ยูเอ็นเตือน ‘โลกร้อน’ กระทบสิทธิในการมีชีวิตของผู้คน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่านายโฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมีผลกระทบร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ หากการจัดการเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง กลุ่มคนรวยและผู้มีอำนาจจะได้รับประโยชน์ ขณะที่คนจนและกลุ่มเปราะบางจะพลาดโอกาส
เติร์กย้ำว่า ความรับผิดชอบขององค์กรจากภาคส่วนเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้น “ไม่เพียงพออย่างสิ้นเชิง” นอกจากนั้น องค์กรเหล่านี้ยัง “เผยแพร่ข้อมูลเท็จ” และ “ข้อมูลบิดเบือน” ซึ่งรวมถึงการขายวิธีแก้ปัญหาที่เป็นเท็จ และการฟอกเขียว เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เติร์กเรียกร้องให้มีมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่า ประชาชนและองค์กร ที่ทั้งก่อและได้รับประโยชน์จากอันตรายต่อโลก “จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้”
ขณะเดียวกัน เงินทุนระหว่างประเทศสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่นั้น มาในรูปแบบของเงินกู้ ที่เพิ่มภาระหนี้ให้กับประเทศกำลังพัฒนา
ปัจจุบัน ประชากรราว 3,300 ล้านคนบนโลก อาศัยอยู่ในประเทศที่ใช้จ่ายเพื่อการชำระดอกเบี้ย มากกว่างบประมาณการศึกษาหรือสาธารณสุข ขณะที่ในประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา น้ำหนักของดอกเบี้ยหนี้มีสูงกว่าการลงทุนด้านสภาพอากาศ
เติร์กย้ำว่า กฎหมายสิทธิมนุษยชนอาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันความก้าวหน้าด้านสภาพภูมิอากาศ โดยยกตัวอย่างคำตัดสินล่าสุดของศาลสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ชี้แจงถึงพันธกรณีของรัฐต่าง ๆ ในการปกป้องสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม.
เครดิตภาพ : AFP