หญิงไต้หวันพบก้อนเนื้อในปอด ทิ้งไว้หนึ่งปี กลายเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
หญิงไต้หวันวัย 30 ปี พบก้อนเนื้อในปอด ระหว่างการตรวจสุขภาพ ทิ้งไว้หนึ่งปี รอยโรคที่แพร่กระจาย กลายเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
สำนักข่าวอีทีทูเดย์รายงาน กรณีทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน ซึ่งเตือนถึงหากพบอาการผิดปกติใด ๆ ระหว่างการตรวจสุขภาพแม้จะเล็กน้อยก็อย่ามองข้าม
แพทย์ฉุกเฉินเว่ย จื้อเว่ย ได้เล่าเรื่องราวของครูหญิงวัย 30 ปี ที่เข้ารับการตรวจ CT scan ปริมาณรังสีต่ำด้วยค่าใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งพบก้อนเนื้อในปอดระหว่างการตรวจสุขภาพ มีลักษณะเป็น "ก้อนเนื้อละเอียด" ทางด้านแพทย์แนะนำให้ติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอไม่มีอาการเจ็บปวดใด ๆ เธอจึงไม่ได้กังวลหรือใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก ประมาณหนึ่งปีต่อมา เธอเริ่มมีอาการไอเล็กน้อย เจ็บหน้าอก และหายใจลำบากเมื่อขึ้นบันได เธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ
นพ.เว่ย จื้อเว่ย ตกใจมากหลังจากเอกซเรย์ แม้ว่าครูผู้นี้จะมีอายุเพียง 30 ปี แต่เธอกลับมี "เนื้องอกจำนวนมาก" ในปอด ครอบคลุมปอดทั้งสองข้าง การตรวจเพิ่มเติมพบรอยโรคที่แพร่กระจายไปยังสมองและต่อมหมวกไต ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งปอดชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมาระยะสุดท้าย
นพ.เว่ย จื้อเว่ย เตือนเราว่าหลังจากตรวจแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับสองประเด็นสำคัญ ประการแรกคือขนาดของก้อนเนื้อ หากก้อนมีขนาดเล็กกว่า 0.5 ซม. และคุณสามารถติดตามตรวจอย่างสม่ำเสมอได้ประมาณสองปีเพื่อยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงขนาด แสดงว่าก้อนเนื้อนั้นเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง "ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็มีการสะสมของแคลเซียมบ้างไม่ใช่หรือ?"
นพ. เว่ย จื้อเหว่ย ยังเตือนด้วยว่า หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร แพทย์จะสงสัยอย่างยิ่งว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของมะเร็ง หากเป็นเพียงการสะสมแคลเซียม ขอบมักจะค่อนข้างสะอาด อย่างไรก็ตาม หากเป็นรอยโรคอักเสบหรือมะเร็ง ก้อนเนื้อจะขยายออกไปเกินบริเวณโดยรอบ มีลักษณะ "คล้ายกระจกฝ้าหรือฝ้ามัว" หรือมีรูปร่างหรือจุดเชื่อมต่อกับหลอดเลือดที่ผิดปกติ ในกรณีเช่นนี้ การตรวจชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หญิงไต้หวันพบก้อนเนื้อในปอด ทิ้งไว้หนึ่งปี กลายเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th