จับ 5 สมุนเครือข่าย "มุ้ย ไทรโยค" พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดทรัพย์ 408 ล้าน

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

ผู้ว่าการกาญจนบุรี ร่วม นบ.ยส.17 ตำรวจกาญจน์ สืบสวนจับ 5 สมุนเครือข่าย "มุ้ย ไทรโยค" พ่อค้ายารายใหญ่ มีชื่อพูดถึงใน"คดีดีเจเตเต้" ยึดทรัพย์ 408 ล้าน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.เฉลิมเกียรติ ทองศิริ รอง ผบ.นบ.ยส.17 พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก รอง ผบ.พล.ร.9 พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ รอง ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ผกก.สภ.ในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี อีกหลายสถานี ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสนับสนุนค้ายาเสพติดจำนวน 5 ราย โดยถูกออกหมายจับร่วมกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและฟอกเงิน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 408 ล้านบาท

โดย นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แถลงว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้แผน"Seal Stop Safe" ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2568 ในพื้นที่ 14 จังหวัดชายแดน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่เร่งรัดการสืบสวนและกวาดล้างเครือข่ายค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้ารายใหญ่ และระดับเครือข่ายรูปแบบองค์กรอาชญากรรม โดยสืบสวนพฤติการณ์การกระทำความผิดเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ นายสุทัศน์ เดชคำ หรือ"มุ้ย ไทรโยค" ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ ปปส.
โดยขยายผลจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 66 ทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ สภ.สำรอง พร้อมของกลางยาบ้า 1,800 เม็ด และอาวุธปืน กระทั่งสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายซึ่งทำหน้าที่จัดการเงินยาเสพติดในเครือข่ายดังกล่าว จำนวน 4 ราย ดังนี้

1. นางสาวสมใจ อายุ 37 ปี อยู่ใน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 409/2568 ลง 9 ก.ค. 68 ในความผิดฐาน "สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน"
2. นายสุรวุฒิ อายุ 30 ปี อยู่ใน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 365/2568 ลง 23 มิ.ย. 68 ในความผิดฐาน "สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน"
3. นายสุบิน หรือ เอกสยาม อายุ 29 ปี อยู่ใน ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 343/2568 ลง 10 มิ.ย. 68 ในความผิดฐาน "สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน"
4. นายศุภโชค อายุ 33 ปี ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 342/2568 ลง 10 มิ.ย. 68 ในความผิดฐาน "สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน"
และขยายผลจากเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 67 ทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้า 24,400 เม็ด และยาอี 1,600 เม็ด กระทั่งสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายซึ่งทำหน้าที่จัดการเงินยาเสพติดในเครือข่าย จำนวน 1 ราย ดังนี้
1. นายทศพล อายุ 33 ปี อยู่ใน ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 389/2568 ลง 2 ก.ค. 68 ในความผิดฐาน "สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน"
ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งห้าราย ตาม พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 125(1),(4) และ พรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3(1),มาตรา 5
ทำการตรวจยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2564 ดังนี้

1. รถยนต์ จำนวน 10 คัน ราคาประเมิน 6,250,000 บาท 2. รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ราคาประเมิน 210,000 บาท 3. แหวนทอง จำนวน 1 วง ราคาประเมิน 12,000 บาท 4.เงินสด จำนวน 48,660 บาท 5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ราคาประเมิน 90,500 บาท รวมราคาทรัพย์เจาะจง รวมทั้งสิ้น 6,611,160 บาท (หกล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยหกสิบบาท)
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งห้าราย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีแต่ละคน คิดเป็นทรัพย์มูลค่า ดังนี้ นางสาวสมใจ ฟักทอง เงินหมุนเวียนในบัญชีทั้งหมด จำนวน 239,732,145 บาท (สองร้อยสามสิบเก้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นสองพันหนึ่งร้อยสี่สิบห้าบาท)
นายสุรวุฒิ สุดใจ เงินหมุนเวียนในบัญชีเฉพาะธนาคารเดียว จำนวน 23,594,827 บาท (ยี่สิบสามล้านห้าแสนเก้าหมื่นสี่พันแปดร้อยยี่สิบเจ็ดบาท)
นายสุบิน ทองบวรกุล เงินหมุนเวียนในบัญชีเฉพาะธนาคารเดียว จำนวน 3,662,612 บาท (สามล้านหกแสนหกหมื่นสองพันหกร้อยสิบสองบาท)
นายศุภโชค ชาวท่าโขลง เงินหมุนเวียนในบัญชีเฉพาะธนาคารเดียว จำนวน 8,945,696 บาท (แปดล้านเก้าแสนสี่หมื่นห้าพันหกร้อยเก้าสิบหกบาท)
นายทศพล สุขสว่าง เงินหมุนเวียนในบัญชีทั้งหมด จำนวน 125,892,830 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านแปดแสนเก้าหมื่นสองพันแปดร้อยสามสิบบาท)
ราคาทรัพย์มูลค่า รวมทั้งสิ้น 401,828,110 บาท
โดย ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ถูกดำเนินคดีตาม พระราชบัญญัติประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 และ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายสุทัศน์ เดชคำ หรือ "มุ้ย ไทรโยค" เคยมีชื่อถูกพูดถึงในคดี"ดีเจเตเต้" ซึ่งมีสัมพันธ์กับน้องน้ำ ที่ดีเจเตเต้เข้าไปเกี่ยวกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : จับ 5 สมุนเครือข่าย "มุ้ย ไทรโยค" พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดทรัพย์ 408 ล้าน