หมอบี แจงเหตุถวายเงินสดให้หลวงพ่อแทนการโอน ทำจดหมายเป็นหลักฐาน แต่ทำไมมีตราปั๊มของวัด

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

รายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 โดยพิธีกรหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เชิญ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ มาตอบประเด็นร้อนถึงเรื่องการเป็นสะพานบุญให้คนบริจาคเงินทำบุญกับ หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ แต่ถูกกล่าวหาว่านำเงินที่คนทำบุญเอามาใช้ส่วนตัว และถูกตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงต้องถอนเงินสดมาถวายให้หลวงพ่อแทนที่จะโอนเงิน อีกทั้งทำจดหมายถวายปัจจัยเงินหลักล้านให้กับหลวงพ่อเพื่อเป็นหลักฐาน แต่ทำไมถึงมีตราปั๊มของวัด

เมื่อหนุ่มถามว่าเกิดอะไรขึ้น ที่มาที่ไปมาจากไหน หมอบี ชี้แจงว่า จริงๆ เป็นความเข้าใจผิดของคนไม่กี่คน คนที่เข้าใจผิดคือคนรอบตัว เข้าใจไปเองว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ รู้ว่าเขามีหลักฐาน แต่หลักฐานที่ว่าเป็นอะไรยังไงมากกว่า หลักฐานในสิ่งที่เราทำมันชัดเจน เห็นได้ด้วยตา สัมผัสด้วยมือ อันนั้นสำคัญกว่า เชื่อว่าไม่ว่าเขาจะเข้าใจผิดอะไร เขาได้สัมผัสด้วยตัวเองจริงๆ ว่าสิ่งที่ทำเกิดประโยชน์มากมาย เห็นคนที่รอดชีวิต เขาได้ลงมือทำเอง เห็นเองว่าช่วยเหลือเยอะแยะมากมายขนาดไหน

ด้าน หนุ่ม กรรชัย บอกว่า เข้าใจในเจตนาดีของหมอบีที่อยากช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันนอกเหนือจากการช่วยเหลือ เพราะตอนนี้บีถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่ชักเงินออกจากเงินทำบุญออกไป มีกระบวนการตรวจสอบจากกองปราบ แต่ที่คุยกันคือสังคมสงสัยว่าบริจาคเงินมา เงินไปถึงวัด 100% ไหม ถึงหลวงพ่อ 100% จริงไหม เพราะมีคนกล่าวอ้างว่าให้เงินไม่ครบ จะชี้แจงยังไง

จากนั้น หมอบี บอกว่า ยืนยันตามกระบวนการของเราว่ามันมีที่ถวายหลวงพ่อ โดยปกติ 95 หรือ 99 เปอร์เซ็นต์ นอกเหนือจากนั้นเป็นสิ่งที่เราถวายงานตามดำริหลวงพ่อ ทุกโครงการหลวงพ่อรับทราบหมด จะมี 2 ประเภท ประเภทนึงคือหลวงพ่อสั่งโดยตรง อีกแบบนึงคือฉุกเฉินเร่งด่วนแล้วไปบอกท่าน

หนุ่ม กรรชัย ถามว่าทำไมไม่โอนเข้าบัญชี ทำไมต้องเอาเป็นเงินสดให้หลวงพ่อ หมอบีบอกว่า เพราะว่าความคล่องตัวในการทำงาน ความไม่ยุ่งยาก เพราะสมัยแรกๆ ทำกันเล็กๆ ก็โอนเงินเข้าบัญชีมา แต่บังเอิญมันใหญ่พุ่งขึ้นมาตอนช่วงโควิด เพราะคนเห็นในสิ่งที่เราทำ มีการรับมอบ ส่งเอกสาร พอคนเห็นก็เลยกระโดดขึ้น

แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจ เราปรับปรุงพัฒนาระบบ ก็ปรับมาเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าการเบิกจ่ายมันจะโน่นนี่นั่น เราก็ค่อยๆ ปรับ จนกระทั่งมีดำริว่าเป็นแบบนี้ๆ มั้ย คือเราไม่ได้เป็นมืออาชีพตั้งแต่แรก มันเป็นจิตอาสา เพื่อนชวนทำ พอปรับไปเรื่อยๆ เราก็ปรับปรุงพัฒนาไปเรื่อยๆ

