Edwin Chen ผู้ก่อตั้ง Surge AI รายได้พันล้าน ไม่ง้อ VC
อีกเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ไฟแรงในวงการเทคโนโลยีที่เรียกได้ว่ากำลังถูกจับตาอย่างมากในซิลิคอนแวลลีย์ นั่นคือ "Edwin Chen" (เอ็ดวิน เฉิน) ผู้ก่อตั้งและ CEO วัย 37 ปีของ Surge AI หนึ่งใน CEO สตาร์ทอัปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและยังคงควบคุมชะตาชีวิตของบริษัทได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากไม่ได้ระดมทุนจาก Venture Capital (VC) เลยแม้แต่เซ็นต์เดียว
เรื่องราวของ Edwin Chen สามารถโยงได้กับดาวรุ่งวงการ Data Labeling และ AI อย่าง Scale AI ที่เพิ่งมีข่าวใหญ่โตเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2025 ว่า Meta ได้ลงทุนกับ Scale AI กว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าบริษัทเกือบ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว แต่วันนี้เป็นทีของบริษัทที่ชื่อว่า Surge AI ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมากนักในตอนแรก ล่าสุดได้เปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หมายความว่า Surge AI มีขนาดใหญ่กว่า Scale AI และผู้เล่นรายอื่นๆ ในตลาดเสียอีก
ที่สำคัญกว่านั้นคือ บริษัท Surge AI แห่งนี้ไม่ได้ระดมทุนจาก Venture Capital (VC) เลยแม้แต่เซ็นต์เดียว แต่ได้ "บูทสแตรป" (bootstrapped) ก่อร่างตัวเองขึ้นมาด้วยรายได้ของตัวเองทั้งหมด ทำให้ Edwin Chen ถูกยกเป็นหนึ่งในสุดยอด CEO สตาร์ทอัปที่ประสบความสำเร็จแบบที่น้อยคนจะทำได้
***เคล็ดลับความสำเร็จของ Edwin Chen
ดีกรีของ Edwin Chen นั้นไม่ธรรมดา ก่อนที่จะมาสร้าง Surge AI หนุ่ม Chen เคยเป็นวิศวกรด้านการเรียนรู้ด้วยเครื่องหรือ Machine Learning ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook, Google และ Twitter เดิม ที่นั่นเองที่ CEO ดาวรุ่งได้เห็นปัญหาที่ไม่มีใครพูดถึงอย่างจริงจัง นั่นคือการเข้าถึงข้อมูลคุณภาพสูงสำหรับการฝึกฝนโมเดล AI ซึ่งเคยเป็นเรื่องที่ "เป็นไปได้ยาก"
Chen เล่าประสบการณ์หนึ่งเมื่อครั้งทำงานที่ Twitter เวลานั้น Chen ต้องการสร้างระบบจำแนกความรู้สึก (sentiment classifier) ซึ่งเป็นงานง่ายๆ ที่ต้องการทวีต 10,000 ข้อความที่ถูกระบุว่าเป็นข้อความเชิงบวกหรือลบ แต่ระบบข้อมูลของมนุษย์ในตอนนั้นมีแค่คนสองคนจาก Craigslist แถมเครื่องมือก็ไม่มีคุณภาพ และข้อมูลที่ได้กลับมาก็ใช้งานแทบไม่ได้ เพราะระบบไม่เข้าใจสแลงหรือแฮชแท็ก
สุดท้าย Edwin Chen ต้องไปนั่งติดป้ายข้อมูลเองเป็นสัปดาห์ เพราะมันเร็วกว่าและดีกว่ามาก และนี่คือจุดที่ทำให้ Edwin เห็นชัดว่าอุตสาหกรรมต้องการโซลูชันด้านข้อมูลที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
***คุณภาพต้องมาก่อน
Edwin Chen ก่อตั้ง Surge AI ขึ้นในปี 2020 ทันทีหลังจากที่โมเดล GPT-3 เปิดตัว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Chen เห็นศักยภาพยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรม โดย Chen มุ่งเติมสิ่งที่ทำให้ Surge AI แตกต่างคือการเน้นที่ "คุณภาพ" เหนือสิ่งอื่นใด
Edwin Chen ยืนยันว่าคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในบริษัท และ Chen จะยอมเลื่อนกำหนดเวลาหรือแม้กระทั่งปฏิเสธโครงการ หากรู้สึกว่าไม่สามารถส่งมอบข้อมูลที่มีคุณภาพได้ ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นตลาดที่ "ซับซ้อน" สวนทางกับคู่แข่งบางรายที่เริ่มต้นด้วยการติดป้ายข้อมูลที่เรียบง่าย เช่น การระบุป้ายหยุดรถสำหรับเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตนเอง แต่ Edwin ต้องการมุ่งเน้นไปที่ "พฤติกรรมของ AI Agents ที่ซับซ้อนและมีความฉลาด" ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพราะ AI Agents กำลังเป็นที่นิยมในโลกเทคโนโลยี
