ออกหมายจับ ‘แก๊งโจร’ ปล้นนักข่าวรัสเซีย ในโรงแรมเมืองพัทยา
จากกรณี นายเดวิด แบลงค์ อายุ 26 ปี ชาวรัสเซีย อาชีพเป็นผู้สื่อข่าวในประเทศรัสเซีย วิ่งหนีตายออกมาจากโรงแรมแห่งหนึ่งย่านจอมเทียน ซอย 14 หมู่ที่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ตัวเจ้าตัวอยู่ในสภาพถูกล็อกกุญแจมือทั้งสองข้าง วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือภายในร้านกาแฟ ของสถานีปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าถูกเพื่อนร่วมชาติ ชาวรัสเซีย จับล็อกกุญแจมือ คลุมถุงดำ แล้วช่วยกันรุมทำร้าย แล้วส่งคลิปไปข่มขู่แฟนสาว ก่อนบังคับให้มีการโอนเงินบิตคอยน์ รวมทั้งนาฬิกาข้อมือแบรนด์ดัง รวมมูลค่า 2 ล้านบาท หลังคนร้ายได้ทรัพย์สินไป ผู้เสียหายก็วิ่งหนีตายมาขอความช่วยเหลือ ในขณะที่กลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับตัวได้ 1 คน ยังไม่ยอมให้การใด ๆ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ จ.ชลบุรี ได้ร่วมกันลงพื้นที่หาข้อมูลจากตัวผู้เสียหาย จนสามารถจับกุม นายแอนตัน โลโคทคอฟ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย และเป็นเพื่อนรู้จักกันกับผู้เสียหายรายนี้
โดยนายแอนตัน โลโคทคอฟ หลอกให้ผู้เสียหายเดินทางมายังเมืองพัทยา ก่อนจะถูกกลุ่มชาวรัสเซีย 4 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ขณะที่ นายแอนตัน โลโคทคอฟ หลังถูกจับกุม ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่เบื้องต้นตำรวจพบว่า เจ้าตัววีซ่าขาด (โอเวอร์สเตย์) เกิน 13 วัน ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยการอนุญาตสิ้นสุด” ส่วนข้อหาอื่นๆ ตำรวจอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิด กับ “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยการอนุญาตสิ้นสุด”
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในโรงแรมพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรวมถึงผู้เสียหาย น่าจะรู้จักกันหมด ซึ่งจากคำให้การของผู้เสียหายบอกกับตำรวจว่า ได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนสัญชาติเดียวกัน เพื่อมาหา นายแอนตัน โลโคทคอฟ ซึ่งเปิดห้องพัก 510 ชั้น 5 ของโรงแรมดังกล่าว เมื่อมาถึง ก็ถูกกลุ่มคนร้าย 2 คน สวมใส่ชุดดำ ได้บุกเข้ามาในห้อง แล้วทำร้ายร่างกาย จับใส่กุญแจมือ ก่อนจะบังคับโอนเงินสกุลดิจิทัล (บิดคอยน์) แถมยังปล้นเงินสดในตัว จำนวน 40,000 บาท และนาฬิกายี่ห้อดัง (โรเล็กซ์) รวมมูลค่ากว่า 2 ล้าน จากนั้นคนร้ายก็พากันหลบหนีไป ส่วนผู้เสียหายก็วิ่งหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ โดยตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว มีด้วยกัน 5 คน (จับกุมได้แล้ว 1) ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.