร์ชาวกัมพูชาเจาะระบบราชการ
- 🔴 สื่ออย่างเป็นทางการของกองทัพไทย ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ต่อคำกล่าวอ้างเท็จจากฝ่ายกัมพูชาที่ระบุว่า กองทัพไทยรุกล้ำดินแดนและใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งไม่มีมูลความจริง และบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง
📍 สรุปความเสียหาย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 – 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
1. พลเรือน
เสียชีวิต 14 ราย
บาดเจ็บสาหัส 12 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย
เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล 16 ราย (สาหัส 11 ราย)
🏥 สถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 19 แห่ง
ปิดบริการทั้งหมด 12 แห่ง
ปิดบางส่วน 7 แห่ง
2. ทหาร
เสียชีวิต 11 นาย
บาดเจ็บ 126 นาย
ด้านรัฐบาลไทย
- 🔵 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ได้เข้าร่วมประชุมกับนายฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซีย ตามคำเชิญของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค
โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้
1. ตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข มีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. คืนนี้ (28 ก.ค. 2568) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงฦ
2. ให้มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของไทย และกองทัพภาคที่ 4 และ 5 ของกัมพูชา ในเวลา 07.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 2568 ตามด้วยการประชุมกับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร (Defense Attaches) หากทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน
3. จัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ในวันที่ 4 ส.ค. 2568 โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
หลังเวลา 00.00 น. (29 ก.ค. 68) ปรากฏการคุกคามของกำลังประเทศกัมพูชาใน 7 เหตุการณ์ ดังนี้
- 🔴 พื้นที่ช่องบก เกิดการปะทะด้วยปืนเล็กที่เนินโนเนมทางทิศตะวันตกช่องบก
- 🔴 พื้นที่ช่องอานม้า เวลา 05.00 น. เกิดการปะทะด้วยอาวุธยิงสนับสนุน สิ้นสุดในเวลา 09.00 น. ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งชุดประสานงานบริเวณทิศใต้ช่องอานม้า
- 🔴 พื้นที่ซำแต เกิดการปะทะ ฝ่ายเราสามารถควบคุมพื้นที่เอาไว้ได้
- 🔴 พื้นที่ช่องตาเฒ่า ตรวจพบการนำยานพาหนะพร้อมกำลังพลเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ ปัจจุบันกำลังดังกล่าววางกำลังอยู่บริเวณปากช่องตาเฒ่า
- 🔴 พื้นที่ภูมะเขือ ฝ่ายประเทศกัมพูชายังคงลาดตระเวนโดยรอบภูมะเขือ และใช้อาวุธวิถีโค้งโจมตีต่อฝ่ายไทยในช่วงเวลา 01.00 น.
- 🔴 พื้นที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือน ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังควบคุมพื้นที่
- 🔴 ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับไม่ทราบฝ่าย บินอยู่เหนือที่ตั้งทางทหาร และสนามบินตามแนวชายแดนหลายแห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเจ้าของ
เวลา 10.00.น.
- 🔴 มีการหารือระหว่าง พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับ พลเอก โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ได้ข้อสรุปสำคัญเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด โดยมีประเด็นหลักที่ตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ดังนี้
1. หยุดยิง
2. ห้ามใช้กำลังต่อประชาชนคนไทย
3. หยุดเพิ่มเติมกำลัง
4. ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง
5. ฝ่ายไทยจะอำนวยความสะดวกในการนำทหารกัมพูชาที่ได้รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ออกจากพื้นที่การรบ
6. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการจัดตั้งชุดประสานงานเพื่อแก้ปัญหาตลอดแนวชายแดนในความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายละ 4 นาย สำหรับฝ่ายไทย ได้กำหนดให้ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เป็นหัวหน้าคณะฯ
7. ให้กำลังทุกส่วนลดการเผชิญหน้าทุกรูปแบบและรอผลการหารือของที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย – กัมพูชา ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เพื่อนำมากำหนดเป็นแนวทาง ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอีกครั้งหนึ่ง
เวลา 21.30 น.
- 🔴 พื้นที่ช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงเข้าใส่แนวกำลังฝ่ายไทย เกิดการปะทะจนถึงเวลา 22.00 นาฬิกา จึงยุติ
เวลา 22.00 น.
- 🔴 พื้นที่เขาพระวิหาร บริเวณภูมะเขือและห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด ไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามหลักสากลในการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง การยิงจากฝ่ายกัมพูชายังคงเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงช่วงเช้า วันที่ 30 กรกฎาคม 2568
🔴 กองทัพภาคที่ 2 ควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ยอมจำนน หลังเหตุปะทะที่ซำแต (29 ก.ค. 68) จากการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาที่ยิงอาวุธเข้าพื้นที่ไทย หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจสามารถควบคุมตัวทหารกัมพูชาได้ 18 นาย พร้อมอาวุธ โดยไม่มีการคุกคาม และพบผู้เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย ส่งรักษาที่โรงพยาบาล
🔴 ขณะนี้ ทหารฝ่ายกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของไทยในพื้นที่ปลอดภัย โดยได้รับอาหาร สิ่งของจำเป็น และการรักษาตามหลักมนุษยธรรมสากล โดยฝ่ายไทยจะส่งคืนศพทหารที่เสียชีวิตตามหลักปฏิบัติในภาวะสงคราม และยืนยันยึดมั่นอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด
📍สรุปความเสียหาย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 – 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
1. พลเรือน
เสียชีวิต 15 ราย
บาดเจ็บสาหัส 12 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต 15 นาย
บาดเจ็บ 175 นาย
ด้านรัฐบาลไทย
- 🔵 รัฐบาลไทยประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสักขีพยานในการเจรจา เพื่อให้ทราบว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
- 🔴 ตรวจพบการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน ในพื้นที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ในเวลา 05.17 น.
- 🔴 ฝ่ายกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยทูตฝ่ายกัมพูชา นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ และสื่อมวลชนเดินทางมายังจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยรองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีได้ร่วมสังเกตการณ์
📍สรุปความเสียหาย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 24 – 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
1. พลเรือน
เสียชีวิต 16 ราย
บาดเจ็บสาหัส 12 ราย
บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย
2. ทหาร
เสียชีวิต 15 นาย
บาดเจ็บ 177 นาย
ด้านรัฐบาลไทย
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ด้านรัฐบาลไทย
- 🔵 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา (30 กรกฎาคม 2568) ตั้งแต่ 21.00 น. จนถึงช่วงเช้า เวลา 07.00 น.วันนี้ (31 กรกฎาคม 2568) ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน
ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.00 น.
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบได้ที่ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
31 กรกฎาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
รวบรวมและเรียบเรียง โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา
ขอบคุณข้อมูลจาก
กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters
https://www.facebook.com/share/p/1CBUYbNw4M
https://www.facebook.com/share/p/18ZhbPLYNC
https://www.facebook.com/share/p/1C7hP1fDhy
https://www.facebook.com/share/p/1CcnTTvigL
https://www.facebook.com/share/p/16kxDaHxHq
https://www.facebook.com/share/p/1B8n41UZzQ
https://www.facebook.com/rtarfhq.pr/posts/pfbid02p1XdZbfN9KdFZfczk1L9svL9724mjVeyWK3f9jcJR4svftCHRFvTVmGJHqTeWD4l
https://www.facebook.com/share/p/1G3DXMFNaZ
กองทัพบก Royal Thai Army
https://www.facebook.com/share/p/1RiLf1RsmG