Chen ยังวิจารณ์ว่าบริษัทคู่แข่งส่วนใหญ่เป็นเพียง "ร้านรับจ้าง" (Body Shop) ที่เน้นปริมาณ โดยไม่มีเทคโนโลยีในการวัดหรือปรับปรุงคุณภาพของข้อมูลเลย แถมยังจวกว่าบริษัทกลุ่มนี้เลือกแค่รับคนที่มีวุฒิปริญญาเอกเข้ามาแล้วส่งต่อไปยังบริษัท AI ต่างจาก Chen ที่ใช้อัลกอริทึมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ Surge AI ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนมากในการจับคู่ผู้ติดป้ายข้อมูลกับโครงการที่เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญ
Edwin Chen ชี้ว่าการมีวุฒิปริญญาเอกไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้ฝึกโมเดลที่ดีที่สุดเสมอไป ที่ผ่านมา Chen จะวัดผลจากประสิทธิภาพจริง คล้ายกับระบบแนะนำของ YouTube ซึ่งส่งผลให้อัตราการลาออกของพนักงานต่ำ คุณภาพสูง และลูกค้าพึงพอใจ
แนวคิดนี้ทำให้ Chen ทำกำไรให้บริษัทตั้งแต่เดือนแรกโดยไม่ต้องพึ่ง VC จุดนี้ Chen ชี้ว่า Surge AI ถูกก่อตั้งบนความเชื่อมั่นในแนวคิดที่ว่า คนส่วนใหญ่ระดมทุนเพื่อ "สถานะ" ไม่ใช่เพราะเชื่อในผลิตภัณฑ์จริง ๆ ซึ่งเมื่อ Chen ได้สร้าง MVP (Minimum Viable Product) หรือผลิตภัณฑ์เวอร์ชันแรกขึ้นมาเองในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และโชคดีที่มีความต้องการข้อมูลคุณภาพสูงมหาศาล Chen จึงสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่เดือนแรก และไม่จำเป็นต้องมีทีมขาย เพราะบริษัทต้องการลูกค้าที่เข้าใจและเชื่อในคุณค่าของข้อมูลคุณภาพสูงที่ Surge AI มอบให้
***จิ๋วแต่แจ๋ว
Edwin Chen เชื่อว่า 90% ของคนในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มักทำงานที่ไม่เกิดประโยชน์ Chen บอกว่าสามารถสร้างบริษัทให้เติบโตได้เร็วกว่า 10 เท่า ด้วยทรัพยากรและคนเพียง 10%
จุดเปลี่ยนสำคัญของ Edwin Chen คือช่วงหลังจากที่ ChatGPT เปิดตัว ซึ่งทำให้ผู้คนเห็นคุณค่าของข้อมูลมนุษย์และเมื่อ Scale AI ถูก Meta เข้าซื้อกิจการ ลูกค้าจำนวนมากก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้บริการของ Surge AI ซึ่ง Edwin มองว่าเป็นการ "เปิดโลก" ให้ลูกค้าได้เห็นว่าข้อมูลคุณภาพสูงที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ความหวังสูงสุดของ Edwin Chen คือการช่วยให้โลกมี AGI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถทางสติปัญญาเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ สามารถทำงานได้หลากหลายภารกิจและปรับตัวเรียนรู้ได้เหมือนมนุษย์ ซึ่งแตกต่างจาก AI ในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะด้าน ส่วนตัวของ Edwin Chen มองว่า Surge AI เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้บริษัทชั้นนำสร้างสรรค์ AI รุ่นใหม่ ๆ ได้
Edwin Chen ยืนยันด้วยว่าจะไม่ขายบริษัท แม้จะได้ราคา 3 หมื่นล้านหรือ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม เพราะตอนนี้ตัวเขามีทุกสิ่งที่ต้องการแล้ว คือบริษัททำกำไรได้ มีอิสระในการควบคุม และมีทรัพยากรที่จะทำทุกสิ่งที่ต้องการ
สำหรับ Edwin Chen แล้ว สิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดคือการที่ลูกค้าสามารถเปิดตัวโมเดลใหญ่ๆ ได้สำเร็จ และบอกว่า "ขาด Surge AI ไม่ได้เลย"
เรื่องราวของ Edwin Chen และ Surge AI จึงเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับวงการเทคโนโลยี เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยแนวคิดที่แตกต่าง ขอเพียงแต่ต้องมุ่งเน้นคุณภาพ และสร้างสรรค์สิ่งที่เชื่ออย่างแท้จริง โดยไม่จำเป็นต้องเดินตามเส้นทางเดิมๆ ของการระดมทุนจาก VC เสมอไป.
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO