เตรียมรับมือพายุ คาจิกิ เต็มกำลัง สั่ง สทนช. เกาะติดสถานการณ์ ยกระดับจัดการน้ำตามความรุนแรง
“รองนายกฯ ประเสริฐ” เผย รัฐบาลเตรียมรับมือพายุ “คาจิกิ” เต็มกำลัง สั่ง สทนช. เกาะติดสถานการณ์ พร้อมยกระดับบริหารจัดการน้ำตามระดับความรุนแรง
วันที่ 23 สิงหาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ตอนบนได้พัฒนาตัวเป็นพายุโซนร้อน “คาจิกิ” แล้ว และมีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบนในช่วง วันที่ 25 – 26 สิงหาคมนี้
ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ระยะนี้หลายพื้นที่ของไทยมีแนวโน้มเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก คาดว่าจะส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าแหล่งกักเก็บน้ำต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมกับปริมาณน้ำเดิมจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูฝนนี้ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดฝนตกสะสมในหลายพื้นที่
นายประเสริฐ กล่าวว่า จึงได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการหน่วยงานติดตามสถานการณ์ของเขื่อนทุกแห่งอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำมาก ให้เตรียมพร้อมปรับการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยคำนึงถึงผลกระทบในภาพรวมและความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนเป็นสำคัญ เช่น เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งได้
สั่งการล่วงหน้าให้ปรับแผนการระบายน้ำเพื่อรองรับมวลน้ำที่จะไหลเข้ามาเพิ่มเติมจากฝนในระลอกนี้ พร้อมเน้นย้ำให้พิจารณาผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ สทนช. ประเมินระดับความรุนแรงของสถานการณ์อุทกภัย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการยกระดับการบริหารจัดการน้ำตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ซึ่งแบ่งกรอบโครงสร้างการปฏิบัติงานเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับ 1 หน่วยบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ที่มีพื้นที่น้ำท่วมขังไม่เกิน 2 จังหวัด ความลึกระดับน้ำน้อยกว่า 0.5 เมตร ระยะเวลาท่วมขังไม่เกิน 15 วัน และไม่มีแนวโน้มแผ่ขยาย
โดยมีเลขาธิการ สทนช. เป็นประธาน ระดับ 2 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ทำหน้าที่ควบคุมวิกฤติน้ำในภาวะรุนแรงหรือคาดว่าจะรุนแรง โดยมีสถานการณ์น้ำท่วมขังเกิน 2 จังหวัดในพื้นที่เปราะบางหรือพื้นที่เศรษฐกิจ ความลึกระดับน้ำมากกว่า 0.5 เมตร ระยะเวลาท่วมขังมากกว่า 15 วัน และมีแนวโน้มแผ่ขยาย เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตตามปกติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้อำนวยการ และ ระดับ 3 ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ เป็นการยกระดับจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติเพื่อจัดการสถานการณ์น้ำในภาวะวิกฤติหรือคาดว่าจะวิกฤต ในสถานการณ์ที่มีน้ำท่วมขังเกิน 2 จังหวัดในพื้นที่เปราะบางหรือพื้นที่เศรษฐกิจ ความลึกระดับน้ำมากกว่า 1 เมตร ระยะเวลาท่วมขังมากกว่า 30 วัน และมีแนวโน้มแผ่ขยาย ต้องอาศัยการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้กระทรวงต่าง ๆ เนื่องจากกระทบต่อการดำรงชีวิตของคน สัตว์ หรือพืช สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน ส่งผลให้การดำรงชีวิตตามปกติต้องหยุดชะงัก
โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการ จนกว่าปัญหาวิกฤติน้ำจะผ่านพ้นไป ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเตรียมแผนรองรับในทุกระดับ ตามนโยบายที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เตรียมรับมือพายุ คาจิกิ เต็มกำลัง สั่ง สทนช. เกาะติดสถานการณ์ ยกระดับจัดการน้ำตามความรุนแรง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th