ลุยตรวจสอบเงิน 10 ล้าน เจ้าอาวาสวัดม่วง ไวยกรวัดเผย เบิกมาซื้อทอง
กรณีทรัพย์สินภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วงหายไปปริศนา โดยอ้างว่า มีเงินสด 10 ล้านบาท และ ทองคำน้ำหนักรวม 250 บาท ซึ่งวันนี้ช่วงเช้า ทางเจ้าอาวาสวัดม่วง ออกมายืนยันว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่เงินวัด เบิกมาเพื่อเตรียมนำไปทำบุญวันเกิด
3 ก.ค. 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า สำนักพุทธ กับ ตำรวจ ปปป. ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะต้องทราบข้อเท็จจริง ปล่อยผ่านไปไม่ได้ต้องว่ากันไปตามระบบ ขณะนี้กำลังไล่ตรวจสอบอยู่ แต่อยากพูดคุยเจ้าอาวาสโดยตรง เพราะต้องการข้อเท็จจริง จะเป็นเงินสะสม เงินที่เก็บออมมาตั้งแต่สมัยเริ่มบวช หรือ จะเป็นเงินที่ไหลมาจากไหนก็ต้องอธิบายให้ชัดเจน การเก็บเงินสดไว้ไม่เข้าธนาคาร มันมีเหตุและผล แต่ก็ต้องอธิบายให้กระจ่างชัด
ส่วนที่เจ้าอาวาสออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชน ก็เป็นสิทธิ์ของท่านที่ทำได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ยืนยันว่า เราทำอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติก็ไม่มีอะไร แต่หากตรวจพบข้อสงสัย หรืออะไรที่ไม่ถูกกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าสำหรับเงินก้อนนี้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ทางไวยาวัจกรของวัด เป็นคนบอกให้เจ้าอาวาสวัดม่วงนำไปลงทุนทองคำ เก็บไว้ในธนาคารก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่สุดท้ายเงินกลับหาย เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ทางตำรวจโรงพักกำลังทำอยู่ แต่สิ่งที่เราสงสัย คือ เงินก้อนนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร
หากเงินดังกล่าวเป็นของวัด แล้วนำออกมาลงทุน ก็มีความผิด เพราะเป็นเงินวัด ถ้าจะเอาออกมาต้องนำไปทำประโยชน์ให้วัด หรือ ชาวบ้าน สร้างโรงเรียน บูรณะซ่อมแซมวัด แต่ต้องมีหลักฐานชี้แจง ไม่ใช่เอาเงินออกมาซื้อทองเพื่อเก็งกำไร ซึ่งจะอาจใช้เวลาในการตรวจสอบสักระยะ เพราะตอนนี้ทางตำรวจ ปปป. เองก็มีเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบวัดต่างๆหลายวัด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ว่า เงินและทองคำจำนวนดังกล่าว ถือเป็นจำนวนที่เยอะหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องที่พระจะมีเงินเยอะหรือน้อย เราสามารถมองภาพวัดจนและวัดรวยได้ ถ้าวัดรวยเงินจำนวนนี้ถือว่าไม่เยอะ แต่วัดม่วง ในมุมมองของตน เชื่อว่าคงไม่ได้มีเงินเยอะมากมายขนาดนั้น ดังนั้นสิ่งที่น่าสงสัยก็คือ เงินนี้มาจากไหน และการที่เจ้าอาวาสบอกว่าเป็นเงินส่วนตัว ก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นเงินอะไร