มหาวิทยาลัยไทย กุญแจสำคัญขับเคลื่อน Soft Power อย่างยั่งยืน
ผศ.ดร.พรชนิตว์ แก้วเนตร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นที่สะท้อนภาพชัดว่า คนไทยมี “ความเชื่อมั่นสูง” ว่า Soft Power คือเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ ที่ไทยสามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมองเห็นโอกาส แต่สิ่งที่ยังคงเป็น “จุดเปราะบาง” คือความกังวลในเรื่องการจัดการ สื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์ ของทั้งภาครัฐและเอกชน ที่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนให้ทันโลกและแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึง Soft Power ที่คนไทยมองว่ามีศักยภาพสูง กลับพบว่าคะแนนสนับสนุนใน 3 อันดับแรกยังอยู่เพียงในช่วง 50-60% เท่านั้น ซึ่งสะท้อนความรู้สึก “เห็นด้วยพอสมควร” แต่ยังไม่ถึงระดับ “มั่นใจเต็มที่” ว่าประเทศไทยจะผลักดัน Soft Power ให้สำเร็จได้จริง
หนึ่งในความคาดหวังที่โดดเด่นจากผลสำรวจคือ บทบาทของมหาวิทยาลัยไทย ที่ถูกมองว่าเป็น กลไกกลางสำคัญ ในการพัฒนาและต่อยอด Soft Power โดยเฉพาะใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. การสร้างองค์ความรู้และงานวิจัยเชิงลึก
2. การเป็นเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับต่างชาติ
3. การพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทาง ที่ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงของโลก
ทั้งนี้ นักศึกษายังถูกระบุชัดว่าเป็น “กำลังหลัก” ในการเป็นตัวแทนของ Soft Power รุ่นใหม่ เป็นผู้สร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารกับโลกผ่านสื่อดิจิทัลได้อย่างทรงพลัง
อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัยไทยยังไม่พร้อมเต็มร้อย โดยเฉพาะในแง่ของโครงสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบัน การเข้าถึงทุนวิจัย และความต่อเนื่องของการพัฒนา จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ภาคการศึกษาไทยต้อง สร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ พร้อมยกระดับคุณภาพอย่างจริงจัง เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็น “สะพานเชื่อม Soft Power ไทยสู่เวทีโลก” ได้อย่างยั่งยืน