ทองเปิดตลาดดีดบวก 250 บาท รับแรงหนุนดอลลาร์อ่อน
วันนี้ (2 ส.ค. 68) เวลา 09.05 น. รายงานจาก สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาขึ้น 250 ทำให้ทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 51,400 บาทต่อบาททองคำ ขายออกบาทละ 51,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่ราคาทองคำรูปพรรณ รับซื้อบาท 50,376.68 บาท และขายออกบาทละ 52,300.00 บาท
ราคาทองคำแท่ง
รับซื้อ 51,400.00 บาท
ขายออก 51,500.00 บาท
ราคาทองรูปพรรณ
รับซื้อ 50,376.68 บาท
ขายออก 52,300.00 บาท
สำหรับราคาทองรูปพรรณ วันที่ 2 ส.ค. 2568 รวมบวกค่ากำเหน็จเริ่มต้นที่ 800 บาท มีรายละเอียดมีดังนี้
ทองครึ่งสลึง ราคา 6,438 บาท ค่ากำเหน็จ 800 บาท รวมราคาค่ากำเหน็จ 7,238 บาท
ทอง 1 สลึง ราคา 12,875 บาท ค่ากำเหน็จ 800 บาท รวมราคาค่ากำเหน็จ 13,675 บาท
ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคา 25,750 บาท ค่ากำเหน็จ 800 บาท รวมราคาค่ากำเหน็จ 26,550 บาท
ทอง 1 บาท ราคา 51,500 บาท ค่ากำเหน็จ 800 บาท รวมราคาค่ากำเหน็จ 52,300 บาท
ทอง 2 บาท ราคา 103,000 บาท ค่ากำเหน็จ 1,600 บาท รวมราคาค่ากำเหน็จ 104,600 บาท
ทอง 5 บาท ราคา 257,500 บาท ค่ากำเหน็จ 4,000 บาท รวมราคาค่ากำเหน็จ 261,500 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากภาษีทรัมป์ แม้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ส.ค. 2568 แต่สหรัฐฯ ได้เตรียมประกาศขึ้นภาษีกับสมาชิกหลักกลุ่ม BRICS เช่น อินเดีย (+25%) บราซิล (+50%) และยังคงกดดันจีน ส่วนตลาดมองว่าเป็นการจู่โจมเชิงการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งสร้างความกังวลต่อเนื่องในตลาดโลก ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ออ่นค่าลงจากแรงกดกันหลังทรัมป์ขู่จะรีดภาษีรัสเซีย-ยูเครน หากไม่ยุติวงคราม นอกจากนี้ ยังมีประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องกัมพูชาอาจเปิดฐานทัพให้สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านความมั่นคงในภูมิภาค
อย่างไรก็ตามภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. 2568 ทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ $3,440 หากผ่านได้จะลุ้นทดสอบ All Time High ส่วนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ $3,340 (51,350–51,400 บาท) และ $3,330 (51,200–51,300 บาท) สำหรับนักลงทุนที่ได้ราคาต้นทุนแถว 50,000 บาท ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยขายทำกำไร ส่วนผู้ที่ติดแถว 52,000–53,000 บาท มีลุ้นหลุดดอยหากราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหญ่ได้สำเร็จ