หนุ่มถามว่าแล้วโอนมันไม่ง่ายกว่าเหรอ เพราะมันพิสูจน์ได้ ตรวจสอบได้ แต่การที่อยู่ดีๆ เงินเข้ามาหลักล้าน เท่าที่ทราบมา เงินก้อนใหญ่สุดที่มีการเบิกไป 9 ล้านกว่าบาท แล้วมีการถวาย มันเป็นเงินจำนวนเยอะ ทำไมถึงไม่โอนไป คือพูดง่ายๆ เงินโอนเข้ามา ให้คนไปถอนเงินออกมา พอถอนเงินเสร็จแล้วถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อจะเป็นคนเอาเงินอันนี้โยนกลับมาคืนให้

หมอบีบอกว่า “น้อยมากครับ ต้องบอกว่าที่คุยเป็นประเด็นมันน้อยมากๆ ที่ท่านเอามาคือน้อยมากๆ” หนุ่มถามต่อว่า แล้วเงินที่คุณเอาไปใช้เป็นเงินที่คุณเจียดไปใช้ก่อน หมอบีแย้งว่า “ไม่ใช่เจียดไปใช้ก่อน โอนตรงไงครับ แปลว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ร่วมบุญกันมา มันใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ” หนุ่มถามต่อว่าแล้วเงินที่ให้หลวงพ่อไปเป็นเงินอะไร หมอบีบอกว่า ก็ทำบุญทั่วไป

หนุ่มถามต่อว่าแล้วเงินที่เอาไปให้หลวงพ่อ ที่ถอนมาที 9 ล้าน 5 ล้าน อันนั้นเป็นเงินส่วนไหน หมอบีบอกว่า ย้อนให้ฟังก็ได้ว่ามันมีเงินเหมือนเป็นแทงก์ๆ นึงที่คนทำบุญทั่วไปเขาศรัทธาในสิ่งที่เราทำ หลวงพ่อจะเอาไปใช้อะไรตรงไหนยังไงมันเกิดประโยชน์เกิดกุศลทั้งหมดมาใส่ หนุ่มถามอีกว่าแล้วตอนที่เรี่ยไรเงิน 9 ล้าน ไปบอกว่ายังไง หมอบีบอกว่า ถ้าเป็นทั่วไปเลยก็บอกว่าเราเป็นสะพานบุญให้หลวงพ่ออลงกต ใครอยากโอนก็โอนมา

หนุ่ม กรรชัย ถามอีกว่า ตอนที่สัมภาษณ์กับมดดำ คุณเอาเงินไปถวายหลวงพ่อหรือให้กับวัด หมอบีบอกว่า หลวงพ่อครับ ยืนยัน คนรู้อยู่แล้วว่าทำบุญกับหลวงพ่อ เราไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวัด ส่วนหลวงพ่อจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่เกี่ยวกับวัด

หนุ่ม กรรชัย ให้ทีมงานขึ้นรูปใบอนุโมทนาบัตร ก่อนบอกว่า บีรู้รึเปล่าว่าการทำบุญให้กับบุคคลๆ หนึ่งไม่จำเป็นต้องออกใบอนุโมทนาบุญแบบนี้ ยกเว้นทำบุญให้กับวัดเท่านั้น แต่อันนี้เป็นใบอนุโมทนาที่ปั๊มตราวัด เพราะฉะนั้นเงินต้องเข้าสู่วัด แต่บีบอกว่าเงินเข้าสู่หลวงพ่อ หลวงพ่อโดนนะ หมอบีบอกว่า มันเป็นกระบวนการทำงานที่หลวงพ่อก็เมตตาว่า คนทำบุญแล้วอยากได้ใบอนุโมทนาบุญ

หนุ่ม กรรชัย ถามว่า สิ่งที่ต้องถามคือ คุณไปเรี่ยไรเงินมา แต่มันมีใบอนุโมทนาบัตรของวัดออกมา ซึ่งมันไม่ใช่ของหลวงพ่อไง แต่พอคุณเอาไปให้หลวงพ่อ มันย้อนแย้งกับใบอนุโมทนาบัตร ก่อนจะขอให้ทีมงานขึ้นเอกสารขอถวายปัจจัยให้หลวงพ่อเป็นเงินหลักล้าน ซึ่งมีตราประทับของวัดพระบาทน้ำพุ และบอกว่าแสดงว่าอันนี้เป็นของวัดนะ แต่ในขณะเดียวกันเงินถูกเข้าไปอยู่ที่หลวงพ่อ แล้วจะยังไงตอนนี้ คุณถวายหลวงพ่อไปแล้วก็แล้วกัน ส่วนหลวงพ่อจะปั๊มตรานี้ก็เรื่องของหลวงพ่อ หลวงพ่อต้องเอาไปแก้ต่างเองถูกไหม

