นายกฯ ขึ้นศาล รธน.ไต่สวนคดีคลิปเสียงเช้านี้
(21 ส.ค. 68) เวลา 09.27น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สวมสูทสีดำ เดินทางมารับการไต่สวนตดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงได้ยกมือสวัสดี และยิ้มให้สื่อมวลชนเล็กน้อย จากนั้นนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนเข้าห้องพิจารณาคดีตามระเบียบของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่อนุญาตนำเครื่องมือสื่อสารเข้าห้องพิจารณาคดี ในช่วงระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดิน สื่อมวลชนได้เรียกนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยกมือไหว้ แต่ไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่ากำลังใจดีหรือไม่
จากนั้นเวลา 09.32 นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และ นางพินทองธาร คุณากรวงศ์ พี่สาว ได้เดินทางมาถึงศาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินมาหาและพูดคุยกันเล็กน้อย โดย พินทองธา ได้จับแขนน้องสาวเป็นระยะๆ เพื่อให้กำลังใจ นับว่าทั้ง 2 คน เป็นกำลังใจสำคัญให้นายกรัฐมนตรีในวันนี้ จากนั้นทุกคนได้เดินขึ้นศาลไป
เวลา 10.00 น. นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะพยาน เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อชี้แจง
ทางด้านนายสมชาย แสวงการ อดีต สว. นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับฟังการไต่สวนในวันนี้ ได้เดินทางมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายสมชายให้สัมภาษณ์ว่า ได้เห็นคำแถลงต่อศาลของทีมกฎหมายนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าทำการบ้านมาดี และคิดว่าคงซ้อมกันมาแล้วว่าจะให้การกับศาลอย่างไร ซึ่งมองว่าเป็นหลักปกติที่ดีผู้ถูกร้องใช้สิทธิ์เต็มที่ที่ศาลจะวินิจฉัยทั้งคำร้องเดิมของ สว. 36 คน คำชี้แจงและการซักถามให้ละเอียด เชื่อว่าชี้แจงวันนี้จะเป็นบวกหรือลบก็อยู่ที่ตัวของ น.ส.แพทองธาร
ส่วนการถ่ายทอดการไต่สวนของศาลเชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์เพราะคนไทยทั้งประเทศได้ฟังคลิปเสียงหมดแล้ว เชื่อว่าฟังกันไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง และเห็นปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ น.ส.แพทองธารจะได้ชี้แจงต่อศาลว่าเหตุใดที่โทรศัพท์ไปจนเกิดปัญหาพิพาทขึ้น จะอ้างว่าทำโดยสุจริต เจตนาอ้างได้ แต่การอธิบายควรชี้แจงตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งมาชี้แจงในเอกสารต่อศาล ส่วนความผิดนี้ถือเป็นความรับผิดชอบต่อนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก แต่เจ้าตัวไม่ลาออก ส.ว.ต้องใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องศาล และยื่นดำเนินคดีที่กรมสอบสวนกลาง
ตนมั่นใจว่าสิ่งที่นายกทำผิดจริยธรรมและข้อกฎหมายประมวลกฎหมายอาญาหมวด 3 เรื่องความมั่นคงของชาติ ซึ่งตำรวจสอบสวนกลางได้สอบสวนเสร็จแล้วได้ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. การมาศาลวันนี้เป็นประเด็นเพิ่มที่พวกตนมองว่า หากการไต่สวนมีเรื่องเกี่ยวข้องกับบางเรื่องสามารถเอาไปใก้ตำรวจสอบสวนกลาง ให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีต่อได้ แต่จะพยายามรอฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ หาก น.ส.แพทองธารไม่ลาออกก่อน ศาลจะมีคำวินิจฉัยผูกพันทุกองค์กร
ส่วนบรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด มีการจัดระเบียบสื่อมวลชน นำแผงเหล็กมากั้น ให้สื่อมวลชนรออยู่ด้านนอก และตั้งจอโทรทัศน์ถ่ายทอดสัญญาณการไต่สวน