หุ้น ‘เอเชีย-ญี่ปุ่น’ เตรียมพุ่ง! หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “หุ้นเอเชีย” และ “สกุลเงิน” ของภูมิภาคมีแนวโน้มสดใสหลังจากที่เจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงเมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าเฟดกำลังพิจารณา “ลดอัตราดอกเบี้ย” ในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนก.ย.นี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดด้วยระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกของปีนี้ ในขณะเดียวกัน ค่าเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ก็หยุดการขาดทุนต่อเนื่องที่ยาวนานถึง 6 วันได้สำเร็จ เนื่องจากคำพูดของพาวเวลล์ทำให้ “ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง” ส่งผลดีต่อสกุลเงินของประเทศเหล่านี้
เจอรัลด์ กาน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนจาก Reed Capital ประเทศสิงคโปร์ มองว่าตลาดหุ้นในเอเชียและญี่ปุ่นจะได้รับอานิสงส์อย่างมากหากเฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ทุกตลาดหุ้นในเอเชียจะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน หากนักลงทุนคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า แม้เงินเยนจะแข็งค่าขึ้น แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของค่าเงินอย่างใกล้ชิด ทำให้ความผันผวนของเงินเยนมีจำกัดและไม่กระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก
เหอเป่ เฉินนักวิเคราะห์จาก Vantage Markets มองว่าถ้อยแถลงของพาวเวลช่วยปิดรอยร้าวในตลาดเอเชียที่กำลังสั่นคลอน แม้จะไม่ได้เป็นการรับประกันว่าตลาดจะฟื้นตัวอย่างถาวร แต่การฟื้นตัวครั้งนี้น่าจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดใน ตลาดเทคโนโลยี โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและไต้หวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนค่อนข้างเปราะบาง
เจมี่ ฮาลส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Senjin Capital มองว่าท่าทีของเฟดที่มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยจะส่งผลดีต่อตลาดโลกในระยะสั้น เพราะจะทำให้เงินทุนไหลออกจากสหรัฐเพื่อไปหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าในภูมิภาคอื่น และทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
โดยทั่วไปแล้ว เมื่ออัตราดอกเบี้ยในสหรัฐลดลง การลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์ก็จะน่าสนใจน้อยลง ทำให้นักลงทุนขายดอลลาร์เพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ
สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างชัดเจน เนื่องจากท่าทีของคาซุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ที่ยังคงแข็งกร้าว ทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งส่งผลเสียต่อบริษัทส่งออกรายใหญ่และบริษัทที่มีกำไรจำนวนมากจากต่างประเทศ แต่ในทางกลับกันกลับเป็น ผลดีต่อธุรกิจขนาดเล็ก ที่ดำเนินกิจการภายในประเทศและต้องนำเข้าวัตถุดิบเป็นเงินดอลลาร์
อ้างอิง Bloomberg