หมอบี บอกว่า คือเราถวายท่านไปแล้ว เราทำงานจิตอาสา เราแค่อยากทำเอกสารให้ชัดเจนเป็นหลักฐานไว้ ทำให้คนมั่นใจ หนุ่มถามว่าเป็นเรื่องของทางวัดที่ปั๊มตรานี้ถูกไหม หมอบีบอกว่า มันเป็นเรื่องเอกสารที่เราทำอาจไม่รอบคอบ ไม่เป็นมือโปร

หนุ่มถามว่ากังวลใจไหม เอกสารแบบนี้เยอะมากนะ หมอบีบอกว่า ใช่ครับ เพราะว่าเราต้องทำทุกครั้งที่ถวายเงินหลวงพ่อ ส่วนเอกสารมีน้องช่วยกันทำ แต่ยื่นให้กับหลวงพ่อ หนุ่มถามว่าแล้วตราปั๊มใครเป็นคนปั๊ม หมอบีบอกว่า จริงๆ ก็คือทีมที่เขาทำให้สวยงาม หนุ่มแย้งว่าไอ้นี่ไม่ใช่สวยงามนะ ก่อนจะหันไปถามทนายว่า อันนี้รู้ความหมายใช่ไหม หมอบีบอกว่าเข้าใจ

หนุ่มบอกว่าเพราะฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่หลวงพ่อต้องออกมาตอบ หมอบีบอกว่า เข้าใจ แต่เราทำด้วยเจตนาอันดีอันบริสุทธิ์ เราไม่มีการแก้ไข มันเป็นสิ่งที่เราทำด้วยเพราะเราไม่รู้ชัดเจน ไม่ได้เป็นนักกฎหมาย เราเป็นจิตอาสา ทุกคนร่วมกันทำเพื่อให้เป็นเรื่องราวดีๆ ขึ้นมา เห็นหลวงพ่อทำโรงเรียน มันเห็นชัดเจนว่าสิ่งที่ทำแล้วสัมผัสได้

หนุ่มจี้ถามต่อว่าปกติตราปั๊มอยู่ที่ใคร หมอบีบอกว่าผมไม่ทราบว่ามันมีอะไรยังไงตรงไหน ถามว่าตอนไปยื่นหลวงพ่อปั๊มเองไหม หมอบีบอกว่า มันแล้วแต่ อันนี้ตอบไม่ได้ เอาเป็นว่าที่ทำก็ทำให้มันชัดเจนสวยงาม โดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องเซนซิทีฟ หนุ่มถามต่อว่าลายเซ็นนั้นลายเซ็นใคร หมอบีบอกว่าลายเซ็นหลวงพ่อ หนุ่มถามว่าหลวงพ่อเซ็นให้ทุกครั้งเหรอ หมอบีบอกว่าใช่ครับ

หนุ่มถึงกับบอกว่าเข้าใจแล้วทำไมกองปราบต้องเรียกหลวงพ่อ เป็นประเด็นที่ต้องไปวิเคราะห์อีกที เพราะตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันย้อนแย้ง หมอบีพูดว่า ไม่ครับ ผมว่าเป็นการที่เราทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์ แต่ด้วยความที่หลวงพ่อและตนไม่ใช่นักกฎหมาย เราทำด้วยเจตนาดี และเห็นด้วยประจักษ์พยาน ทุกคนเห็นว่าสิ่งที่ทำดีมันช่วยเหลือคน

หนุ่มสรุปว่า มันจะจบเลยถ้าเงินทั้งหมดไม่ได้ถูกคิดแบบสั้นๆ ในการถอนเงินสดไปให้พระ ถ้าโอนไปตั้งแต่แรก เรื่องนี้มันจบ เพราะทุกอย่างตรวจสอบได้

ชมคลิป

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หมอบี แจงเหตุถวายเงินสดให้หลวงพ่อแทนการโอน ทำจดหมายเป็นหลักฐาน แต่ทำไมมีตราปั๊มของวัด